วิธีแก้ไขเมื่อเกิดอาการเคืองตา คันตา

เคืองตา คันตา จัดการผิดวิธีเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนมากมาย ร้ายแรงสุดอาจตาบอดได้! อ่านวิธีแก้ไขเมื่อเกิดอาการเคืองตาอย่างปลอดภัยและถูกวิธีได้ที่นี่
เผยแพร่ครั้งแรก 21 ก.พ. 2018 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 8 นาที
วิธีแก้ไขเมื่อเกิดอาการเคืองตา คันตา
  • อาการเคืองตา เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ภูมิแพ้ สัมผัสสารเคมีหรือสิ่งแปลกปลอม ตาแห้ง
  • อาการแทรกซ้อนของอาการเคืองตา ได้แก่ ตาแดง เป็นตากุ้งยิง เป็นต้อ
  • วิธีรักษาอาการเคืองตาที่ดีที่สุดคือจัดการที่ต้นเหตุ ร่วมกับรักษาความสะอาด ห้ามขยี้ตาเด็ดขาด
  • ควรพบจักษุแพทย์หากอาการรุนแรงขึ้น 

สภาพอากาศของประเทศไทยมีฝุ่นและควันพิษจำนวนมาก จึงทำให้หลายคนเกิดการระคายเคืองตาจนนำไปสู่ความผิดปกติอื่นๆ ของดวงตา ฉะนั้นจึงควรรู้วิธีป้องกันเมื่อเกิดอาการเคืองตาและความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น

อาการเคืองตาเป็นอย่างไร?

เคืองตาคืออาการคันยุบยิบรอบดวงตาหรือในดวงตา เนื่องจากเกิดความระคายเคือง รู้สึกแสบ ลืมตาลำบาก บางรายอาจรู้สึกเจ็บและขยี้เพื่อบรรเทาอาการ

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

หากบรรเทาอาการผิดวิธี อาจส่งผลให้นำไปสู่ภาวะตาบอดได้ ฉะนั้นจึงควรอ่านและศึกษาวิธีจัดการที่ถูกต้องเมื่อเกิดอาการเคืองตา

อาการเคืองตาเกิดจากอะไร?

เคืองตาเกิดได้จากหลายปัจจัย ส่วนมากจะเคืองตาเมื่อสัมผัสสิ่งแปลกปลอม เช่น ฝุ่นละออง ขนสัตว์ แมลง ขี้เลื่อย ยาปฏิชีวนะบางชนิด การติดเชื้อ ควันพิษ สารพิษจากยาฆ่าแมลง และอาการภูมิแพ้ สาเหตุหลักๆ ที่พบได้บ่อยมีดังต่อไปนี้

1. เคืองตาจากภูมิแพ้

ภูมิแพ้คืออาการที่ภูมิต้านทานของร่างกายตอบสนองต่อสิ่งแปลกปลอมมากเกินไป แม้สิ่งแปลกปลอมนั้นอาจไม่ได้เป็นอันตรายก็ตาม เช่น เกสรดอกไม้ ไรฝุ่นเล็กน้อย ก็ทำให้เคืองตาได้แล้ว จึงสร้างความรำคาญต่อการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก

  • สาเหตุของอาการภูมิแพ้
    สาเหตุของโรคภูมิแพ้อาจเกิดได้จากกรรมพันธุ์ และตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นภายนอก เช่น ควันไอเสีย ไรฝุ่น เกสรดอกไม้ ผู้ที่เป็นภูมิแพ้ประเภทอื่นที่ไม่ใช่ภูมิแพ้ตาก็อาจส่งผลกระทบต่อตาได้เช่นกัน บางคนเป็นภูมิแพ้ทางเดินหายใจ ก็อาจแสดงอาการแพ้ผิวหนัง ตา และอาหารได้
  • บรรเทาอาการเคืองตาจากภูมิแพ้ตาเบื้องต้น
    หากเป็นภูมิแพ้ตาแล้วเกิดอาการเคืองตา ให้สังเกตว่าอะไรทำให้แพ้แล้วหยุดใช้ทันที อาจเป็นเครื่องสำอาง ไรฝุ่น จากนั้นกินยาแก้แพ้ คลอร์เฟนิรามีน (Chlorpheniramine) ซึ่งเป็นยาต้านฮีสตามีน ลดอาการแพ้ได้

