วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองคือการรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ที่มากเกินไป
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคหลอดเลือดแดงแข็ง (atherosclerosis) คือสภาวะที่หลอดเลือดแดงมีไขมันอุดตัน, ความดันโลหิตสูง และระดับคอเลสเตอรอลสูง โรคต่างๆ เหล่านี้คือปัจจัยเสี่ยงสำคัญของการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
หากคุณเป็นโรคหลอดเลือดสมองแล้ว การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมองซ้ำในอนาคต
อาหาร
อาหารที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพจะเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคหลอดเลือดสมองเพราะว่าอาหารเหล่านี้จะทำให้ความดันโลหิตสูงและคอเลสเตอรอลในเลือดสูงได้
ดังนั้นอาหารไขมันต่ำ มีใยอาหารสูง คืออาหารที่แนะนำ ซึ่งรวมถึงผักและผลไม้ (5 ส่วนต่อวัน) และธัญพืชไม่ขัดสีด้วย
เพราะฉะนั้นคุณต้องมั่นใจว่าอาหารที่รับประทานมีความหลากหลายและเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพคือสิ่งสำคัญ ไม่รับประทานอาหารอย่างใดอย่างหนึ่งมากเกินไป โดยเฉพาะอาหารที่มีเกลือสูงและอาหารที่ผ่านกรรมวิธีแปรรูปอาหารแล้ว
คุณควรจำกัดปริมาณเกลือที่รับประทานไม่ให้เกิน 6 กรัมต่อวัน เพราะการรับประทานเกลือมากเกินไปจะเพิ่มความดันโลหิตได้ ปริมาณเกลือ 6 กรัมเทียบเท่าเกลือประมาณ 1 ช้อนชา
การออกกำลังกาย
การรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ร่วมกับการออกกำลังกายเป็นประจำคือวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์สุขภาพดี และการออกกำลังกายเป็นประจำยังช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดและช่วยควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
การออกกำลังกายที่แนะนำสำหรับคนโดยทั่วไป คือ ออกกำลังกายชนิดแอโรบิกที่มีความหนักปานกลางอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ (2 ชั่วโมง 30 นาที) เช่น ปั่นจักรยาน หรือเดินเร็ว
หากคุณฟื้นตัวจากโรคหลอดเลือดสมองแล้ว คุณควรปรึกษาทีมฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายที่ดูแลคุณเกี่ยวกับแผนการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับคุณ การออกกำลังกายเป็นประจำอาจไม่เหมาะสมในช่วงระยะเวลา 1 สัปดาห์แรกหรือ 1 เดือนแรกหลังเป็นโรคหลอดเลือดสมอง แต่คุณควรเริ่มออกกำลังกายเมื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
หยุดสูบบุหรี่
การสูบบุหรี่จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดสมองอย่างชัดเจน เพราะการสูบบุหรี่จะทำให้หลอดเลือดแดงตีบแคบและทำให้มีโอกาสเกิดลิ่มเลือดมากขึ้น
ถ้าคุณหยุดสูบบุหรี่ได้ คุณจะลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหลอดเลือดสมองได้ การไม่สูบบุหรี่ยังช่วยทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้นและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรงอื่นๆ เช่น มะเร็งปอด และโรคหัวใจ ด้วย
สำหรับประเทศไทย คุณสามารถขอรับคำแนะนำในการเลิกบุหรี่ได้จากสายด่วน 1600
ลดปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์
การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปจะทำให้ความดันโลหิตสูงและกระตุ้นให้เกิดหัวใจเต้นผิดจังหวะได้ (ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิดหัวใจห้องบนสั่นพริ้ว (atrial fibrillation)) ซึ่งล้วนแล้วแต่เพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคหลอดเลือดสมองทั้งสิ้น
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
เพราะการดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้ร่างกายได้รับพลังงานสูง ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่ม การดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมากอย่างต่อเนื่องจะเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคหลอดเลือดสมองมากกว่า 3 เท่า
หากคุณเลือกที่จะยังคงดื่มแอลกอฮอล์อยู่หลังหายจากโรคหลอดเลือดสมองแล้ว คุณควรจำกัดปริมาณการรับประทาน ดังนี้:
- ผู้ชายและผู้หญิง แนะนำให้ดื่มแอลกอฮอล์ไม่เกิน 14 หน่วยต่อสัปดาห์
- หากคุณดื่มแอลกอฮอล์มากถึง 14 หน่วยสัปดาห์ ขอให้กระจายการดื่มให้ได้อย่างน้อย 3 วันหรือมากกว่านั้น
หากคุณยังฟื้นตัวจากโรคหลอดเลือดสมองไม่เต็มที่ คุณยังไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณเท่าที่เขียนไว้ข้างต้น เพราะปริมาณที่เขียนคือปริมาณขีดจำกัดสำหรับคนทั่วไปซึ่งมากเกินไปสำหรับตัวคุณ
การดูแลรักษาโรคอื่นๆ ที่กำลังเป็นอยู่
หากคุณได้รับการวินิจฉัยเป็นโรคอื่นๆ ที่เพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคหลอดเลือดสมอง เช่น มีคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิดหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว (atrial fibrillation), เบาหวาน หรือ ภาวะสมองขาดเลือดชั่วคราว (transient ischaemic attack (TIA)) ดังนั้นคุณต้องมั่นใจว่าโรคต่างๆ เหล่านี้ได้รับการควบคุมเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดสมองได้
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่กล่าวถึงข้างต้นยังสามารถช่วยควบคุมอาการของโรคดังกล่าวไม่ให้เป็นเพิ่มขึ้นได้ แต่คุณก็ยังจำเป็นต้องรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอตามแพทย์สั่ง
https://www.nhsinform.scot/illnesses-and-conditions/brain-nerves-and-spinal-cord/stroke#prevention