ภาวะเหลืองคืออะไร ?
ภาวะเหลืองเป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่สำคัญที่สุดในทารก ทั้งทารกที่คลอดก่อนกำหนดและทารกที่คลอดครบกำหนด ภาวะเหลืองคือภาวะที่สีผิวและสีตามีสีเหลืองมากขึ้น ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเซลล์เม็ดเลือดแดงแตกและบิลลิรูบิน ซึ่งเป็นผลที่ได้จากการแตกทำลายของเม็ดเลือดแดงเกิดมากขึ้นในร่างกาย
แต่ในเด็กบางราย ภาวะเหลืองก็รุนแรงกว่านั้น หากไม่ได้รับการรักษาอาจมีผลที่ร้ายแรงตามมาได้
ทำไมภาวะเหลืองจึงเป็นอันตราย ?
ทารกส่วนใหญ่สามารถขจัดบิลลิรูบินได้ง่ายและขับออกทางอุจจาระก่อนที่จะสะสมมากเกินไปในร่างกาย แต่ในทารกบางรายมีการแตกทำลายของเม็ดเลือดแดงเร็วกว่าปกติ หรือไม่สามารถกำจัดบิลลิรูบินออกไปได้อย่างเหมาะสม ในทารกเหล่านี้ บิลลิรูบินจะสะสมจนถึงระดับที่เป็นอันตรายในกระแสเลือด
เมื่อมีบิลลิรูบินในเลือดมากเกินไปก็สามารถทำให้เกิดความเสียหายต่อสมองอย่างร้ายแรงที่เรียกว่า kernicterus ซึ่งมักพบได้ในทารกคลอดก่อนกำหนด หรือทารกที่ป่วยมาก หรือทารกที่มีภาวะหมู่เลือดไม่เข้ากัน (blood type incompatibility) ในระดับรุนแรง ภาวะนี้พบได้ยากมากในทารกคลอดครบกำหนดที่มีสุขภาพดี แต่หากเกิดภาวะนี้แล้ว สามารถทำให้เกิดปัญหาทางสุขภาพในระยะยาวได้ เช่น
- สูญเสียการได้ยิน
- Cerebral palsy
- ความบกพร่องทางการเรียนรู้
- การเสียชีวิต
คุณจะเห็นได้ว่า kernicterus เป็นปัญหาที่ร้ายแรง
หากลูกวัยทารกของคุณมีระดับบิลลิรูบินสูงมาก แพทย์มักจะรักษาทันที
ภาวะเหลืองรักษาได้อย่างไร ?
ต้องขอบคุณการแพทย์สมัยใหม่ที่ทำให้ภาวะเหลืองแทบจะไม่ร้ายแรงจนเกิดภาวะ kernicterus อีกแล้ว ทารกที่มีความเสี่ยงต่อภาวะเหลืองรุนแรง จะได้รับการตรวจระดับบิลลิรูบินบ่อย ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่อยู่ในระดับสูง
บิลลิรูบินสามารถตรวจวัดได้จากการตรวจเลือด หรือเครื่องตรวจที่หน้าผาก หากระดับเริ่มสูงขึ้น เด็กจะได้รับการรักษา
วิธีที่ใช้มากที่สุดในการรักษาภาวะเหลืองคือการใช้แสงพิเศษ ที่เรียกว่าแสงสำหรับการส่องไฟ (phototherapy light หรือ billilight)
แสงดังกล่าวจะช่วยให้ร่างกายสลายบิลลิรูบินให้อยู่ในรูปที่ร่างกายขับออกได้ ต้องมีบิลลิรูบินในเลือด แสงนี้จึงทำงานได้ ดังนั้น จึงสามารถใช้รักษาได้อย่างเดียว ใช้ในการป้องกันไม่ได้
