ว่ายน้ำ เป็นกิจกรรมการออกกำลังกายที่ไม่มีแรงกระแทก สามารถเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อได้ทุกส่วน อีกทั้งยังช่วยพัฒนาสมรรถภาพของปอดและหัวใจ ทำให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ท่าว่ายน้ำหลักๆ มีอยู่ 4 ท่า คือ
โปรแกรมตรวจสุขภาพวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 99 บาท ลดสูงสุด 96%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
- ท่าฟรีสไตล์ (Freestyle)
- ท่ากรรเชียง (Backstroke)
- ท่ากบ (Breaststroke)
- ท่าผีเสื้อ (Butterfly)
การว่ายน้ำนั้นเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ผู้หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับข้อเข่าและกระดูก หรือผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากก็สามารถออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำได้อย่างปลอดภัย เพราะน้ำจะช่วยพยุงร่างกายไม่ให้ส่วนใดส่วนหนึ่งต้องรับน้ำหนักมากเกินไป
นอกจากนี้ การว่ายน้ำยังเป็นหนึ่งในวิธีควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดี เพราะสามารถเผาผลาญพลังงานได้ใกล้เคียงกับการวิ่งในระยะเวลาการออกกำลังกายที่เท่ากัน แต่ไม่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บของกระดูกและข้อต่อ
ว่ายน้ำ ดีอย่างไร?
ประโยชน์ของการว่ายน้ำมีหลายประการ เช่น
- การว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายทั้งตัว (Full body workout) เนื่องจากในทุกๆ ครั้งที่ว่ายน้ำหรือเคลื่อนไหวในน้ำจะทำให้เกิดแรงต้านใต้น้ำขึ้นมา ทำให้ต้องใช้แรงจากกล้ามเนื้อทุกส่วนเพื่อเคลื่อนไหว
- ช่วยให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะการว่ายน้ำเป็นประจำจะทำให้กล้ามเนื้อหัวใจที่ทำหน้าที่สูบฉีดเลือดแข็งแรงขึ้น
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก นักกีฬาที่อยู่ในช่วงพักฟื้น ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับข้อต่อและกระดูก เพราะน้ำจะช่วยพยุงร่างกายไว้ ทำให้ข้อเข่าไม่ต้องรับแรงกระแทกเหมือนกับการออกกำลังกายบนบก จึงไม่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บ
- ช่วยให้อาการของโรคหอบหืดดีขึ้น เพราะการว่ายน้ำจะต้องฝึกการหายใจและกลั้นหายใจสลับกันอยู่ตลอดเวลา ทำให้หัวใจและปอดแข็งแรงและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม น้ำคลอรีนอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหอบหืดได้ แนะนำให้ว่ายน้ำในสระน้ำที่ใช้น้ำเกลือแทน หรือปรึกษาแพทย์ก่อน
- ช่วยบำบัดอาการของผู้ป่วยโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple Sclerosis: MS) เนื่องจากผู้ป่วยโรคนี้จะมีปัญหาด้านการควบคุมกล้ามเนื้อ การทรงตัว และการมองเห็น ทำให้ไม่เหมาะกับการออกกำลังกายบนบกเพราะเสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้ม บาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยควรว่ายน้ำภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ
- เป็นการออกกำลังกายที่เหมาะสำหรับเด็ก เพราะการว่ายน้ำเป็นกิจกรรมที่สนุก ไม่น่าเบื่อ ทำให้เด็กรู้สึกว่าเป็นการเล่นมากกว่าการออกกำลังกาย และทำให้เด็กได้เสริมสร้างพัฒนาการทั้งร่างกายด้วย
เริ่มต้นว่ายน้ำอย่างไรดี?
