พ่อแม่หลายคนล้วนอยากรู้ว่า กำลังจะได้ลูกผู้หญิง หรือผู้ชาย ปัจจุบันมีวิธีการตรวจหลายวิธีที่สามารถบอกเพศทารกในครรภ์ได้ รวมถึงตรวจสุขภาพ และความผิดปกติของทารกในครรภ์ แต่หากพ่อแม่คนไหนไม่อยากรู้เพศของลูก ก็สามารถแจ้งกับแพทย์ประจำตัวเพื่อตรวจเฉพาะสุขภาพของทารกได้เช่นกัน
วิธีตรวจเพศทารกในครรภ์
อัลตร้าซาวด์ (Ultrasound)
อัลตร้าซาวด์เป็นเครื่องมือที่ใช้บ่อยที่สุดในการตรวจเพศทารก มักทำในช่วงอายุครรภ์ระหว่าง 18-22 สัปดาห์ หากแพทย์นัดมาตรวจอัลตร้าซาวด์เพื่อเรื่องนี้โดยเฉพาะ ปกติแล้วบริษัทประกันอาจจะจ่าย หรือไม่จ่ายให้ก็ได้ จึงควรเตรียมค่าใช้จ่ายสำรองเอาไว้ อย่างไรก็ตาม การตรวจอัลตร้าซาวด์ไม่สามารถบอกเพศได้เสมอไป และอาจไม่ถูกต้องทุกครั้ง
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
“Ramzi’s Method” (แรมซี เมธอด) เป็นวิธีการอัลตร้าซาวด์แบบใหม่ ที่สามารถทำได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 6 สัปดาห์ โดยดูจากตำแหน่งที่เกาะของรก อย่างไรก็ตาม การตรวจนี้ยังไม่เป็นการตรวจที่ทำกันโดยทั่วไป
การตรวจสารพันธุกรรม
การตรวจสารพันธุกรรมสามารถตรวจเพศก่อนคลอดได้เช่นกัน แต่เนื่องจากการตรวจเหล่านี้มีความเสี่ยงต่อทารก และการตั้งครรภ์ จึงมักไม่ใช่การตรวจเพื่อดูเพศเพียงอย่างเดียว แต่เพื่อให้ได้รับข้อมูลทางพันธุกรรมด้วย
วิธีการที่ใช้บ่อยที่สุดในการตรวจสารพันธุกรรม คือ
- การเจาะน้ำคร่ำ (Amniocentesis) การเจาะน้ำคร่ำนั้นมักทำหลังจากอายุครรภ์ 16 สัปดาห์
- การตรวจชิ้นส่วนของรก (Chorionic Villus Sampling: CVS) การตรวจชิ้นส่วนของรก สามารถทำได้ที่อายุครรภ์ระหว่าง 10-12 สัปดาห์
การทดสอบเหล่านี้สามารถระบุเพศของลูกได้แม่นยำ 99% แต่เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อ หรือการแท้งจากการตรวจ จึงไม่ใช้วิธีนี้ในการตรวจเพื่อดูเพศเพียงอย่างเดียว
การตรวจดีเอ็นเอ (DNA)
การตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมทารกในครรภ์จากเลือดมารดา (Non-Invasive Prenatal Testing: NIPT) เพื่อตรวจหาความผิดปกติของโครโมโซมคู่ที่ 21 (Down’s syndrome) คู่ที่ 18 (Edward syndrome) และคู่ที่ 13 (Patau syndrome) นอกจากนี้ยังสามารถตรวจหาเพศของทารกได้ด้วยเช่นกัน โดยตรวจจากสารพันธุกรรมดีเอ็นเอของทารก (Fetal cell-free DNA) ซึ่งจะทำในช่วงปลายไตรมาสที่ 1
การตรวจปัสสาวะ
การตรวจปัสสาวะเองที่บ้านที่เรียกว่า อินเทลลิเจนเดอร์ (Intelligender) สามารถตรวจได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 10 ของการตั้งครรภ์ การทดสอบนี้จะตรวจหาเซลล์บางชนิดในปัสสาวะของแม่เพื่อดูว่าทารกเป็นเพศอะไร ซึ่งชุดทดสอบนี้มีขายทางออนไลน์ และตามร้านขายยาทั่วไป สามารถทำได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องมีแพทย์
ความเชื่อและเรื่องเล่า
ความเชื่อและเรื่องเล่าต่อไปนี้ไม่ทำให้เกิดอันตรายแต่อย่างใด และสามารถใช้ตรวจเพื่อความสนุกได้
- ปฏิทินตามจันทรคติของจีน มีทั้งหมด 4 รูปแบบ มีความเชื่อว่า ปฏิทินนี้สามารถใช้เทียบเวลากับอายุของมารดาเมื่อตั้งครรภ์ และเดือนที่เริ่มตั้งครรภ์ เพื่อบอกเพศของทารกได้
- อัตราการเต้นของหัวใจ มีความเชื่อว่า หากทารกมีอัตราการเต้นของหัวใจมากกว่า 140 แสดงว่าเป็นผู้หญิง แต่หากต่ำกว่านั้นแสดงว่าเป็นผู้ชาย
- ขนาดและรูปร่างของท้อง ความเชื่อส่วนใหญ่กล่าวว่าหากท้องยื่นและกลมมักจะเป็นทารกเพศชาย แต่หากรู้สึกเปล่งปลั่ง หรือท้องออกด้านข้างแสดงว่าน่าจะเป็นเพศหญิง
ข้อดีของการตรวจเพศทารกในครรภ์ คือช่วยให้พ่อแม่เตรียมอุปกรณ์เครื่องใช้ให้กับลูกได้ถูกต้อง แต่ก็ไม่ควรเครียด หรือจริงจังมากจนเกินไปนัก อย่าลืมให้สำคัญกับสุขภาพของมารดาและทารกในครรภ์ เพื่อให้ลูกสามารถคลอดออกมาได้อย่างสมบูรณ์แข็งแรง เพราะไม่ว่าจะเกิดเป็นเพศไหน เขาก็คือเทวดาตัวน้อยที่ต้องการความรัก และความเอาใจใส่จากพ่อกับแม่