ผู้ที่เป็นรักข้ามเพศอาจรู้สึกว่าพวกเขากำลังสิงอยู่ในร่างที่ไม่ใช่ตัวตนของพวกเขา มาดูกันว่าพวกเขาเหล่านี้เป็นอย่างไรและมีความรู้สึกนึกคิดเช่นไร
หากคุณเป็นผู้ชายคุณอาจไม่คิดมากเรื่องการเป็นบุคคลข้ามเพศ และหากคุณเป็นชายหรือหญิงอยู่แล้วตามธรรมชาติของเพศก็ย่อมไม่ต้องคิดมากแต่อย่างใด ทว่าไม่ทุกคนที่เป็นเช่นนี้ นั่นก็คือผู้ที่เป็นบุคคลข้ามเพศอย่างผู้ที่เกิดมาในร่างชายแต่ใจเป็นหญิงหรือผู้ที่เกิดในร่างหญิงแต่ใจเป็นชาย
ผู้ที่เป็นรักข้ามเพศอาจรู้สึกว่าพวกเขากำลังสิงอยู่ในร่างที่ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของพวกเขา และมักจะพูดอยู่เสมอว่า “จิตวิญาณพวกเรากำลังถูกขังอยู่ในร่างของคนอื่น”
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
รักข้ามเพศคืออะไร
การทราบว่าตนเป็นเพศใดไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายนั้น เรียกว่า อัตลักษณ์ทางเพศ ซึ่งทุกคนมีสิ่งนี้ และเป็นความรู้สึกที่ติดตัวเรามาตั้งแต่แรกเกิดซึ่งเป็นความรู้สึกว่าเราเป็นหญิงหรือชาย โดยคนส่วนใหญ่จะมีอัตลักษณ์ทางเพศที่ตรงกับลักษณะทางร่างกาย แต่สำหรับผู้ที่เป็นรักข้ามเพศแล้วพวกเขาไม่ใช่
สิ่งที่สังคมคาดหวังว่าให้เราเป็นชาย หญิง เด็กชาย หรือเด็กหญิงนั้นส่งผลต่อความรู้สึกลึกๆ ภายใน เนื่องจากว่าทุกๆ สังคมและวัฒนธรรมต่างมี “กฎ” และสิ่งที่สังคมคาดหวังจากความเป็นเพศชายและความเป็นเพศหญิง ไม่ว่าจะเป็น ทรงผม เสื้อผ้า และงาน เป็นต้น แล้วคนเหล่านี้จะต้องปฏิบัติตัวเช่นไร
กฎทางสังคมเป็นสิ่งที่ไม่ได้มีการพูดออกมา แต่เราจะทราบได้ว่ามันคือกฎจากการเห็นในสิ่งที่ผู้คนต่างปฏิบัติตามกันมา ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงเติบโตขึ้นมาด้วยความเชื่อที่ว่าผู้ชายจะต้องปฏิบัติตัวตามแนวทางของผู้ชายและผู้หญิงก็ต้องปฏิบัติตนตามแนวทางที่ถูกกำหนดไว้โดยไม่มีข้อแม้ใดๆ แต่ผู้ที่เป็นรักข้ามเพศกลับมีความคิดที่แตกต่างออกไป
ผู้ที่เป็นรักข้ามเพศบางคนรู้ว่าตนเองนั้น “แตกต่าง” ตั้งแต่พวกเขายังเป็นเด็กเล็กๆ ในขณะที่บางคนรู้สึกตอนที่พวกเขาเริ่มเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์หรือหลังจากนั้น และเมื่อพวกเขารู้ตัวว่าร่างกายของพวกเขานั้นขัดกันกับจิตใจและความรู้สึก พวกเขาเหล่านี้จะมีความรู้สึกสับสนในตนเองและมีอารมณ์ที่ขัดแย้งกันอยู่ภายใน
บางคนตัดสินใจที่จะเปลี่ยนสภาพร่างกายของพวกเขาโดยการผ่าตัดหรือใช้ฮอร์โมนเพศเพื่อให้ร่างกายมีลักษณะตรงกับอัตลักษณ์ทางเพศที่พวกเขารู้สึก การเปลี่ยนแปลงลักษณะของร่างกายให้ตรงตามความรู้สึกที่เป็นถือเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลา มีความซับซ้อน และต้องใช้งบประมาณสูง