    หรืออาจใช้น้ำแข็งใส่ในถุงพลาสติกและผ้าสะอาดห่อซ้อนอีกครั้งเพื่อป้องกันสิ่งสกปรกจากน้ำแข็ง ประคบเปลือกตาเพื่อลดอาการคันและบวมที่ดวงตา ไม่ควรใช้ผ้าซ้ำหากยังไม่ได้ทำความสะอาด หากอาการไม่ดีขึ้นควรไปพบจักษุแพทย์เพื่อวินิจฉัยต่อไป
  • วิธีรักษาอาการเคืองตาจากภูมิแพ้ตา
    ภูมิแพ้สามารถบรรเทาอาการได้ แต่บางรายไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยแพทย์อาจให้กินยาภูมิแพ้ตามอาการ ร่วมกับการออกกำลังกายเพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง

2. เคืองตาจากสารเคมีเข้าตา

สารเคมีเข้าตาไม่ใช่เรื่องไกลตัวแต่อย่างใด เพราะปัจจุบันเราใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางสารเคมีจำนวนมาก เช่น ยาฆ่าแมลง สารเคมีในโรงงานอุตสาหกรรม น้ำยาดับกลิ่นแบบสเปรย์ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการเคืองตาเมื่อสารเคมีเข้าตาจึงเป็นสิ่งสำคัญ

  • สาเหตุของการเคืองตาจากสารเคมีเข้าตา
    สารเคมีส่วนใหญ่ที่ทำร้ายดวงตาจะมีความเป็นกรดและด่าง หากสารเคมีที่เข้าตามีความเป็นกรด จะทำให้เกิดความระคายเคืองตา แสบ เนื่องจากกรดทำลายตาในชั้นตื้น เช่น กระจกตา เยื่อบุตา เปลือกตา

    แต่หากสารเคมีที่เข้าสู่ดวงตามีความเป็นด่าง นอกจากจะทำลายชั้นชื้นของดวงตาแล้ว ยังซึมเข้าสู่ลูกตาและทำลายม่านตาด้วย ฉะนั้นสารเคมีที่เป็นด่างจึงมีความอันตรายมากกว่ากรด

    อาการจะรุนแรงมากน้อยเพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของกรดและด่างที่สัมผัสดวงตา ปริมาณที่ได้รับ รวมถึงระยะเวลาที่ดวงตาสัมผัสกับสารเคมี
  • บรรเทาอาการเคืองตาจากสารเคมีเข้าตาเบื้องต้น
    เมื่อรู้ตัวว่าถูกสารเคมีจนระคายเคืองตา สิ่งสำคัญที่สุดคือใช้น้ำสะอาดล้างตาปริมาณมากนานๆ หากสารเคมีที่เข้าตามีความเข้มข้น อาจต้องล้างนาน 20-30 นาที เพื่อป้องกันไม่ให้ดวงตาถูกทำลาย

    นอกจากนี้หากมีสิ่งแปลกปลอมอื่นเข้าตาพร้อมกับสารเคมีด้วย ให้ใช้ไม้พันด้วยสำลีสะอาดเขี่ยออก และล้างน้ำจำนวนมากอีกครั้ง จากนั้นรีบไปพบจักษุแพทย์ทันที
  • วิธีการรักษาอาการเคืองตาจากสารเคมีเข้าตา
    จักษุแพทย์จะใช้เครื่องมือเพื่อถ่างตาและล้างด้วยน้ำเกลือสะอาดฆ่าเชื้อปริมาณมากตั้งแต่ 2-10 ลิตร ขึ้นอยู่กับชนิดและปริมาณของสารเคมีที่เข้าตา ระหว่างนี้จักษุแพทย์จะคอยตรวจค่าความเป็นกรดด่างอยู่เสมอ

    เมื่อล้างน้ำเกลือจนดวงตามีค่าเป็นกลาง จึงจะรักษาตามอาการต่อไป เช่น หากมีเนื้อเยื่อตายจะเอาออก หากมีอาการเคืองตาปวดตา อาจให้ยาแก้ปวด

3. เคืองตาจากการสัมผัสสิ่งแปลกปลอม

สิ่งแปลกปลอมที่มีขนาดเล็กมีโอกาสที่จะเข้าตาได้ตลอดเวลา เช่น หากเดินปะทะกับลมแรง หรือกวาดฝุ่นในบ้าน ทำให้เกิดอาการเคืองตาได้ เราจึงควรหาวิธีป้องกันอย่างถูกต้องเพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นกับดวงตา

