เรียนรู้ที่จะรักคนที่คุณอยู่ด้วยเพื่อให้มีความสุขมากขึ้น

ความลับของการมีความสุขตลอดไป ? พยายามเข้าใจคนอื่น
เผยแพร่ครั้งแรก 4 ก.ย. 2017 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 3 นาที
เรียนรู้ที่จะรักคนที่คุณอยู่ด้วยเพื่อให้มีความสุขมากขึ้น

หากคุณคิดว่าคุณเป็นคนที่ชอบเข้าสังคมตามธรรมชาติ คุณอาจไม่ได้ตกใจเมื่อได้ยินว่าการใช้เวลากับเพื่อนและครอบครัวนั้นจะทำให้คุณมีความสุขมากขึ้น แต่หากคุณเป็นพวกต่อต้านสังคม คุณไม่ควรมองข้ามเรื่องนี้ เพราะว่าคุณจะมีความสุขมากขึ้นเมื่อได้ออกไปพบปะกับคนอื่นจริง ๆ 

มีการวิจัยเกี่ยวกับพฤติกรรมและสังคมต่อสุขภาพมาหลายปี โดยจากการศึกษาพบว่ามนุษย์นั้นเป็นสัตว์สังคมซึ่งต้องการการติดต่อกับมนุษย์คนอื่นเพื่อให้สามารถอยู่รอดได้ 

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

ในความเป็นจริงแล้ว การขาดการติดต่อทางสังคมนั้นถูกเรียกว่าเป็นความเสี่ยงต่อสุขภาพมากกว่าการสูบบุหรี่ด้วยซ้ำ การอยู่คนเดียวส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของคุณเช่นเดียวกับความเสี่ยงต่อการเกิดโรควิตกกังวล ซึมเศร้า และพฤติกรรมหลีกเลี่ยงสังคม (มันง่ายมากที่จะพบว่าเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นเป็นวงจรอุบาทว์: การไม่เข้าสังคมทำให้เพิ่มพฤติกรรมที่จะส่งผลต่อการเข้าสังคมมากขึ้น ซึ่งหมายความว่าจะมีพฤติกรรมดังกล่าวมากขึ้นไปอีก) และนี่คือสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับการเข้าสังคมและความสุข 

การเข้าสังคมนั้นเป็นโรคติดต่อ 

ประโยชน์จากการเข้าสังคมทั้งความรัก  ความเข้าใจ และความสุขนั้นเป็นเหมือนโรคติดต่อซึ่งสามารถส่งผ่านความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ได้ และนั่นเป็นข่าวดี เพราะหมายความว่าคุณสามารถได้รับประโยชน์จากเครือข่ายของคุณ (ซึ่งก็คือผู้ที่คุณมีปฏิสัมพันธ์ด้วยไม่ว่าจะเป็นทางโทรศัพท์หรือออนไลน์) ในแบบที่ไม่คาดคิด และแม้ว่าความสัมพันธ์แบบลึกซึ้งจะทำให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุด แต่การปฏิสัมพันธ์ง่าย ๆ ก็สามารถส่งผลดีมาได้เช่นกัน 

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดบางคนคิดว่าเครือข่ายทางสังคมซึ่งเกิดขึ้นจากกลุ่มเพื่อนนั้นทำให้เกิดผลดีต่อเนื่องในหลายทาง ซึ่งผู้ที่กำลังได้รับอาจจะไม่เคยสังเกตมาก่อน 

การสร้างความสัมพันธ์นั้นขึ้นอยู่กับมุมมอง 

การที่คุณรู้สึกเหงาแม้ว่าจะยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนหรือรู้สึกโดดเดี่ยวแม้ว่าจะอยู่ท่ามกลางครอบครัวและเพื่อนนั้น แสดงว่าคุณมีปฏิสัมพันธ์น้อยลงเกี่ยวกับสิ่งที่คุณกำลังทำโดยขึ้นอยู่กับมุมมองที่คุณมีต่อความสัมพันธ์เหล่านั้น 

ควรใช้เวลาในการรู้สึกขอบคุณทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตซึ่งทำให้ความสัมพันธ์นั้นลึกซึ้งยิ่งขึ้น ไม่ว่านั่นจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมของคุณหรือไม่ก็ตาม 

การมีความสัมพันธ์ทำให้เราใจดีมากขึ้น 

การสัมผัสถึงความเชื่อมโยงของตัวเรากับบุคคลรอบ ๆ ได้จะเพิ่มระดับความใส่ใจ การทดลองที่มีชื่อเสียงของ Jonathan Stark ที่เผยแพร่ข้อมูลบัตร Starbucks ของเขาให้สาธารณะและสนับสนุนให้ใครก็ตามสามารถใช้มันหรือบริจาคได้ตามที่ต้องการ นั้นเป็นการนำบัตรดังกล่าวมาใช้เชื่อมโยงทั้งทางเครือข่ายออนไลน์ทำให้คนอื่นอยากที่จะมีส่วนร่วม มันเหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมซึ่งดึงเอาความรู้สึกอยากที่จะให้ของแต่ละคนออกมา ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้เมื่อเรานำมาเปรียบเทียบกับการบริการในชุมชนและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่อื่น ๆ ผู้ที่มีน้ำใจต่อคนอื่นนั้นไม่ได้ทำให้สุขภาพและความสุขของตนเพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้พวกเขารู้สึกว่าตนเองเชื่อมโยงกับผู้อื่นมากขึ้น และผู้ที่ได้รับการบริการนั้นก็รู้สึกดีขึ้นเช่นกัน 

เราสามารถเก็บเกี่ยวจากความสัมพันธ์ได้ 

ใช่แล้ว แม้แต่คนที่ไม่ค่อยชอบแสดงออกก็ยังสามารถหาวิธีที่จะสร้างและพัฒนาความสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ ได้ ในโลกปัจจุบันที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีทำให้การหาจุดยืนหรือกลุ่มของคุณนั้นง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในลักษณะบุคคลจริง ๆ หรือผ่านสื่อออนไลน์ ข่าวดีก็คือความสัมพันธ์ที่ดีทั้งหมดนั้นทำให้มีผลดีต่อสุขภาพและความสุข ดังนั้นคุณจึงไม่จำเป็นต้องมองหาเฉพาะเพื่อนสนิทหรือความสัมพันธ์แบบลึกซึ้งถึงจะมีความสุข การเข้าร่วมปฏิสัมพันธ์ในแง่บวกใด ๆ ก็ตามจะเพิ่มความรู้สึกดีให้กับคุณ ยิ่งคุณติดต่อกับคนอื่นมากเท่าไร คุณก็จะยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น และคุณก็จะสามารถสร้างเครือข่ายได้มากขึ้นต่อไป 

ความสัมพันธ์คือคำตอบ 

หากคุณได้อ่านเกี่ยวกับ Grant study ซึ่งเป็นการศึกษาระยะยาว 75 ปีในการพยายามมองหาว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขมากที่สุด  George Vaillant ผู้อำนวยการของงานวิจัยนี้ได้ออกมาสรุปว่า ความสุขนั้นก็คือความรัก และเมื่อมองหาและพยายามตั้งคำถามว่าอะไรทำให้พวกเขารู้สึกรัก คำตอบนั้นก็คือคนอื่น ๆ ไม่ใช่สิ่งของหรือประสบการณ์ แต่เป็นความสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ เพราะนั่นคือสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขมากที่สุด


1 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป
การออกกำลังกาย (Fitness)
การออกกำลังกาย (Fitness)

10 ขั้นตอนในการเป็นผู้ฝึกสอนส่วนตัว

อ่านเพิ่ม