แม้ผู้ชายและผู้หญิงจะมีขนรักแร้เหมือนกัน แต่ผู้หญิงเกือบทุกคนจะกำจัดขนรักแร้อย่างสม่ำเสมออยู่แล้ว จึงไม่ใช่เรื่องน่ากังวลเท่ากับผู้ชายที่มักมีมุมมองเกี่ยวกับเรื่องขนรักแร้ที่แตกต่างไปจากผู้หญิงอย่างชัดเจน โดยเฉพาะผู้ชายที่ไม่ได้เป็นนักกีฬา ซึ่งมักจะไม่เห็นด้วยกับการกำจัดขนรักแร้เนื่องจากเห็นว่าไม่ใช่เรื่องจำเป็น ทั้งที่ขนรักแร้เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคบนร่างกายของเรา
เคล็ดลับเรื่องใต้รักแร้ สำหรับผู้ชาย
สาเหตุที่ทำให้ขนรักแร้ เป็นหนึ่งในแหล่งสะสมเชื้อโรคของร่างกาย เพราะบริเวณใต้รักแร้มีต่อมเหงื่ออยู่มาก เหงื่อที่ถูกขับออกจากร่างถือว่าเป็นสิ่งสกปรกที่เต็มไปด้วยสารสเตียรอยด์ (steroids) ไขมันใต้ผิวหนัง โปรตีนในร่างกาย และสิ่งสกปรกชนิดอื่นๆอีกมากมาย การมีขนรักแร้ยาวหรือหนามาก จะทำให้เหงื่อที่ถูกขับออกมาจับตัวกันอยู่ในบริเวณนั้น จนทำให้เกิดกลิ่นอับและคราบสกปรกบนเสื้อผ้า
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
เพื่อสุขอนามัยที่ดีของร่ายกาย คุณผู้ชายควรเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับเรื่องนี้ และศึกษากำจัดขนรักแร้อย่างเหมาะสม แต่ในกรณีที่ไม่อยากกำจัดขนรักแร้ออกไปให้หมดเสียทีเดียว การดูแลสุขอนามัยใต้รักแร้ในรูปแบบอื่นจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งเรามีคำเคล็ดลับดีๆมาแนะนำ ดังนี้
1.เล็มให้บาง
ในกรณีที่มีขนรักแร้ที่หนาและไม่ต้องการกำจัดขนรักแร้ให้หมดไปโดยสิ้นเชิง การเล็มหรือซอยให้บางลงเป็นหนึ่งวิธีที่จะช่วยลดการสะสมของเหงื่อในบริเวณนี้ได้ เคล็ดลับที่สำคัญคือควรเล็มในขณะที่รักแร้เปียกด้วยเครื่องเล็มหนวดหรือขนรักแร้แบบกันน้ำ เพราะน้ำจะทำให้ขนรักแร้อ่อนตัวลงและช่วยลดแรงเสียดสีที่อาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้
2.ตัดให้สั้น
การตัดปลายขนรักแร้ให้สั้นลง ช่วยลดการสะสมของเหงื่อในบริเวณนี้ได้เช่นกัน หากขนรักแร้มีลักษณะตรง คำแนะนำคือควรตัดให้มีความยาวเหลือไว้ประมาณ 1 นิ้ว แต่หากขนรักแร้ค่อนข้างหยักศกก็สามารถตัดให้สั้นกว่า 1 นิ้วได้ ปลายขนรักแร้ที่ถูกตัดจะมีความคมในระดับหนึ่ง การที่ตัดสั้นเกิดไปจึงอาจทำให้ระคายเคืองผิวหนังในบริเวณนั้นได้
3.บำรุงด้วยครีม
หลังจากการเล็ม การตัด หรือแม้แต่การกำจัดขนออกไปโดยสิ้นเชิง ควรบำรุงผิวหนังในบริเวณนั้นให้มีความชุ่มชื้นด้วยครีมหรือโลชั่นหลังโกนหนวดที่ปราศจากการเจือปนของน้ำหอมหรือแอลกอฮอล์ เพราะผิวที่บริเวณรักแร้นั้นอ่อนบางมาก คำแนะนำอีกอย่างคือไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ดับกลิ่นกายทันที ควรรออย่างน้อย 3 นาที หรือไม่เช่นนั้นอาจทำให้แสบและเกิดการระคายเคืองได้