  • สาเหตุของการเคืองตาจากการสัมผัสสิ่งแปลกปลอม
    เมื่อสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ดวงตา เราจะรู้สึกระคายเคืองตา เนื่องจากสิ่งแปลกปลอมอาจขูดกับกระจกตาหรือเยื่อบุตา ทำให้รู้สึกระคายเคือง นอกจากนี้บางครั้งสิ่งแปลกปลอมอาจติดในเปลือกตาด้านบน ทำให้เรามองไม่เห็นสิ่งแปลกปลอมนั้น แต่ยังคงรู้สึกถึงความระคายเคืองตาด้านบนอยู่
  • บรรเทาอาการเคืองตาจากการสัมผัสสิ่งแปลกปลอม
    หากรู้ตัวว่าสิ่งแปลกปลอมเข้าตาให้กระพริบตาถี่ๆ และจับเปลือกตายกขึ้นให้ห่างจากดวงตาเล็กน้อยด้วยความระมัดระวัง จะมีโอกาสทำให้สิ่งแปลกปลอมนั้นหลุดออกมาได้

    หากสิ่งแปลกปลอมยังไม่หลุดและรู้สึกเคืองตาอยู่ ให้ใช้น้ำสะอาดล้างพร้อมกับกรอกตาไปมาให้สิ่งสกปรกหลุดลอกออกไป

    สิ่งที่ไม่ควรทำมากที่สุดก็คือการขยี้ตา เนื่องจากจะทำให้กระจกตาดำถลอก ติดเชื้อ และนำไปสู่อาการผิดปกติทางตาอื่นๆ ได้อีกมากมาย
  • วิธีการรักษาอาการเคืองตาจากการสัมผัสสิ่งแปลกปลอม
    โดยปกติ หากทำตามวิธีบรรเทาอาการเบื้องต้นแล้ว สิ่งแปลกปลอมขนาดเล็กมักจะหลุดออกได้อยู่แล้ว แต่หากยังคงมีสิ่งแปลกปลอมบางชนิดที่ติดแน่น เช่น แมลง หรือผงเหล็ก

    ให้หาผ้าก๊อซสะอาดปิดตาไว้ แล้วไปพบจักษุแพทย์เพื่อรักษาตามอาการต่อไป เนื่องจากจักษุแพทย์จะมีเครื่องมือที่เหมาะสมในการนำสิ่งแปลกปลอมแต่ละชนิดออกจากดวงตา

4. เคืองตาจากอาการตาแห้ง

ตาแห้ง เป็นอีกหนึ่งอาการที่ทำให้เกิดการระคายเคืองตามากในปัจจุบัน เนื่องจากหลายคนทำงานที่ส่งผลต่อทำให้ตาแห้งและเคืองตาโดยไม่รู้ตัว

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจตา รักษาโรคตาวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 437 บาท ลดสูงสุด 61%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

  • สาเหตุของอาการเคืองตาจากอาการตาแห้ง
    ตาแห้งเกิดจากการใช้สายตาเพ่งมองหน้าจอหรือปะทะกับลมเป็นเวลานานโดยไม่หยุดพัก เมื่อใช้สมาธิเพ่งหน้าจอจะทำให้เรากระพริบตาน้อยลงโดยไม่รู้ตัว ส่งผลให้น้ำในตาระเหยออกได้ง่าย เมื่อทำไปสักระยะจะรู้สึกเคืองตาและแสบตา
  • บรรเทาอาการเคืองตาจากอาการตาแห้งเบื้องต้น
    หากเกิดอาการตาแห้งขึ้น เริ่มรู้สึกระคายเคืองตาหรือแสบตา ให้ใช้น้ำตาเทียมที่ไม่มีส่วนผสมของสารกันเสีย จะสามารถใช้ได้ทุกครั้งเมื่อมีอาการ แต่หากใช้น้ำตาเทียมที่มีสารกันเสีย ควรเว้นระยะ 4 ชั่วโมงก่อนหยอดครั้งต่อไป

