โรคหลอดเลือดแดงอุดตันคืออะไร อาการ สาเหตุ วิธีการรักษา และวิธีการป้องกัน
โรคหลอดเลือดแดงอุดตัน (Arterial Thrombosis) คือภาวะที่มีลิ่มเลือดเกิดขึ้นในหลอดเลือดแดงซึ่งอาจเป็นภาวะอันตราย เพราะลิ่มเลือดสามารถเข้าไปอุดกั้นหรือทำให้การไหลของเลือดไปสู่อวัยวะสำคัญอย่างสมองหรือหัวใจชะงักลงได้
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
หากลิ่มเลือดทำให้การไหลของเลือดไปสู่หัวใจเกิดการตีบแคบ ยังทำให้เกิดอาการเจ็บปวดที่เรียกว่าอาการแน่นหน้าอก (Angina)
อาการของโรคหลอดเลือดแดงอุดตัน
อาการของโรคขึ้นอยู่กับลิ่มเลือดเกิดขึ้นที่ตำแหน่งใดของร่างกาย โดยการเกิดลิ่มเลือดที่หลอดเลือดแดงอาจทำให้เกิดอาการดังนี้ได้
- แน่นหน้าอก (Angina)
- หัวใจวาย (Heart Attack) : เกิดขึ้นเมื่อลิ่มเลือดเข้าไปอุดกั้นการไหลเวียนของหลอดเลือดแดงที่ส่งเลือดไปเลี้ยงหัวใจอย่างสมบูรณ์ ทำให้มีอาการ เช่น
- อาการเจ็บปวดรุนแรงกลางอกหรือไม่สบายกลางอกชนิดไม่รุนแรง
- หายใจลำบาก
- เหงื่อออก, ผิวเย็น, และผิวซีด
- วิงเวียน
- คลื่นไส้และอาเจียน
- ภาวะหลอดเลือดสมอง (Stroke) : หากลิ่มเลือดเกิดขึ้นบนหลอดเลือดแดงที่ส่งเลือดไปเลี้ยงสมอง อาจทำให้เกิดอาการเหล่านี้โดยกะทันหันได้
- ชาหรืออ่อนแรงที่ด้านใดด้านหนึ่งของร่างกาย จนอาจถึงขั้นเป็นอัมพาตครึ่งซีก
- ชาบนใบหน้าจนอาจทำให้ปากไม่สามารถรองรับน้ำลายจนไหลออกจากปากได้
- วิงเวียน
- พูดจาและทำความเข้าใจคนอื่นพูดลำบาก
- มีปัญหาด้านการประสานงานของอวัยวะและการทรงตัว
- กลืนลำบาก
- โรคหลอดเลือดแดงส่วนปลาย (Peripheral Vascular Disease) : หากมีการตีบแคบของหลอดเลือดที่ส่งเลือดไปยังขาข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง อาจมีอาการดังนี้
- มีโอกาสเกิดลิ่มเลือดมากขึ้น
- มีความเจ็บปวดขณะออกกำลังกาย มักจะเกิดกับส่วนล่างของขา
- มีความเจ็บปวดที่เกิดกับขาทั้งสองข้าง แต่จะเกิดกับขาข้างเดียวก่อน
- มีผิวซีดและเย็น กับมีอาการชาที่ขาข้างหนึ่ง
สาเหตุการเกิดโรคหลอดเลือดแดงอุดตัน
โรคหลอดเลือดแดงอุดตัน (Arterial Thrombosis) เกิดขึ้นเมื่อมีลิ่มเลือดเกิดขึ้นภายในหลอดเลือดแดงจนเข้าไปชะลอหรือยับยั้งการไหลเวียนของเลือด
เลือดประกอบด้วยเซลล์เกล็ดเลือดและโปรตีนที่ทำให้เลือดแข็งตัว โดยองค์ประกอบทั้งสองนี้ทำให้เกิดกลไกการเกาะเป็นลิ่มของเลือด เมื่อหลอดเลือดถูกตัดขาด เกล็ดเลือดกับสารก่อลิ่มเลือดจะรวมตัวเข้าด้วยการบนบาดแผล จนกลายเป็นลิ่มเลือดแข็ง ๆ ที่ใช้หยุดการไหลของเลือดลง
โดยปรกติแล้วกลไกการสร้างลิ่มเลือดนี้จะเกิดขึ้นเมื่อหลอดเลือดเสียหายหรือมีเลือดออก แต่บางกรณีเลือดภายในก็อาจเกาะกันเป็นลิ่มได้ แม้ว่าหลอดเลือดจะไม่ได้รับความเสียหายก็ตาม
ส่วนมากภาวะลิ่มเลือดอุดตัน มักเกิดจากการที่หลอดเลือดแดงได้รับความเสียหายจากโรคหลอดเลือดแข็ง (Atherosclerosis) ที่ทำให้มีไขมันสะสมบนผนังหลอดเลือดแดง จนทำให้ผนังหนาตัวและตีบแคบลง ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุเหล่านี้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
- การรับประทานอาหารไขมันสูง
- การสูบบุหรี่
- การบริโภคแอลกอฮอล์ปริมาณมากเกินไป
- ภาวะอ้วน (Obesity)
- การไม่ออกกำลังกาย
- เบาหวาน (ทั้งเบาหวานประเภท 1 และ 2)
