ในการตัดสินใจว่าควรจะเลือกคุมกำเนิดด้วยวิธีไหน ต้องพิจารณาจากหลาย ๆ ปัจจัยประกอบกัน เช่น ประสิทธิภาพ, ระยะเวลาคุมกำเนิด, ความหลากหลายของทางเลือก, ความสะดวกในการใช้, ผลข้างเคียง, ราคา ฯลฯ
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรจะมองข้ามนะคะ โดยเฉพาะถ้าวางแผนจะคุมกำเนิดต่ออีกไม่นาน นั่นก็คือ เมื่อหยุดคุมกำเนิดด้วยวิธีนั้น ๆ แล้ว นานแค่ไหนจึงจะมีไข่ตกและพร้อมตั้งครรภ์ได้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
หลังหยุดฉีดยาคุม ใช้เวลานานไหมกว่าจะตกไข่?
ซึ่งพบว่าเกือบทุกวิธีคุมกำเนิด ไม่ว่าจะเป็นยาเม็ดคุมกำเนิด, ยาคุมกำเนิดชนิดแผ่นแปะผิวหนัง, ยาฉีดคุมกำเนิดชนิดที่ฉีดทุก 1 เดือน, ยาฝังคุมกำเนิด และห่วงอนามัย แม้จะใช้ติดต่อกันมานานแค่ไหนก็ตาม แต่เมื่อหยุดใช้แล้วก็จะมีไข่ตกภายในเวลาไม่กี่วัน หรือไม่กี่สัปดาห์
ดังนั้น ในกรณีที่หยุดใช้ แต่ยังไม่พร้อมจะมีบุตร ก็ต้องใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ด้วยนะคะ แต่ในกรณีที่พร้อมจะมีบุตรแล้ว ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติ
ยกเว้นยาฉีดคุมกำเนิดชนิดที่ฉีดทุก 3 เดือน ที่มักจะใช้เวลานานกว่าที่จะกลับมามีไข่ตกอีกครั้งหลังหยุดใช้ โดยเฉพาะถ้าใช้ต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน ก็ยิ่งมีแนวโน้มที่จะใช้เวลามากขึ้น
ค่าเฉลี่ยของระยะเวลาที่จะกลับมามีไข่ตกหลังจากที่ไม่ได้ฉีดยาต่อตามนัด คือ 4 – 5 เดือนค่ะ ดังนั้น ผู้ที่เคยใช้ยาฉีดคุมกำเนิดชนิดนี้อยู่ แล้ววางแผนจะมีบุตรในอีกประมาณ 1 ปีข้างหน้า ควรเปลี่ยนไปคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นแทนอย่างน้อย 6 เดือนก่อนที่จะหยุดคุมกำเนิดไปนะคะ
หลังหยุดฉีดยาคุมกำเนิด มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ง่ายไหม?
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ไม่ได้เปลี่ยนวิธีคุมกำเนิดเลย แม้อาจใช้เวลานานหลายเดือนกว่าที่จะมีไข่ตก แต่ก็พบว่าผู้ใช้มากกว่า 80% มีการตั้งครรภ์ภายใน 1 ปีหลังจากที่ฉีดยาคุมเข็มสุดท้าย
แต่ระยะเวลาที่มีไข่ตกอาจเร็วหรือช้ากว่าค่าเฉลี่ยดังกล่าวได้นะคะ จึงต้องเตือนผู้ที่ไม่ได้ไปฉีดยาคุมต่อตามนัดว่า หากยังไม่พร้อมจะมีบุตรต้องหยุดสดค่ะ (ฮ่า) นั่นก็คือควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ไปก่อน ในระหว่างที่รอตัดสินใจว่าคุมกำเนิดต่อหรือไม่ หรือยังคิดไม่ตกว่าจะใช้วิธีคุมกำเนิดแบบไหนดี
ถ้ามัวแต่คิดนานเกินไป แถมไม่ป้องกัน อาจได้เปลี่ยนไปคิดชื่อลูกแทนนะคะ ...จะบอกให้! (ฮ่า)