    หากไม่มีน้ำตาเทียม ให้พักสายตาจากหน้าจอคอมหรือโทรศัพท์มือถือเป็นระยะ กระพริบตาให้บ่อยขึ้นขณะทำงานก็สามารถช่วยบรรเทาอาการได้เช่นกัน
  • วิธีการรักษาอาการเคืองตาจากอาการตาแห้ง
    การรักษาและป้องกันอาการตาแห้งนั้นเพียงแค่ปรับพฤติกรรมการทำงานเท่านั้น โดยเฉพาะพนักงานออฟฟิศที่ทำงานหน้าคอมในห้องแอร์ ทำให้เกิดจาแห้งได้ง่าย ควรพักสายตาเป็นระยะทุก 20-30 นาที รวมถึงจัดวางหน้าจอคอมให้อยู่ในระดับพอดีกับสายตา

    นอกจากนี้ควรเลือกหน้าจอที่กรองแสงหรือสวมแว่นกรองแสงสีฟ้าจากหน้าจอ เพื่อลดอาการเมื่อยล้าเคืองตาจากการทำงานด้วย

อาการเคืองตานำไปสู่อาการแทรกซ้อนอะไรได้บ้าง?

หากเกิดอาการเคืองตาแล้วจัดการไม่ถูกวิธี เผลอขยี้ตาจนกระจกตาดำถลอก หรือสิ่งแปลกปลอมที่เข้าตามีเชื้อโรค ก็อาจทำเกิดความผิดปกติแทรกซ้อนตามมา ดังนี้

1. ตาแดง มีขี้ตา จากอาการเคืองตา

คนที่ติดเชื้อตาแดงมักจะมีอาการเริ่มต้นคือระคายเคืองตา ปวดตา จากนั้นเมื่อผ่านไป 1-2 วันจะเกิดเป็นตาแดง บวม น้ำตาไหลเยอะ อาจเป็นข้างเดียวหรือลามทั้ง 2 ข้างเลยก็ได้

  • สาเหตุของอาการตาแดง
    อาการเคืองตา ตาแดง เกิดจากเชื้อไวรัสอะดีโนไวรัส (Adenovirus) ที่มักมากับหน้าฝน เราจึงมักเห็นคนเป็นตาแดงในช่วงหน้าฝนกันเยอะ ที่สำคัญคือเชื้อไวรัสตัวนี้สามารถแพร่กระจายผ่านอากาศ

    การสัมผัสน้ำตาของผู้ที่มีเชื้อแล้วนำมือไปขยี้เมื่อเคืองตา ก็จะทำให้ติดเชื้อตาแดงได้เช่นกัน หากติดเชื้อแล้วจะฟักตัวได้ใน 1-2 วัน เชื้อไวรัสสามารถลามไปยังตาอีกข้างได้ภายใน 2-3 วัน

    นอกจากนี้ การแลบลิ้นใส่ผู้ที่เป็นตาแดงไม่ได้ช่วยช่วยป้องกันโรคตาแดงแต่อย่างใด เป็นแค่วิธีสอนเด็กให้หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้ผู้ที่ตาแดง เพื่อป้องกันการติดเชื้อทางอากาศและน้ำตาเท่านั้น

    ระหว่างนี้หากติดเชื้อแบคทีเรียจากการขยี้ตาหรือสัมผัสสิ่งสกปรก ก็จะทำให้สายตามัว เคืองตาและปวดตามากขึ้น
  • บรรเทาอาการเคืองตาและตาแดงเบื้องต้น
    เมื่อเริ่มรู้ตัวว่าติดเชื้อตาแดง รู้สึกเคืองตา การรักษาความสะอาดเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้งเพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียขณะสัมผัสบริเวณรอบดวงตา หมั่นใช้กระดาษเนื้อนุ่มสะอาดซับน้ำตาและทิ้งอย่างมิดชิดเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค

    ไม่ควรใช้ผ้าซับน้ำตาซ้ำ เพราะเป็นการสะสมเชื้อโรคและกลับมาติดซ้ำได้ นอกจากนี้ยังควรหลีกเลี่ยงที่ชุมชน และไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น รวมถึงหยุดเรียนหรือหยุดงานประมาณ 1 สัปดาห์จนกว่าอาการจะหายดี
  • วิธีรักษาอาการเคืองตา ตาแดง
    หากมีอาการตาแดงในระยะเริ่มต้น กระจกตายังคงดูปกติไม่ขุ่นมัว จักษุแพทย์อาจให้ใช้การประคบเย็นร่วมกับหยอดยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียเพื่อป้องกันการติดเชื้อแทรกซ้อน