ไม่ทุกคนหรอกที่จะตัดสินใจผ่าตัดหรือใช้ฮอร์โมนเพศ มีผู้ที่เป็นรักข้ามเพศหลายคนพอใจที่จะคงลักษณะทางกายภาพแบบเดิมไว้แต่พวกเขาจะปรับเปลี่ยนลุคด้วยการแต่งตัวในแบบที่ตรงกันข้าม อย่างไรก็ตามก็ยังมีบางคนที่ยังไม่แน่ใจว่าพวกเขาต้องการอะไรกันแน่ แต่อาจเริ่มต้นด้วยการให้เพื่อนๆ เรียกพวกเขาในอีกชื่อหรือใช้สรรพนามที่ตรงกันข้ามกับเพศที่มีอยู่ เช่น ให้เพื่อนๆ เรียกว่า Amanda แทนชื่อที่แท้จริงคือ Anthony หรือให้เพื่อนๆ ใช้สรรพนาม she แทน he เป็นต้น
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
เมื่อผู้ที่เป็นรักข้ามเพศเริ่มใช้ชีวิตแบบที่จิตใต้สำนึกของตนเป็น อาจส่งผลให้เกิดปัญหาหรือความไม่สะดวกในการใช้ชีวิตได้ เช่น การกรอกแบบฟอร์มต่างๆ ที่ต้องระบุชัดเจนว่าเป็นเพศชายหรือหญิง หรือแม้แต่การใช้ห้องน้ำสาธารณะก็ไม่ง่ายสำหรับพวกเขาเลย
ใช่ว่าผู้ที่เป็นรักข้ามเพศทุกคนจะมีความคิดหรือมีความต้องการที่เหมือนกันทั้งหมด มันขึ้นอยู่กับความต้องการและความสะดวกใจของแต่ละบุคคลที่จะเปิดเผยมากเพียงใดหรือเป็นรักข้ามเพศแบบไหน
คำว่า “รักข้ามเพศ” แปลว่าอะไรกันแน่
คำว่า “รักข้ามเพศ” ไม่ได้หมายถึงผู้ที่มีอัตลักษณ์ทางเพศเป็นแบบเพศตรงข้ามเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงผู้ที่รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เป็นชายแท้หรือหญิงแท้ด้วย
นอกจากคำว่า “รักข้ามเพศ” แล้ว ยังมีคำอื่นที่อธิบายถึงผู้ที่รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เป็นอย่างเพศสภาพตามที่ธรรมชาติให้มา เช่น Gender variant, MTF (for male to female) และ FTM(for female to male) เป็นต้น อย่างไรก็ตามก็ยังมีบางคนที่ไม่ต้องการถูกเรียกว่าอะไรทั้งนั้น แต่ต้องการเพียงให้ทุกคนเข้าใจในสิ่งที่พวกเขาเป็น
ผู้ที่เป็นรักข้ามเพศเป็นเหมือนผู้ที่รักเพศเดียวกันหรือไม่
คำตอบคือ “ไม่” ผู้ที่เป็นรักข้ามเพศนั้นแตกต่างกับผู้ที่รักเพศเดียวกัน
การเป็นรักข้ามเพศนั้นเป็นเหมือนการแสดงออกถึงอัตลักษณ์ทางเพศ ซึ่งเป็นแนวทางและเพศที่คุณเลือกจะเป็น แต่การเป็นผู้ที่รักเพศเดียวกัน อย่างเกย์หรือเลสเบี้ยนนั้นเป็นรสนิยมทางเพศ ซึ่งหมายถึงเพศของฝ่ายตรงข้ามที่คุณพึงพอใจ ชอบ หรือสนใจมากกว่า
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
โดยเกย์หรือเลสเบี้ยนจะยังคงพึงพอใจในเพศสภาพที่ตนเป็นและไม่ได้ต้องการเปลี่ยนเพศของตนเองแต่อย่างใด แต่พวกเขามีความสนใจ พึงพอใจ และชอบผู้ที่เป็นเพศเดียวกัน เนื่องจากรสนิยมทางเพศนั้นมีความแตกต่างจากอัตลักษณ์ทางเพศ ซึ่งผู้ที่เป็นรักข้ามเพศสามารถรักได้ทั้งเพศตรงข้าม เพศเดียวกัน หรือทั้งสองเพศก็ได้