สำหรับผู้ที่เริ่มต้นหัดว่ายน้ำเป็นครั้งแรก ควรอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญก่อน เพื่อฝึกการว่ายน้ำที่ถูกต้อง เช่น วิธีการอบอุ่นร่างกายก่อนว่ายน้ำที่เหมาะสม การลอยตัวในน้ำ วิธีการหายใจขณะว่ายน้ำ และท่าว่ายน้ำที่ถูกต้อง
ไม่แนะนำให้หัดว่ายน้ำเพียงคนเดียว เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้ ไม่ว่าจะเป็นตะคริว หรืออุบัติเหตุทางน้ำ และควรเลือกสระว่ายน้ำที่ไม่ลึกมาก สามารถยืนแล้วศีรษะอยู่เหนือน้ำได้
ในทุกๆ ครั้งก่อนการว่ายน้ำหรือการออกกำลังกายประเภทอื่นๆ คุณควรรับประทานอาหารรองท้องก่อนออกลังกาย 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงเพื่อให้ร่างกายมีแรง ป้องกันอาการหน้ามืด และอย่าลืมจิบน้ำบ่อยๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
โปรแกรมตรวจสุขภาพวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 99 บาท ลดสูงสุด 96%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
นอกจากนี้ ควรให้ความสำคัญกับการอบอุ่นร่างกาย (Worm up) และคูลดาวน์ร่างกาย (Cool down) จะช่วยป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการออกกำลังกายได้
วิธีฝึกเด็กว่ายน้ำเบื้องต้น
เพื่อความปลอดภัย ควรฝึกภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญและฝึกฝนเป็นประจำ โดยคำแนะนำในการฝึกเบื้องต้นมีดังนี้
- เลือกสระว่ายน้ำที่เด็กสามารถยืนได้เพื่อลดความกลัว และช่วยให้เขาฝึกการลอยตัวโดยการอุ้มเขาไว้ก่อน
- ให้เด็กฝึกการหายใจออก โดยให้เป่าฟองสบู่ใต้น้ำเป็นเวลา 5 วินาที ในระหว่างนั้นผู้ดูแลจะต้องพยุงเด็กไว้ตลอดเวลาโดยอุ้มที่ใต้รักแร้
- ฝึกซ้ำๆ จนเด็กหายกลัว หลังจากนั้นให้พาลอยไปลอยมาขณะเป่าลมออก
- เริ่มให้เด็กใช้เท้าเตะขึ้นและลงร่วมด้วย หลังจากนั้นให้ฝึกซ้ำๆ จนชำนาญ
- เริ่มให้ทำต่อเนื่อง โดยในการหายใจเข้าให้เด็กเงยหน้าหายใจ และขยับมือไปข้างหน้าเหมือนเสือ ในระหว่างนั้นผู้ดูแลควรพยุงเด็กไปก่อน โดยอาจใช้มือรองที่ใต้อก หรือจับที่หลังเสื้อก็ได้
ควรว่ายน้ำครั้งละกี่นาที สัปดาห์ละกี่ครั้ง?
กระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์สหรัฐ (U.S. Department of Health & Human Services) แนะนำปริมาณการออกกำลังกายต่อสัปดาห์เพื่อการมีสุขภาพที่ดี คือ ออกกำลังกายระดับปานกลาง 150 นาที หรือออกกำลังกายระดับหนัก 75 นาที
ดังนั้น การว่ายน้ำ 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละ 30 นาทีขึ้นไปก็เพียงพอต่อเวลาการออกกำลังกายที่แนะนำแล้ว
อย่างไรก็ตาม ไม่ควรออกกำลังกายเพียงประเภทเดียว เพราะการออกกำลังกายแต่ละประเภทจะช่วยพัฒนาระบบต่างๆ ในร่างกายแตกต่างกันไป เช่น โยคะ ช่วยฝึกสมาธิและความยืดหยุ่นของร่างกาย หรือเวทเทรนนิ่ง (Weight training) ช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ
การออกกำลังกายหลากหลายประเภทสลับกันไป จึงทำให้พัฒนาสมรรถภาพร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า
โปรแกรมตรวจสุขภาพวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 99 บาท ลดสูงสุด 96%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ข้อควรระวังในการว่ายน้ำ
การว่ายน้ำในสระที่ได้รับมาตรฐาน มีระบบกรองน้ำ การไหลเวียนถ่ายเทน้ำที่ดี และมียาฆ่าเชื้อโรคใส่ไว้ในปริมาณที่เหมาะสมย่อมปลอดภัย แต่หากว่ายน้ำในสระที่ไม่ได้รับมาตรฐานก็อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ เช่น การติดเชื้อในช่องคลอดในเพศหญิง
ในระหว่างการว่ายน้ำ ไม่ควรปล่อยให้น้ำเข้าปาก เพราะอาจมีเชื้อโรคปนเปื้อนอยู่ในน้ำ หรือหากดื่มน้ำในสระเข้าไปก็อาจทำให้เกิดโรคท้องร่วงหรือตับอักเสบ
นอกจากนี้ ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคผิวหนัง เช่น โรคสะเก็ดเงิน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการเล่นน้ำ เพราะคลอรีนในสระอาจอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้
การว่ายน้ำเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่เริ่มต้นออกกำลังกาย เพราะสามารถออกกำลังกายได้ทุกส่วนไปพร้อมๆ กัน โดยที่ร่างกายไม่ต้องรับภาระหนักจนเกินไป อีกทั้งยังไม่ต้องใช้อุปกรณ์ในการออกกำลังกาย
แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง คุณควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ออกกำลังกายหักโหมจนเกินไป และตรวจสุขภาพร่างกายเป็นประจำทุกปี
เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจสุขภาพ จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกการอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android