มีแสงหลายชนิดที่ใช้ในการรักษาภาวะเหลือง biliblanket เป็นแสงสลัวเล็ก ๆ ที่อยู่ใต้ตัวเด็ก เด็กจะไม่ต้องสวมที่คาดตา และสามารถห่อ อุ้ม หรือให้นมได้ การส่องไฟชนิดอื่น ๆ จะจริงจังกว่านี้ และเด็กต้องนอนอยู่ในอู่หรือตู้อบ โดยสวมแค่ผ้าอ้อมเท่านั้นในขณะส่องไฟ ทารกที่ส่องไฟลักษณะนี้จะต้องสวมที่ปิดตาเพื่อป้องกันดวงตา
หากการส่องไฟไม่ได้ผลดีพอ ระดับของบิลลิรูบินจะยังคงสูงขึ้น
ในกรณีที่หาได้ยาก แพทย์จะต้องใช้วิธีถ่ายเลือด ซึ่งเลือดบางส่วนหรือทั้งหมดของทารกจะถูกถ่ายออกและแทนที่ด้วยเลือดของผู้บริจาค การเปลี่ยนถ่ายจะทำอย่างช้า ๆ โดยเปลี่ยนถ่ายทีละน้อย ๆ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงอยู่ดี
ทำไมทารกคลอดก่อนกำหนดจึงมีความเสี่ยงต่อภาวะเหลืองที่รุนแรงกว่า
ภาวะเหลืองเป็นเรื่องปกติ และทารกส่วนใหญ่มักจะมีภาวะเหลืองเล็กน้อย ในทารกคลอดครบกำหนด
แพทย์จะไม่รักษาภาวะเหลืองเลย หากระดับบิลลิรูบินไม่ได้สูงมากหรือเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แพทย์จะระมัดระวังมากกว่าในทารกคลอดก่อนกำหนด และเริ่มให้การรักษาที่ระดับบิลลิรูบินที่ต่ำกว่า เนื่องจากทารกคลอดก่อนกำหนดไม่สามารถขจัดบิลลิรูบินได้อย่างเหมาะสม และอาจมีผลระยะยาวจากระดับบิลลิรูบินที่ต่ำกว่า
ในทารกที่คลอดเมื่อครบกำหนด ตับ ลำไส้ และกระเพาะปัสสาวะจะทำงานร่วมกันในการย่อยสลายบิลลิรูบินและขับออกจากร่างกาย ในทารกคลอดก่อนกำหนด ระบบเหล่านี้จะยังไม่เจริญเต็มที่ ทำให้การย่อยและการกำจัดบิลลิรูบินเป็นไปได้ยากกว่า
ไม่เพียงแต่ทารกคลอดก่อนกำหนดจะย่อยบิลลิรูบินได้ยากกว่า แต่ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิด kernicterus และอาจมีปัญหาทางสุขภาพที่ร้ายแรง เช่น มีปัญหาทางการได้ยินและการเคลื่อนไหวอย่างถาวรได้
ภาวะเหลืองจะคงอยู่นานเท่าไร
ในทารกส่วนใหญ่ ภาวะเหลืองจะเป็นเพียงชั่วคราวและหายไปได้เองในสองสัปดาห์ การเห็นลูกนอนปิดตาอาจทำให้พ่อแม่รู้สึกไม่ดี แต่มันก็จะผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ภาวะเหลืองบางอย่างจะคงอยู่นานกว่าสองสัปดาห์ และไม่สามารถรักษาได้ด้วยการฉายแสง อะไรก็ตามที่ทำอันตรายต่อตับจะทำให้เกิดอาการเหลืองได้ ทารกที่กินนมไม่ได้และต้องได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำเป็นเวลานานสามารถเกิดการทำลายของตับ และเกิดภาวะเหลืองที่เรียกว่า cholesteric jaundice
ทารกที่เลี้ยงด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวอาจเกิด breastmilk jaundice ได้
ซึ่งอาจคงอยู่ได้ถึงสามเดือน แต่จะไม่ทำให้เกิด kernicterus และแทบไม่ต้องการการรักษาเลย