น้ำตาลแอลกอฮอล์ (หรือที่เรียกว่า โพลีออล) เป็นสารให้ความหวานที่สกัดจากพืช ผักธรรมชาติบางชนิด ให้แคลอรีต่ำ ไม่ทำให้เกิดน้ำตาลในเลือดอย่างฉับพลัน เนื่องจากเปลี่ยนไปเป็นกลูโคสได้ข้ามาก และไม่ต้องอาศัยอินซูลิน จะมีโครงสร้างบางส่วนเหมือนแอลกอฮอล์ บางส่วนเหมือนน้ำตาล และไม่ใช่น้ำตาลเทียม
น้ำตาลแอลกอฮอล์มีอะไรบ้าง?
น้ำตาลแอลกอฮอล์ มีดังนี้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
- แมนนิทอล
- ซอร์บิทอล
- ไซลีทอล
- แลคซีทอล
- ไอโซมอลท์
- เอชเอสเอช
เราจะได้ยินจากโฆษณาหมากฝรั่ง ลูกอมและยาอม อยู่บ่อยครั้ง บางบริษัทนำมาผสมในเครื่องดื่มต่างๆ ที่ระบุในฉลากว่า “ปราศจากน้ำตาล” บางบริษัทมีการนำไปใส่ใน “ยาสีฟัน และยาอมบ้วนปาก” เพราะช่วยให้รสชาติดี อีกทั้งไม่ก่อให้เกิดฟันผุ หรือทำาให้เกิดได้น้อยมาก
น้ำตาลแอลกอฮอล์ให้แคลอรีต่ำ
น้ำตาลแอลกอฮอล์ ให้แคลอรีต่ำกว่าน้ำตาลทราย (ประมาณ 1.5-3แคลอรีต่อกรัม ขึ้นกับชนิดของน้ำตาลแอลกอฮอล์) ดังนั้นจึงนิยมใช้ในกลุ่มผู้ป่วยเบาหวาน และใช้ในผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักด้วย แต่มีข้อด้อย คือ อาจทำให้มีอาการท้องเสีย หากรับประทานในปริมาณมากๆ โดยเฉพาะกลุ่มซอร์บิทอล
คุณสมบัติของน้ำตาลแอลกอฮอล์แต่ละชนิด
- แมนนิทอล พบได้โดยธรรมชาติในสับปะรด หน่อไม้ฝรั่ง มันฝรั่งหวาน และแครอต แมนนิทอลจะให้ความหวาน 50-70% ของน้ำตาลทราย ข้อเสียของแมนนิทอล คือ จะค้างอยู่ในลำไส้นาน จึงอุ้มน้ำได้มากและอาจเป็นสาเหตุของอาการท้องเสีย
- ซอร์บิทอล พบตามธรรมชาติในผัก และผลไม้ หรืออาจผลิตจากน้ำตาลข้าวโพด (คอร์นไซรับ) ซอร์บิทอลให้ความหวานเพียง 50% ของน้ำตาลทราย มักใช้ในลูกอมและหมากฝรั่ง
- แลคติตอล มีความหวานประมาณ 30-40% ของน้ำตาลทราย มีรสชาติและคุณลักษณะใกล้เคียงกับน้ำตาล จึงมักใช้กับอาหารประเภทไอศกรีม ช๊อกโกแลต ลูกอมทั้งชนิดแข็งและชนิดอ่อน ขนมอบ ใช้ถนอมอาหาร และใช้ในหมากฝรั่ง
- ไอโซมอลท์ ให้ความหวาน 45-65% ของน้ำตาลทราย และความหวานไม่เปลี่ยนแปลงแม้จะผ่านกระบวนการทางความร้อน ไอโซมอลท์จะอุ้มน้ำได้เล็กน้อย จึงมักใช้กับลูกอมชนิดแข็ง และอมยิ้ม
- มอลติตอล ให้ความหวาน 75% ของน้ำตาลทราย ใช้กับลูกอม หมากฝรั่ง และช็อกโกแลต
- ไซลิทอล พบตามธรรมชาติในฟาง ผลไม้ (สตรอว์เบอร์รี่ ต้นเบิร์ซ) ผัก ธัญพืช และเห็ด นอกจากนี้ร่างกายสามารถผลิตไซลิทอลได้เองด้วย ในระหว่างการสันดาปของกลูโคส ไซลิทอลให้ความหวาน 40% น้ำตาลทราย และรสชาติใกล้เคียงกับน้ำตาลทรายมาก จึงนำมาใช้ในหมากฝรั่ง ช่วยลดจำนวนแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดฟันผุ ลดการเกิดหินปูน อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการหลั่งของน้ำลาย ซึ่งปรับสภาพในช่องปากให้เป็นกลาง และเป็นตัวกลางนำแร่ธาตุมาหล่อเลี้ยงฟัน
- สตีวิโอไซด์ เป็นสารที่ให้รสหวานคล้ายน้ำตาลทรายมาก ทนต่อความร้อนและสภาวะความเป็นกรดเป็นด่างได้ดี เมื่อผ่านความร้อนสูง ไม่ทำให้อาหารเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล รวมทั้งยังเป็นสารที่มีพิษเฉียบพลันต่ำและปลอดภัยสูง
สกัดได้จาก “ต้นหญ้าหวาน” ซึ่งเป็นพืชพื้นเมืองทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศปารากวัย ในทวีปอเมริกาใต้ เริ่มเข้าสู่ประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ. 2550 และปลูกกันมากในภาคเหนือ
หญ้าหวานเป็นไม้ล้มลุกอายุประมาณ 3 ปี เป็นพุ่มเตี้ย 30-90 เซนติเมตร มีดอกช่อสีขาว ใบเป็นใบเดี่ยว รูปใบหอกกลับ ใบมีรสหวานกว่าน้ำตาลทราย 10-15 เท่า
นำกิ่งหญ้าหวานที่ตัดมารูดใบ แล้วนำใบไปตากแดด 2-3 วัน ระวังอย่าให้สิ่งเจือปน เมื่อแห้งสนิทดีแล้วจึงเก็บในภาชนะบรรจุ ใบแห้งของต้นหญ้าหวานมีสารสตีวิโอไซต์ 15% สตีวิโอไซต์หวานกว่าน้ำตาลทราย 280-300 เท่า แต่ไม่ถูกย่อยให้เกิดพลังงานจึงเหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน หรือโรคไขมันในเส้นเลือดสูง
วิธีการปรุง คือ นำใบหญ้าหวานตากแห้งเพียง 2-3 ใบใส่ในถ้วยน้ำร้อน ขนาดถ้วยกาแฟแช่ไว้ 2-5 นาที จะได้ระดับความหวานเท่าที่คนไทยชอบ แต่จะออกรสหวานช้ากว่าน้ำตาลทรายเล็กน้อย และรสหวานจะจางหายไปช้ากว่าด้วย
ปัจจุบัน หญ้าหวานมีจำหน่ายในรูปแบบ
- ใบแห้งเอาไปชง
- บางบริษัทนำไปบดเป็นผง บรรจุซองชาสำหรับชง
- บ้างบดเป็นผงสำหรับเติมแทนน้ำตาล
- แบบสารสกัดจากใบหญ้าหวานแห้งด้วยน้ำ
แนะนำว่า ไม่ควรใช้หญ้าหวานเกิน 2 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน