ต่อมน้ำเหลือง เป็นต่อมที่กระจายอยู่ทั่วร่างกาย เช่น ใต้รักแร้ ขาหนีบ คอ ภายในประกอบด้วยน้ำเหลืองและสารต่างๆ ซึ่งมีบทบาทในการป้องกันเชื้อโรคที่รุกรานเข้าสู่ร่างกาย ต่อมน้ำเหลืองจะติดอยู่กับท่อน้ำเหลือง ซึ่งทำหน้าที่ลำเลียงน้ำเหลืองไปยังส่วนต่างๆ ในร่างกาย ดังนั้น ถ้าเกิดเป็น มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Lymphoma) เซลล์มะเร็งก็จะลุกลามไปยังอวัยวะต่างๆ ได้ง่าย
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Lymphoma) เกิดจากการแบ่งตัวอย่างผิดปกติของเม็ดเลือดขาวลิมโฟไซต์ภายในต่อมน้ำเหลือง ซึ่งเกิดขึ้นได้กับต่อมน้ำเหลืองทุกบริเวณ และพบได้ในคนทุกวัย รวมถึงในเด็กด้วย มะเร็งต่อมน้ำเหลืองพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันผิดปกติ และมีการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียบางชนิด เช่น Epstein-Barr Virus ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลืองได้เช่นกัน
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ประเภทของมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
มะเร็งต่อมน้ำเหลืองมีอยู่หลายชนิด ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ ดังนี้
- มะเร็งต่อมน้ำเหลืองฮอดจ์กิน (Hodgkin's Lymphoma: HL) พบได้น้อยกว่า และมักพบในเด็กและวัยรุ่นเป็นหลัก
- มะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่ไม่ใช่ฮอดจ์กิน หรือนอนฮอดจ์กิน (Non-Hodgkin's Lymphoma: NHL) พบบ่อยกว่า และมักพบในผู้ใหญ่ รวมถึงผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง
อาการของมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
- ต่อมน้ำเหลืองบวมโต เนื่องจากเม็ดเลือดขาวลิมโฟไซต์แบ่งตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งมักเห็นได้ชัดเจนบริเวณคอ ขาหนีบ และรักแร้ ส่วนใหญ่ไม่มีอาการเจ็บปวด
- มีไข้เรื้อรัง
- รู้สึกเหนื่อย อ่อนเพลีย น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- เป็นแผลและมีเลือดออกง่าย
- มีการติดเชื้ออย่างรุนแรง
- มีเหงื่อออกมากโดยเฉพาะตอนกลางคืน
ระยะของมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
มะเร็งต่อมน้ำเหลืองแบ่งได้เป็น 4 ระยะ เช่นเดียวกับมะเร็งทั่วไป
ระยะที่ 1 เกิดมะเร็งขึ้นที่ต่อมน้ำเหลืองเพียงต่อมเดียว
ระยะที่ 2 เกิดมะเร็งขึ้นที่ต่อมน้ำเหลืองตั้งแต่ 2 จุดขึ้นไป โดยต่อมที่เกิดมะเร็งจะอยู่ในเหนือกะบังลม หรือใต้กะบังลมเหมือนกันเท่านั้น
ระยะที่ 3 เกิดมะเร็งขึ้นที่ต่อมน้ำเหลืองตั้งแต่ 2 จุดขึ้นไป โดยต่อมที่เกิดมะเร็งกระจายอยู่ทั่วร่างกาย ทั้งเหนือและใต้กะบังลม
ระยะที่ 4 มะเร็งลุกลามออกนอกระบบน้ำเหลือง ทำให้พบเซลล์มะเร็งที่อวัยวะอื่น เช่น ปอด ตับ กระดูก เป็นต้น
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
การรักษามะเร็งต่อมน้ำเหลือง
การรักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองนั้นอาจแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละคน ขึ้นอยู่ขึ้นชนิดของมะเร็ง ระยะ และการดำเนินโรค โดยทั่วไปมีแนวทางการรักษาดังนี้
- การใช้เคมีบำบัด เป็นการใช้ยาเคมีเพื่อกำจัดเซลล์มะเร็ง ซึ่งอาจมีผลข้างเคียงต่อร่างกายรุนแรง และผู้ป่วยแต่ละคนอาจให้ผลตอบสนองต่อการรักษาต่างกัน
- การฉายรังสี โดยใช้รังสีเอ็กซเรย์ และรังสีโปรตอน ซึ่งมีพลังงานสูงกำจัดเซลล์มะเร็ง
- การใช้ยาอื่นๆ โดยยาดังกล่าวอาจออกฤทธิ์ต่อเซลล์มะเร็งโดยตรง ทำให้เซลล์มะเร็งไม่สามารถเจริญและแบ่งตัวได้ หรือยาอาจไปกระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกายให้กำจัดเซลล์มะเร็งได้ดีขึ้น
- การปลูกถ่ายไขกระดูก โดยใช้ stem cell ไขกระดูกของผู้บริจาคที่เข้ากันได้เท่านั้น และต้องใช้รังสีหรือยาเคมีเพื่อกดภูมิคุ้มกัน ไม่ให้เกิดการต่อต้านเซลล์ที่ปลูกถ่ายเข้าไป
การดูแลตัวเองเมื่อเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
นอกจากการรักษาทางการแพทย์แล้ว การดูแลตนเองอย่างเหมาะสมทั้งระหว่างและหลังการรักษา ก็เป็นการช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และป้องกันไม่ให้มะเร็งแพร่กระจายหรือกลับมาเป็นซ้ำได้ โดยวิธีการสร้างเสริมสุขภาพที่ดี ได้แก่
- ออกกำลังกายเป็นประจำ หรือขยับร่างกายสม่ำเสมอ
- ทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเน้นพวกผักผลไม้ งดทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง อาหารดิบ และอาหารหมักดอง
- งดสูบบุหรี่ และงดดื่มแอลกอฮอล์
การป้องกันมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
มะเร็งต่อมน้ำเหลืองนั้นเหมือนกับมะเร็งอื่นๆ คือมักเกิดขึ้นเองโดยไม่ทราบสาเหตุ จึงยังไม่มีวิธีป้องกันที่แน่นอน แต่อย่างไรก็ตาม การดูแลสุขภาพให้แข็งแรงทั้งด้านร่างกายและจิตใจ จะเป็นเกราะป้องกันตัวเราจากโรคร้ายต่างๆ ซึ่งรวมถึงโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองด้วย