- ภาวะความดันโลหิตสูง (Hypertension)
การวินิจฉัยโรคหลอดเลือดแดงอุดตัน
การทดสอบที่ใช้วินิจฉัยลิ่มเลือดภายในหลอดเลือดแดง ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดลิ่มเลือดขึ้น แต่โดยทั่วไปจะเลือกใช้ 3 วิธีนี้
- การตรวจคลื่นหัวใจไฟฟ้า (Electrocardiogram (ECG)) : ผู้ที่มีอาการแน่นหน้าอกแบบไม่คงที่ กับภาวะหัวใจวายจะถูกวินิจฉัยด้วยการใช้การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ทุกครั้งที่หัวใจเต้นจะมีสัญญาณทางไฟฟ้าขนาดเล็กแสดงออกมาบนกระดาษที่จะเป็นข้อมูลให้แพทย์พิจารณาว่าตำแหน่งที่ไม่ได้รับเลือดระหว่างที่มีอาการหัวใจวายบ้าง
- การตรวจเลือด : แพทย์อาจนำเลือดไปวัดระดับโปรตีน Troponin ที่ปล่อยออกมาเมื่อกล้ามเนื้อหัวใจได้รับความเสียหายจากภาวะหัวใจวาย
- การสแกน : ผู้ที่มีภาวะหลอดเลือดสมอง จะถูกวินิจฉัยด้วยการสแกนสมองด้วยวิธีสแกนคอมพิวเตอร์ (Computed Tomography (CT) sScan) หรือการถ่ายภาพสะท้อนคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Magnetic Resonance Imaging (MRI) Scan)
การรักษาโรคหลอดเลือดแดงอุดตัน
การรักษาภาวะหลอดเลือดแดงอุดตันมีอยู่ 2 วิธีหลัก ดังนี้
- การใช้ยา : ยาที่ใช้จะเข้าไปสลายลิ่มเลือด และฟื้นฟูการไหลเวียนของเลือดไปยังสมองหรือหัวใจให้กลับมาดังเดิม
- การผ่าตัด : การผ่าตัดรักษาภาวะหลอดเลือดแดงอุดตัน จะดำเนินการด้วยการผ่าเข้าไปยังหลอดเลือดที่มีอาการ และจะรักษาด้วยวิธีการเหล่านี้
- การขยายหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Angioplasty) : คือหัตถกรรมสำหรับภาวะหัวใจวายที่นิยมดำเนินการกันมากที่สุด การผ่าตัดนี้จะมีการใช้ท่อโลหะสอดเข้าไปดามเส้นเลือดแดงเพื่อไม่ให้เกิดการตีบตันอีกครั้ง
- การผ่าตัดทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจ ในบางกรณีแพทย์จะดำเนินการผ่าตัดทำทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Artery Bypass Graft (CABG)) กับคนไข้ที่มีภาวะหัวใจวาย โดยนำหลอดเลือดจากส่วนอื่นของร่างกายมาทำทางเบี่ยงบายพาสข้ามจุดที่เกิดการอุดตันไป
- การผ่าตัดเปิดหลอดเลือดคอไปเลี้ยงสมอง การผ่าตัดรักษาโรคหลอดเลือดแดงอุดตันอีกวิธีคือการเปิดหลอดเลือดคอไปเลี้ยงสมอง (Carotid Endarterectomy) ซึ่งจะดำเนินการในกรณีที่คุณมีลิ่มเลือดเกิดขึ้นในหลอดเลือดแดงที่คอ ที่สาเหตุของภาวะหลอดเลือดสมอง
การป้องกันโรคหลอดเลือดแดงอุดตัน
ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการป้องกันการเกิดลิ่มเลือดอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ก็มีหลายวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดได้ เช่น
- การใช้ยา หากคุณเคยประสบกับภาวะลิ่มเลือดในหลอดเลือดแดง คุณอาจต้องใช้ยาป้องกันการเกิดภาวะเดิมซ้ำอีกครั้ง โดยยาที่สามารถใช้ได้มีดังนี้
- การใช้ชีวิต การมีสุขภาพที่ดีสามารถลดผลกระทบของภาวะเหล่านี้และโรคอื่น ๆ ได้ เพียงแค่ปฏิบัติดังนี้
- เลิกสูบบุหรี่
- ลดการบริโภคแอลกอฮอล์
- รับประทานผักและผลไม้ในสัดส่วน 5 กับปลาอีก 2 ต่อสัปดาห์ ( เหลือแค่ 1 ส่วน สำหรับปลาไขมันสูง)
- ออกกำลังกายด้วยกิจกรรมที่มีความเข้มข้นปานกลาง เช่น การเดินหรือปั่นจักรยานอย่างน้อย 30 นาที ในระยะเวลาอย่างน้อย 5 วัน/สัปดาห์