    แต่หากอาการตาแดงเริ่มเป็นพังผืดที่เยื่อบุตา สู้แสงไม่ได้ เคืองตามาก ตามัว แพทย์อาจให้ยาหยอดตากลุ่มสเตียรอยด์ (Steroid) เพื่อลดการระคายเคืองตารวมถึงเยื่อบุตาอักเสบ

2. เปลือกตาเป็นตุ่มหนองหรือตากุ้งยิงจากอาการเคืองตา

คนที่เป็นตากุ้งยิงจะสังเกตเห็นเม็ดกลมๆ บวมขึ้นมาได้ชัดเจนบริเวณเปลือกตา อาจเป็นได้ทั้งเปลือกตาบนและล่าง มีอาการปวด มีหนองออกมาจนทำให้ขี้ตาเยอะ ระคายเคืองตา ถ้าบวมมากอาจทำให้ใช้สายตาลำบากมากขึ้น

  • สาเหตุของเปลือกตาเป็นตุ่มหนองหรือตากุ้งยิง
    ตากุ้งยิงอาจเกิดได้จากทั้งการอุดตันของต่อมไขมันบริเวณเปลือกตาล่างและเปลือกตาบนทำให้เกิดการสะสมของเหลวภายในเปลือกตาและบวมออกมาจนเห็นได้ชัด หรืออาจเกิดจากเชื้อแบคทีเรียก็ได้

    เมื่อเกิดความระคายเคืองตา หลายคนมักจะขยี้ตาด้วยมือที่ไม่สะอาดทำให้เกิดการติดเชื้อ หรือการใช้คอนแทคเลนส์ที่ไม่สะอาดก็ทำให้เกิดตากุ้งยิงได้เช่นกัน
  • บรรเทาอาการตาเป็นตุ่มหนองหรือตากุ้งยิงเบื้องต้น
    เมื่อเริ่มมีอาการ หากไม่สามารถไปหาจักษุแพทย์ได้ในทันที ให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่นประคบดวงตาครั้งละ 15-20 นาที วันละ 3-4 ครั้ง เพื่อบรรเทาอาการบวมเจ็บตา และช่วยระบายต่อมไขมันเปลือกตาไม่ให้อุดตัน

    นอกจากนี้ควรระวังเรื่องความสะอาดเป็นพิเศษ หลีกเลี่ยงการใช้มือที่ไม่สะอาดสัมผัสบริเวณรอบดวงตา และไม่ควรบีบหนองที่ตาออกด้วยตัวเอง เพราะแรงบีบจะทำให้แผลอักเสบและเคืองตามากขึ้น
  • วิธีรักษาเปลือกตาเป็นตุ่มหนองหรือตากุ้งยิง
    หากรีบไปพบจักษุแพทย์ตั้งแต่อาการยังไม่รุนแรง ไม่มีหนอง อาจใช้แค่ยาปฏิชีวนะในการรักษาเท่านั้น แต่หากเกิดเป็นฝีหนองขึ้นแพทย์จะต้องทำการกรีดเจาะหนองบริเวณเปลือกตาออก โดยจักษุแพทย์จะฉีดยาชาเพื่อไม่ให้รู้สึกเจ็บ

    หลังจากนั้นผู้ป่วยยังอาจต้องรับประทานยาร่วมกับยาหยอดตาอีกด้วย และหากมีอาการปวดสามารถกินยาพาราเซตามอลครั้ง 1-2 เม็ดเพื่อบรรเทา

3. เป็นต้อที่ตาจากอาการเคืองตา

ต้อที่ตาเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการเคืองตาบ่อยๆ ผู้ป่วยที่เป็นต้อจะมีความสามรถในการมองเห็นลดลง เห็นภาพไม่มัวและจำเป็นต้องทำการรักษา

  • ประเภทและสาเหตุของต้อที่ตา
    สามารถแบ่งประเภทที่พบบ่อยได้ 2 ประเภทดังนี้
    • ต้อลมและต้อเนื้อ จะสังเกตเห็นเป็นเยื่อสีขาวขุ่นบริเวณตาขาว (หัวตาและขอบตา) หรือบางครั้งอาจมีสีแดงเนื่องจากเส้นเลือดฝอยในตาแตก อาการนี้เกิดจากดวงตาสัมผัสสิ่งแปลกปลอมทำให้ระคายเคืองตา เช่น ฝุ่น ควัน แสงแดด อาการที่เกิดขึ้นบริเวณตาขาวนี้เรียกว่าต้อลม

