ทุกๆ วันสำหรับฉันนั้นล้วนแต่เริ่มต้นเหมือนเดิม คือการที่ฉันตั้งเป้าหมายว่าวันนี้จะเป็นวันที่ฉันให้ลูกเลิกดื่มนนมแม่ ปัญหาเพียงอย่างเดียวก็คือ ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าฉันจะต้องทำอย่างไร
ฉันให้นมลูกทั้ง 4 คนมาโดยตลอด และจากประสบการณ์ก็พบว่าแต่ละคนมีการเลิกดื่มนมแม่ที่แตกต่างกัน และจริงๆ แล้วพวกเขาก็ไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่เป็นตัวกำหนดว่าจะได้รับนมแม่ถึงเมื่อไหร่ มันยังขึ้นกับความสามารถ ความอดทน และสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับชีวิตของเราที่ล้วนแต่เป็นปัจจัยสำคัญ เพราะฉันเชื่อว่าการเป็นพ่อแม่ที่ดีและมีความสุขนั้นเริ่มจากการดูแลตัวเองในฐานะแม่ก่อน
ดังนั้นการเอาตัวฉันเข้ามาอยู่ในกระบวนการคิดเรื่องการเลิกนมแม่ก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน สำหรับลูกคนแรก ฉันให้นมลูกถึงประมาณ 15 เดือนจนกระทั่งฉันตั้งครรภ์ลูกคนที่ 2 หลังจากนั้นฉันพบว่าการให้นมเธอไปพร้อมๆ กับการมีฮอร์โมนที่เกิดขึ้นระหว่างการตั้งครรภ์กลายเป็นเรื่องที่เจ็บปวดและไม่สบายเกินไป สำหรับลูกคนที่ 2 และ 3 พวกเขาเลิกดื่มนมแม่ตอนอายุ 1 ขวบ และไม่มีปัญหาแต่อย่างใด สำหรับครั้งนี้ ฉันพบว่าลูกคนที่ 4 ของฉันดูเหมือนจะอยากดื่มนมแม่ไปตลอด เธอชอบเวลาที่เราอยู่บนเก้าอี้โยกเวลาที่ฉันให้เธอทานนม และเธอถึงขั้นที่บอกและขอให้ฉันให้นมเธอ บางครั้งฉันก็รู้สึกแปลกเพราะว่าลูกคนอื่นๆ ของฉันไม่เคยเป็นแบบนี้ แต่ฉันก็ยินดีที่จะให้เธอทานนมต่อไปเรื่อย ตราบใดที่มันยังเป็นเรื่องที่ทำได้
แต่ปริมาณน้ำนมของฉันน้อยกว่าความต้องการของเธอ และชีวิตของเราก็เริ่มยุ่งมากขึ้นจากการทำงานที่ต้องเริ่มเดินทางไปหลายที่ ฉันจึงเริ่มเตรียมตัวที่จะเริ่มกระบวนการให้ลูกเลิกนมแม่
แนะนำคุณแม่มือใหม่วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 297 บาท ลดสูงสุด 59%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ฉันได้ลองค้นหาคำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องนี้ และนี่คือสิ่งที่ฉันพบ
- อย่าเริ่มจนกว่าจะเลย 6 เดือนไปแล้ว สมาคมกุมารแพทย์แห่งสหรัฐอเมริกาแนะนำให้เด็กที่ได้รับนมแม่ทุกคนควรได้รับนมแม่เพียงอย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิต ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ อย่าเพิ่งให้พวกเขาเลิกทานนมจนกว่าจะอายุอย่างน้อย 6 เดือนหรือมากกว่า 1 ปีถ้าเป็นไปได้
