เลือดข้น (Polycythemia) คือภาวะที่ร่างกายมีปริมาณเม็ดเลือดแดงมากกว่าปกติ ทำให้เลือดหนืดและส่งผลต่อการขนส่งเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย
เลือดข้นเกิดจากอะไร?
ภาวะเลือดข้นสามารถเกิดขึ้นได้จาก 2 กรณี ได้แก่
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
1. ภาวะที่ร่างกายมีปริมาณน้ำเลือดลดลง (Relative polycythemia)
น้ำเลือดหรือพลาสมาเป็นส่วนประกอบหนึ่งของเลือด เมื่อปริมาณของน้ำเลือดลดลง จะทำให้ค่าฮีโมโกลบิน (Hemoglobin: Hb) และค่าฮีมาโตคริต (Hematocrit: Hct) มีค่าผิดปกติไป แต่ปริมาณของเม็ดเลือดแดงในร่างกายไม่ได้เพิ่มขึ้น
สาเหตุมาจากภาวะขาดน้ำจากการท้องเสียหรืออาเจียน ความเครียด การสูบบุหรี่ หรือการใช้ยาขับปัสสาวะ
2. ภาวะที่ร่างกายสร้างเม็ดเลือดแดงเพิ่มขึ้น (Absolute polycythemia)
ภาวะนี้แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
- ความผิดปกติที่เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดแดง (Primary polycythemia หรือ Polycythemia Vera) พบว่ามีการกลายพันธุ์ของยีนเจเอเคทู (JAK2) ทำให้มีการสร้างเม็ดเลือดแดงมากกว่าปกติ ร่วมกับปริมาณเม็ดเลือดขาวกับเกล็ดเลือดที่มากขึ้นด้วย การสร้างเม็ดเลือดนั้นไม่อยู่ภายใต้กลไกการควบคุมที่ปกติ ทำให้ปริมาณเม็ดเลือดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- ความผิดปกติจากสาเหตุอื่นๆ (Secondary polycythemia) มีการกระตุ้นให้สร้างฮอร์โมนอีริโทรพอยอีติน (Erythropoietin: EPO) ซึ่งฮอร์โมนนี้ส่วนใหญ่สร้างจากไต เพื่อไปกระตุ้นให้มีการสร้างเม็ดเลือดแดงเพิ่มขึ้นเมื่อเซลล์ในร่างภายอยู่ในภาวะขาดออกซิเจน (Hypoxia) เช่น โรคปอดเรื้อรัง สูบบุหรี่จัด การอยู่บนที่สูง หรือความผิดปกติของฮีโมโกลบิน
เมื่อเซลล์ขาดออกซิเจนจะไปกระตุ้นให้มีการสร้าง EPO มากขึ้น กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงอย่างต่อเนื่อง เพื่อขนส่งออกซิเจนมาให้เซลล์อย่างเพียงพอ
อาการของภาวะเลือดข้นเป็นอย่างไร?
ผู้ป่วยอาจไม่มีอาการหรือมีอาการที่ไม่จำเพาะ เช่น มีอาการปวดหัว วิงเวียน เหนื่อยง่าย หรือมีอาการคันตามผิวหนังเมื่อสัมผัสกับน้ำอุ่น
ภาวะเลือดข้นอันตรายหรือไม่ จะรักษาเลือดข้นได้อย่างไร?
ภาวะเลือดข้น หากไม่ได้รับการรักษาอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนและเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ อาการแทรกซ้อนที่พบได้ เช่น
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
- การเกิดลิ่มเลือด ปริมาณของเม็ดเลือดแดงที่เพิ่มขึ้นจะทำให้เลือดไหลเวียนในร่างกายช้าลง ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้เกิดลิ่มเลือดภายในหลอดเลือด ลิ่มเลือดทีเกิดขึ้นเป็นสาเหตุให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจ หรือลิ่มเลือดหลุดแล้วไปอุดตันที่หลอดเลือดปอด
- ม้ามโต ม้ามเป็นอวัยวะที่กำจัดเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย รวมถึงกำจัดเซลล์เม็ดเลือดแดงที่ผิดปกติ เมื่อปริมาณของเม็ดเลือดแดงเพิ่มขึ้นสูงจะทำให้ม้ามทำงานมากกว่าปกติ จนม้ามมีขนาดทีใหญ่ขึ้นได้
- เกิดพังผืดที่ไขกระดูก เมื่อมีภาวะเลือดข้น ก็มีโอกาสที่จะเกิดพังผืดขึ้นที่บริเวณไขกระดูก ส่งผลให้เซลล์ต้นกำเนิด (Stem cell) ไม่เจริญเติบโตและทำหน้าที่ผิดปกติ นำไปสู่การเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว (Leukemia)
วิธีรักษาและป้องกันภาวะเลือดข้น?