      ถ้าหากปล่อยไว้นานหรือระคายเคืองตาบ่อยๆ เยื่อตาของต้อลมจะค่อยๆ กินพื้นที่เข้าไปยังกระจกตาดำ ทำให้เห็นเป็นสีแดงขุ่นๆ รอบตาดำ และเกิดความระคายเคืองตาได้ อาการนี้เรียกว่าต้อเนื้อ
    • ต้อกระจก เป็นอาการที่เห็นได้ชัดจากภายนอก โดยเลนส์แก้วตาภายในดวงตาจะมีสีขาวขุ่น ผู้ที่เป็นจะมองเห็นภาพได้ไม่ชัด เนื่องจากแสงเข้าสู่ดวงตาได้น้อยลง หรือในบางรายอาจมองสีภาพเพี้ยนไปเป็นสีเหลือง

      สาเหตุเกิดจากดวงตาได้รับแสงอัลตราไวโอเลตบ่อย ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการเคืองตา รวมทั้งโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง
  • บรรเทาอาการต้อที่ตาเบื้องต้น
    วิธีบรรเทาอาการต้อเบื้องต้นแต่ละประเภท สามารถทำได้ดังต่อไปนี้
    • ต้อลมและต้อเนื้อ พยายามหลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้เกิดความระคายเคืองตา ลดการออกพื้นที่ที่มีแดดแรง การนั่งมองหน้าจอนานๆ เลี่ยงการปะทะฝุ่นและลม ก็จะบรรเทาอาการระคายเคืองตาได้บ้าง แต่หากต้องนั่งทำงานหน้าจอเป็นเวลานาน ให้พักสายตาเป็นระยะ ทุก 30 นาที
    • ต้อกระจก วิธีที่ดีที่สุดคือป้องกันไม่ให้เกิดต้อกระจก นั่นก็คือใส่แว่นกันแดดเมื่อออกแดด หลักเลี่ยงที่แสงจ้าและฝุ่น อย่าใช้มือสกปรกสัมผัสตาหากเกิดความระคายเคืองตา

      กินอาหารครบ 5 หมู่และออกกำลังสม่ำเสมอ เพื่อลดปัจจัยในการเกิดต้อกระจก แต่หากเริ่มมีอาการต้อกระจกควรรีบไปพบจักษุแพทย์เพื่อประเมินอาการ
  • วิธีรักษาอาการต้อที่ตา
    วิธีรักษาอาการต้อที่ตาประเภทต่างๆ จะแตกต่างกันออกไป ดังนี้
    • ต้อลมและต้อเนื้อ มักจะรักษาตามอาการ หากเกิดความระเคืองตาขึ้น ให้ใช้น้ำตาเทียมเพื่อลดอาการเคืองตา ถ้าหากมีอาการตาแดงอาจใช้ยาแก้อักเสบที่ไม่มีสเตียรอยด์ผสม ควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรก่อนใช้ยา
    • ต้อกระจก ไม่สามารถใช้ยาหยอดตาเพื่อสลายออกได้ จักษุแพทย์นิยมใช้วิธีผ่าตัดโดยใช้อัลตราซาวด์เพื่อเอาเลนส์ตาที่ขุ่นออก และใส่เลนส์แก้วตาเทียม ผู้ที่ผ่าตัดสามารถกลับมามองเห็นตาปกติได้

10 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
นพ. สุรพงษ์ ดวงรัตน์, โรคคันตา, (https://www.doctor.or.th/article/detail/6188), 1 กรกฏาคม 2527.
รศ. พญ. เกวลิน เลขานนท์, “โรคภูมิแำ้ตา” อาการเรื้อรังที่ไม่ควรละเลย, (https://med.mahidol.ac.th/ramachannel/home/article/โรคภูมิแพ้ตา-อาการเรื/), 17 กุมพาพันธ์ 2560.
อ. พญ. ภัศรา จงขจรพงษ์, โรคตาแห้ง อันตรายจากการใช้คอมพิวเตอร์ โรคฮิตคนทำงาน, (https://med.mahidol.ac.th/ramachannel/home/article/โรคตาแห้ง-อันตรายจากการ/).

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)