- ไม่มีวันที่ตายตัว สมาคมกุมารแพทย์แห่งสหรัฐอเมริกายังได้ระบุว่าเด็กสามารถรับประทานนมแม่ต่อไปได้นานตามความต้องการของแม่และทารก ดังนั้นหากคุณ และลูกยังไม่พร้อมก็ไม่ต้องกังวลไป การให้นมแม่นานขึ้นไม่ได้ทำให้เกิดข้อเสียแต่อย่างใด ดังนั้นคุณควรทำในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณและลูก
- ลดการให้นมทีละ 1 มื้อ หากคุณพร้อมที่จะเริ่มการเลิกทานนมแม่ คุณอาจจะเริ่มจากการลดจำนวนมื้อที่รับประทานทีละ 1 มื้อแทนการเปลี่ยนไปรับประทานอาหารทั้งหมดในทันที ฉันพบว่าการลดปริมาณมื้อที่รับประทานในช่วงการนอน และในช่วงระหว่างกลางดึกที่คุณ และลูกต่างก็เหนื่อย และง่วงเป็นช่วงที่ง่ายที่สุด ควรเริ่มกำหนดเวลาในการอ่านหนังสือ และกอดก่อนนอนเพื่อให้ลูกของคุณรู้สึกผ่อนคลายแม้ว่าจะไม่ได้ทานนมแม่ ซึ่งก็จะทำให้การลดมื้ออื่นๆ ทำได้ง่ายขึ้นเช่นกัน
- คุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนให้ลูกไปรับประทานนมวัว หากลูกของคุณอายุมากกว่า 1 ปี พ่อแม่หลายคนก็อาจจะคิดว่าพวกเขาควรเริ่มเปลี่ยนให้ลูกมารับประทานนมวัวแทนนมแม่ แต่ก็ไม่ได้จำเป็นเสมอไป ลูกชายของฉันปฏิเสธที่จะดื่มนมวัวหลังจากเลิกนมแม่ ในตอนแรกฉันรู้สึกตกใจมากเพราะคิดว่าเขาควรต้องรับประทานนม แต่กุมารแพทย์ของเราบอกว่าเขาจะยังได้รับแคลเซียม และวิตามินจากผลิตภัณฑ์จากนมอื่นๆ เช่น ชีสและผัก และเขาก็จะไม่เป็นอะไร จนถึงวันนี้เขาก็ยังไม่ค่อยดื่มนม ฉันเลยคิดว่ามันก็คงเป็นแค่เรื่องของความชอบ
- ลองใช้ถ้วย หากคุณไม่อยากที่จะเริ่มกระบวนการเลิกทานนมแม่ และต้องเลิกใช้ขวดนมอีกครั้ง ลองเลิกทานนมแม่แล้วเปลี่ยนมาใช้ถ้วยเลยทันที นี่จะช่วยให้คุณลดภาระไปได้อีก 1 ขั้นตอน
- ขอความช่วยเหลือจากคู่ของคุณ สิ่งที่ยากที่สุดในการเลิกนมแม่สำหรับฉัน ก็คือมันง่ายกว่ามากที่ฉันจะให้นมลูกต่อ เช่นเวลาที่เธอร้องไห้ การให้เธอทานนมเป็นวิธีที่ง่ายในการช่วยกล่อมเธอ แต่หากต้องการเริ่มเลิกการทานนมแม่ ฉันต้องขอความช่วยเหลือจากสามี โดยเฉพาะในตอนกลางคืนหากลูกตื่นขึ้นมา และต้องการฉัน เพื่อช่วยกล่อมเธอด้วยวิธีอื่นที่ไม่ใช่การดื่มนมแม่
การเลิกนมแม่ ไม่ใช่สิ่งที่ง่ายเสมอไปสำหรับเด็กทุกคน แต่หากคุณรู้สึกว่านรีคือเวลาที่จะต้องเริ่มเลิกทานนมแม่ ก็ค่อยๆ ใช้เวลา อดทนกับวิธีการต่างๆ และใช้ความคิดของคุณเองในการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณและลูก เพราะการให้นมแม่เป็นเรื่องของคุณและลูก