สิว เป็นปัญหาไขมันอุดตันที่เกิดได้บนผิวหนังทุกบริเวณที่มีต่อมไขมัน ซึ่งบริเวณที่เรามักจะพบสิวได้มากที่สุด ได้แก่ หน้าผาก หว่างคิ้ว ไรผม ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวนั้นมีอยู่หลายแห่งด้วย เช่น ความเครียด อากาศร้อนอบอ้าว การสะสมของเหงื่อ พักผ่อนไม่เพียงพอ อาหารที่มีไขมัน และน้ำตาลสูง
นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการจัดแต่งทรงผมบางชนิด ยังมีสารเคมีที่ทำให้เกิดสิวได้ หรืออาจเกิดจากการสะสมรวมกับคราบเหงื่อ และฝุ่นละออง จนกลายเป็นสิ่งสกปรกอุดตันอยู่ในรูขุมขนนั่นเอง
รักษาสิว ลดรอยสิววันนี้ ที่คลินิกใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 78 บาท ลดสูงสุด 93%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
การรักษาสิวบริเวณหน้าผาก
สิวบริเวณหน้าผากสามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยาทา โดยตัวยารักษาสิวในบริเวณนี้ไม่ได้ต่างจากบริเวณอื่นทั่วไป แนะนำให้ใช้ตัวยาทาเฉพาะที่ เพื่อช่วยลดการทำงานของต่อมไขมัน เช่น
- เบนโซอิลเพรอกไซด์ (Benzoyl peroxide)
- ยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อสิว (Antibiotic)
- ยาทาสิวกลุ่มเรตินอยด์ (Retinoid)
หรือคุณอาจใช้ BHA หรือกรดซาลิไซลิก (Salicylic acid) โดยเริ่มต้นใช้ที่ประมาณ 2% เป็นต้นไป ก็สามารถช่วยลดการเกิดสิวอุดตันที่บริเวณหน้าผากได้เช่นเดียวกัน และควรทายาร่วมกับปรับเปลี่ยนพฤติกรรมดังนี้ควบคู่ไปด้วย
1. ตรวจดูผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการจัดแต่งทรงผม
หากไม่แน่ใจว่า สาเหตุของการเกิดสิวที่หน้าผากเกิดจากอะไร ให้คุณลองตรวจผลิตภัณฑ์บำรุง และจัดแต่งทรงผมของตนเอง ว่ามีสารชนิดใดที่น่าจะทำให้คุณแพ้ หรือสะสมเป็นสิ่งสกปรกบนหน้าผากหรือไม่ เช่น แชมพูสระผม ครีมนวดผม ครีมหมักผม น้ำมันใส่ผม สเปรย์ฉีดจัดแต่งทรงผม
เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ล้วนแล้วแต่สัมผัสบริเวณหน้าผากได้มากกว่าบริเวณอื่นๆ ทั้งสิ้น หากมีการเปลี่ยนผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในช่วงที่ผ่านมาไม่นานแล้วมีสิวขึ้น ควรเปลี่ยนกลับเป็นผลิตภัณฑ์เดิมที่เคยใช้
และอีกวิธี คือ ลองเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมหลากหลายน้อยลง อ่อนโยนมากขึ้น เช่น แชมพูสำหรับเด็ก หรือผลิตภัณฑ์ที่ผสมตัวยารักษาสิวเข้าไปร่วมด้วยแล้ว ซึ่งมักแสดงข้อมูลอยู่ที่ฉลากบรรจุภัณฑ์
2. ลดการสะสมของเหงื่อบริเวณหน้าผาก และรักษาความสะอาดอยู่เสมอ
เมื่อคุณทำกิจกรรม หรือเล่นกีฬาแล้วเหงื่อออก คุณจะสังเกตเห็นได้ชัดเจนว่า เหงื่อจะไหลลงมาตามบริเวณหน้าผาก ไรผม และตามขนคิ้ว ซึ่งหากมีเหงื่อออกมาก และเกิดการหมักหมม ไม่ได้รับการทำความสะอาดอย่างรวดเร็ว ก็สามารถทำให้เกิดสิวได้ ทั้งสิวอุดตันและสิวเชื้อรา
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
3. พักผ่อนให้เพียงพอ
หากคุณพักผ่อนไม่เพียงพอ ฮอร์โมนคอร์ติซอลซึ่งเกี่ยวข้องกับการเกิดสิวก็จะสูงขึ้นกว่าปกติ ทำให้ผิวหนังเกิดการอักเสบ และเกิดสิวผดได้ง่ายขึ้น แต่เมื่อพักผ่อนเพียงพอแล้ว ฮอร์โมนนี้จะอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งจะช่วยลดปัจจัยเสี่ยงให้สิวผดในบริเวณต่างๆ รวมถึงสิวผดที่หน้าผากขึ้นน้อยลงได้
4. หลีกเลี่ยงการอยู่ในบริเวณอากาศร้อนเป็นเวลานาน
อากาศร้อนชื้นมักกระตุ้นให้สิวผดขึ้นได้ง่าย ดังนั้นจึงควรทาครีมกันแดดทุกวัน และหลีกเลี่ยงการตากแดด หรือทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานานๆ
5. สวมใส่หมวกให้น้อยลง
หมวกเป็นอีกเครื่องแต่งกายที่สัมผัสบริเวณหน้าผากโดยตรง รวมไปถึงบริเวณใกล้กับขนคิ้ว และกรอบหน้าด้านข้างไรผม
คุณจึงควรลดการสวมใส่หมวกให้น้อยลง และหากจำเป็นต้องสวมหมวกซึ่งทำให้อับชื้นในบริเวณหน้าผากแล้ว ก็ให้หมั่นซักทำความสะอาดหมวกอยู่เสมอ ทุก 2-3 วัน หรือถี่มากกว่านั้น
6. ลดอาหารที่มีน้ำตาลสูง
อาหารที่มีน้ำตาลสูงเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดสิวบริเวณหน้าผากได้ ดังนั้นคุณจึงควรเลือกรับประทานอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ จะช่วยลดการเกิดสิวได้ดียิ่งขึ้น เช่น ลดอาหารทอด หรือที่มีน้ำมันมาก รับประทานผักใบเขียวมากขึ้น เลือกรับประทานข้าวกล้องแทนข้าวขาว
สิวที่เกิดขึ้นในแต่ละบริเวณมีสาเหตุที่ทำให้เกิดแตกต่างกันไป ให้คุณลองหาเหตุผลเบื้องต้นที่สามารถเกิดขึ้นได้ และปรับเปลี่ยนตามสาเหตุนั้นๆ สิวก็จะดีขึ้นได้อย่างแน่นอน
ดูแพ็กเกจรักษาสิว เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจเหล่านี้ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android