การรักษาภาวะเลือดข้น จะเน้นที่การลดปริมาณของเม็ดเลือดแดง ซึ่งการรักษานี้ยังสามารถลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้นด้วย
วิธีการรักษาภาวะนี้ ได้แก่
- การถ่ายเลือดออกจากร่างกาย (Phlebotomy) เป็นการรักษาแรกที่ใช้ในการรักษาภาวะเลือดข้น โดยจะเจาะที่เส้นเลือดดำเพื่อถ่ายเลือดออกจากร่างกาย ทำให้ลดจำนวนของเม็ดเลือดแดงและปริมาณของเลือด
วิธีนี้อาจทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเมื่อยล้าหลังจากการรักษา ความถี่ในการรักษาด้วยนี้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของภาวะเลือดข้นในแต่ละคน
- การใช้ยาเพื่อลดระดับความเข้มข้นของเลือด ในกรณีที่รักษาด้วยการถ่ายเลือดออกจากร่างกายไม่เพียงพอที่จะควบคุมภาวะแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้นได้ แพทย์จำเป็นที่จะต้องจ่ายยาเพื่อช่วยลดปริมาณเม็ดเลือดแดงร่วมด้วย
เช่น ยาไฮดรอกซียูเรีย (Hydroxyurea) จะช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดเลือดภายในไขกระดูกได้ หรือยาอินเตอร์เฟอรอนอัลฟ่า (Interferon-Alpha) ที่จะกระตุ้นเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันให้มากำจัดเม็ดเลือดแดงที่ผลิตมากจนเกินไป
- การใช้ยาเพื่อลดลิ่มเลือด ภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายอย่างนึงคือการเกิดลิ่มเลือดภายในหลอดเลือด ยาแอสไพริน (Aspirin) เป็นยาป้องกันการเกิดลิ่มเลือดและลดอาการคัน แสบร้อนที่บริเวณมือและเท้าได้
ผลข้างเคียงของยาแอสไพริน จะทำให้เกิดการระคายเคืองกระเพาะอาหาร ดังนั้นการรับประทานยาแอสไพรินควรอยู่ในการควบคุมดูแลของแพทย์
เลือดข้นแล้วเกิดอาการคัน รักษาได้อย่างไร?
ภาวะเลือดข้นทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการคันตามผิวหนังได้ เนื่องจากปริมาณของเม็ดเลือดแดงจำนวนมากไปกระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาวให้ปล่อยสารฮิสทามีน (Histamine) อาการคันเพราะเลือดข้นนี้สามารถรักษาได้ด้วยยาในกลุ่มแก้แพ้ (Antihistamine) หรือการฉายรังสีอัลตราไวโอเลต (Ultraviolet light treatment)
เลือดข้น ป้องกันได้อย่างไร?
ภาวะเลือดข้นที่สาเหตุเกิดจากร่างกายมีปริมาณน้ำเลือดลดลง (Relative polycythemia) สามารถป้องกันโดยแก้ที่สาเหตุของการสูญเสียปริมาณน้ำเลือด เช่น การให้สารน้ำทดแทนกรณีที่สูญเสียน้ำจากการท้องเสียหรืออาเจียน ลดการสูบบุหรี่ เพราะบุหรี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดออกซิเจน กระตุ้นให้มีการสร้างเม็ดเลือดแดงเพิ่มขึ้นเพื่อให้เพียงพอต่อการขนส่งออกซิเจนไปตามเนื่อเยื่อต่างๆ