การผ่าตัดเสริมหน้าอก เป็นการทำศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมไม่แพ้การทำศัลยกรรมจมูก โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจและความสวยงามให้กับรูปร่างของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยในการทำศัลยกรรม ผู้เข้ารับการทำศัลยกรรมควรทำความเข้าใจวิธีการดูแลตัวเองในระหว่างพักฟื้นอย่างเหมาะสม อาการที่อาจเกิดขึ้นหลังจากผ่าตัดเสริมเสริมหน้าอก และภาวะแทรกซ้อนที่อาจเป็นอันตราย
เสริมหน้าอก แก้หน้าอกวันนี้ ที่คลินิกใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 15,500 บาท ลดสูงสุด 53%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
การดูแลแผลหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก
หลังการผ่าตัดเสริมหน้าอกควรดูแลตัวเองให้ดี และควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บ หรือทำให้แผลติดเชื้อได้ มีรายละเอียดดังนี้
- หลังผ่าตัดเสริมหน้าอกครบ 24 ชั่วโมง สามารถนำผ้าพันแผลออกได้หากแพทย์อนุญาต แต่ไม่ควรลอกเทปแปะแผล (Steri-strips) ออก เนื่องจากยังมีความเหนียวยึดติดกับผิวหนังอยู่ ซึ่งอาจกระทบกระเทือนกับแผลได้
- หากแพทย์ติดเทปแปะแผลชนิดกันน้ำไว้ สามารถอาบน้ำได้ตามปกติ แต่ไม่ควรแช่ในอ่างน้ำ หรือสระน้ำเป็นเวลานานอย่างน้อย 2 สัปดาห์ หรือจนกว่าแพทย์จะอนุญาต
- ในช่วง 1 เดือนแรกหลังผ่าตัด ควรใช้บราชนิดที่ไม่มีโครง เช่น สปอร์ตบรา (Sport bar) เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเต้านม และยังช่วยประคองทรงให้กับเต้านมอีกด้วย
- หากได้รับการบอกให้สวมเสื้อชั้นใน หรือพันผ้าไว้ ให้เอาออกขณะอาบน้ำ แต่สวมกลับทันทีหลังอาบน้ำเสร็จ
- ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมและการออกกำลังหนักๆ ที่ทำให้ชีพจร และความดันโลหิตเพิ่มขึ้น หรือต้องใช้แขนและหน้าอกมาก เพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระเทือนต่อการฟื้นตัวของเต้านม
- หากแพทย์ให้กลับบ้านพร้อมท่อระบายของเหลว ให้เทของเหลวที่อยู่ในกระเปาะระบายทิ้ง และจดปริมาณของของเหลว 3 เวลาต่อวัน หรือตามที่แพทย์กำหนด ซึ่งแพทย์จะใช้ค่านี้ในการประเมินว่า ควรถอดท่อระบายเมื่อใด
- แพทย์อาจใช้เทคนิคการนวดเต้านมเพื่อไม่ให้เกิดพังผืดรัดรอบถุงซิลิโคน (Capsular contracture) ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น และลดความรู้สึกอึดอัดช่วงอก
- ไม่ควรนวดเต้านมเองหลังการผ่าตัด อย่างไรก็ตาม เมื่อแพทย์อนุญาตให้นวดเต้านม ควรขอคำแนะนำวิธีการนวดเต้านมจากผู้เชี่ยวชาญก่อน ซึ่งแต่ละโรงพยาบาลล้วนมีบริการคอร์สนวดเต้านมสำหรับผู้ที่ผ่าตัดเสริมหน้าอกอยู่
- สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ ยกเว้นของหมักดอง อาหารรสจัด และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- งดสูบบุหรี่ 1 เดือน หลังการผ่าตัดเสริมหน้าอก
- งดการนอนคว่ำหน้า 2-3 สัปดาห์หลังการผ่าตัดเสริมหน้าอก ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์
- หลีกเลี่ยงการยกของหนักเป็นเวลา 1 เดือนหลังการผ่าตัดเสริมหน้าอก
อาการที่อาจเกิดขึ้นหลังจากผ่าตัดเสริมหน้าอก
หลังการผ่าตัดเสริมหน้าอก ร่างกายจะพยายามฟื้นตัวเอง นอกจากนี้คุณยังไม่ชินกับสิ่งแปลกปลอมที่เสริมเข้ามา จึงอาจมีอาการผิดปกติไปจากเดิมได้ ดังนี้
- อาจรู้สึกเจ็บ ปวด มีอาการอ่อนเพลีย และเหนื่อยง่ายในช่วงไม่กี่วันหลังจากผ่าตัด จึงควรพักผ่อนให้เพียงพอ
- อาจรู้สึกแน่นบริเวณหน้าอก ในขณะที่ผิวหนังปรับตัวต่อสิ่งที่ใช้เสริมเต้านม
- อาจมีความรู้สึกลดลงบริเวณเต้านมและหัวนมในช่วงหลังการผ่าตัดทันที และเป็นไปอีกหลายวัน หลังจากนั้นจะค่อยๆ กลับมาเป็นเช่นเดิม หรือในบางรายอาจไวต่อความรู้สึกมากขึ้น
- การบวมและช้ำเล็กน้อยของเต้านมเป็นเรื่องปกติหลังการผ่าตัด และจะค่อยๆ หายไปเองในอีกหลายสัปดาห์ถัดไป
อย่างไรก็ตาม หากเกิดอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรง หรือมีอาการบวมผิดปกติ ควรไปพบแพทย์ทันที
ผ่าตัดเสริมหน้าอกใช้เวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?
ระยะเวลาในการฟื้นตัวหลังการผ่าตัดเสริมเต้านมจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับวัตถุที่ใช้เสริม ขนาด การวางตำแหน่ง และขนาดของบาดแผล แต่โดยเฉลี่ยจะต้องพักฟื้นอย่างเต็มที่อย่างน้อย 2 วัน
หลังจากนั้นอาจเริ่มทำกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ ได้ แต่ยังคงต้องจำกัดกิจกรรมที่ต้องออกแรงแขนและกระทบต่อหน้าอกไปอีกหลายสัปดาห์ตามที่แพทย์สั่ง
หากดูแลรักษาแผลเป็นอย่างดี ผู้ที่ผ่าตัดอาจกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ และอาการปวดบวมจะค่อยๆ ลดลงภายใน 3-4 สัปดาห์
การเข้ารับการผ่าตัดเสริมหน้าอกกับแพทย์ผู้ชำนาญการ และดูแลพักฟื้นอย่างถูกวิธี จะช่วยให้การทำศัลยกรรมเป็นไปอย่างปลอดภัยมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดใดก็ล้วนมีความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ ผู้เข้ารับการผ่าตัดเสริมหน้าอกจึงควรรู้จักสังเกตอาการตัวเอง และรีบไปพบแพทย์ทันทีเมื่อพบอาการผิดปกติ
เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจผ่าตัดเสริมหน้าอก จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกการอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android