ผู้ที่แต่งตัวตรงข้ามกับเพศสภาพของตัวเองเรียกว่าเป็นผู้ที่รักข้ามเพศรึเปล่า
ผู้ที่แต่งตัวในลักษณะที่ตรงกันข้ามกับเพศสภาพของตน เรียกว่า cross-dressers อย่างไรก็ตามผู้ที่แต่งตัวตรงข้ามกับเพศสภาพไม่ได้แปลว่าพวกเขาจะเป็นผู้ที่รักข้ามเพศซะทุกคน บางคนแต่งตัวแบบ cross-dresser เพื่อความสนุกสนาน ความสะดวกสบาย หรือเป็นสไตล์เฉพาะตัว
อะไรทำให้พวกเขาเป็นผู้ที่รักข้ามเพศ
ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหลายคนเชื่อว่าการเป็นผู้ที่รักข้ามเพศไม่ได้เกิดจากสาเหตุเดียว ทว่ามีสาเหตุมาจากความซับซ้อนทางชีววิทยา จิตวิทยา และสภาพแวดล้อม – ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงการเลือกที่จะเป็นเท่านั้น
ผู้เชี่ยวชาญไม่อาจทราบได้ว่าสิ่งใดกันแน่ที่เป็นสาเหตุให้บุคคลหนึ่งพึงพอใจหรือไม่พึงพอใจในเพศสภาพของตน และก็ไม่มีใครทราบได้ว่าเหตุใดผู้ชายจึงพอใจในความเป็นเพศชายและผู้หญิงมีความพึงพอใจในความเป็นเพศหญิง
อนาคตของพวกเขาเหล่านี้จะเป็นอย่างไร
การที่คนจำนวนหนึ่งรู้สึกว่าพวกเขาอยู่ในร่างกายที่ไม่ได้เป็นตัวตนที่แท้จริงเป็นสิ่งที่หลายคนอาจไม่สามารถเข้าใจได้ ดังนั้นผู้ที่รักข้ามเพศหลายคนจึงยังไม่กล้าที่จะพูดคุยเรื่องนี้กับใคร
สำหรับเขาเหล่านี้แล้วการเป็นผู้ที่รักข้ามเพศทำให้พวกเขารู้สึกแปลกแยกจากสังคม บางครั้งอาจเผชิญกับสถานการณ์ที่ถูกปฏิเสธ การเลือกปฏิบัติ และความไม่ชอบจากผู้ที่ไม่เข้าใจ จึงเป็นเรื่องที่ท้าทายมากที่จะต้องจัดการกับปฏิกิริยาที่ผู้อื่นแสดงออกกับพวกเขา และไม่ทุกคนหรอกที่จะสามารถยอมรับและเข้าใจ ซึ่งผู้ที่เป็นรักข้ามเพศวัยทีนหลายๆ คนต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่เป็นมิตรและไม่เป็นธรรมอยู่เสมอ และท้ายที่สุดสถานการณ์ดังกล่าวอาจนำมาสู่ภาวะกดดัน อาการซึมเศร้า และการแปลกแยกจากสังคมได้
อย่างไรก็ตาม ยังมีกลุ่มผู้สนับสนุนและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจำนวนมากมุ่งมั่นที่จะช่วยให้ผู้ที่เป็นรักข้ามเพศเหล่านี้ได้รับการยอมรับ การสนับสนุน สิทธิ และการดูแลทางการแพทย์ที่เหมาะสมเท่าเทียมกัน พบว่ามีศูนย์การแพทย์หลายแห่งพร้อมให้การสนับสนุนและช่วยเหลือเขาเหล่านี้จัดการกับปัญหาทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ
ไม่ว่าใครก็ตามล้วนต้องการการยอมรับ ความเข้าใจ และการสนับสนุน – เขาเหล่านี้ก็เช่นกัน!
ที่มาของข้อมูล http://kidshealth.org/en/teens/transgender.html