การตั้งครรภ์ จริงอยู่ว่าเป็นความดีใจของว่าที่คุณพ่อคุณแม่ แต่ก็ต้องยอมรับว่าอาจทำให้หนักอกหนักใจเกี่ยวกับภาระค่าใช้จ่ายไม่น้อย เพราะรวม ๆ แล้วค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเลยทีเดียว หากพอจะมีสิทธิในการเบิกค่าใช้จ่ายประเภทใดได้จึงอย่ารอช้า โดยเฉพาะบัตรทองและบัตรประกันสังคม ที่เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่จะสามารถเบิกและคุ้มครองค่าใช้จ่ายได้มากทีเดียว
สิทธิในการใช้บัตรทอง
บัตรทอง 30 บาท คือบัตรประกันสุขภาพที่คนไทยทุกคนมีสิทธิ์ที่จะได้รับบริการสาธารณสุขขั้นพื้นฐาน บัตรนี้ให้สิทธิประโยชน์หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าแก่ผู้ที่ถือบัตร เพื่อการเข้าถึงสาธารณสุขที่มีมาตรฐานอย่างทั่วถึง ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลได้เป็นอย่างดี สำหรับคุณแม่ที่มีสัญชาติไทย มีเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก สามารถขอรับสิทธิได้ทุกคนถึงแม้ไม่ได้รับสิทธิข้าราชการ หรือประกันสังคมร่วมด้วยก็ตาม
ฝากครรภ์ คลอดบุตรวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 79 บาท ลดสูงสุด 65%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
สิทธิบัตรทองกรณีฝากครรภ์และคลอดบุตร
บัตรทอง 30 บาทเป็นบัตรที่ให้บริการสุขภาพได้ครอบคลุมทุกด้าน รวมถึงการคลอดบุตรด้วย หากคุณแม่ไม่มีบัตรประกันสังคม บัตรข้าราชการ หรือไม่ได้เป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ แนะนำอย่างยิ่งให้สมัครบัตรทองเพื่อขอใช้สิทธิในการรักษาพยาบาล ซึ่งกรณีตั้งครรภ์นี้ สปสช. ให้การดูแลคุ้มครองคุณแม่ตั้งแต่การไปฝากครรภ์เลยทีเดียว
- คุณแม่จะได้รับการฝากครรภ์ตามมาตรฐานคุณภาพครบ 5 ครั้งตามมาตรฐานสากล
- ได้รับการตรวจคัดกรองความเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อลดปัญหาการเกิดภาวะผิดปกติในเด็ก
- มีระบบห้องคลอด การบริบาลทารกแรกเกิด และการดูแลสุขภาพเด็กแรกเกิดจนถึง 5 ขวบ
- ได้รับบริการตรวจร่างกาย และตรวจครรภ์ ชั่งน้ำหนัก สัดส่วนสูง วัดความดันโลหิต ตรวจสุขภาพช่องปากและฟัน ตรวจภายใน วัดความสูงยอดมดลูก ตรวจปัสสาวะ ตรวจหาเชื้อแบคทีเรีย โปรตีน และน้ำตาลในปัสสาวะ ตรวจเลือด ความเข้มข้นของเม็ดเลือดแดง การคัดกรองโรค เช่น ซิฟิลิส เอดส์ ไวรัสตับอักเสบบี และโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียทั้งคุณแม่และสามี
- คุณแม่ที่ถือบัตรทองสามารถใช้สิทธิต่อเนื่องในการคลอดลูกฟรีได้ตามสถานพยาบาลที่ฝากครรภ์ไว้
- ได้รับการส่งเสริมสุขภาพคุณแม่ตั้งครรภ์ ทารกแรกเกิด ภาวะโภชนาการ และพัฒนาการเด็ก
- ได้รับการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคไม่ว่าจะเป็นการวางแผนครอบครัว การคุมกำเนิด
- ได้รับการฉีดวัคซีนเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรค
- แต่สำหรับการรักษาภาวะมีบุตรยาก หรือการผสมเทียมจะไม่ได้ถูกคุ่มครองในสิทธิบัตรทอง
สิทธิบัตรประกันสังคมกรณีคลอดบุตร
สำหรับผู้ที่เป็นพนักงานบริษัทเอกชน รัฐวิสาหกิจ หรือข้าราชการ จะได้สิทธิเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งอย่างคือ สิทธิประกันสังคม โดยคุณแม่สามารถเข้ารับการตรวจครรภ์หรือคลอดบุตรได้ตามโรงพยาบาลที่เลือกไว้ ซึ่งสามารถเลือกโรงพยาบาลรัฐได้ถึง 156 แห่ง เอกชน 86 แห่ง รวมถึงเครือข่ายสถานพยาบาลอีกกว่า 2000 แห่ง
หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการรับสิทธิ์คลอดบุตรจากประกันสังคม
- ผู้ประกันตนจะต้งจ่ายเงินสมทบประกันสังคมมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 เดือน ภายใน 15 เดือนรับบริการคลอดบุตร จึงจะมีสิทธิเบิกค่าคลอดบุตรได้
- หากเป็นไปตามเงื่อนไขผู้ประกันตนสามารถเบิกค่าคลอดบุตรได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
- ผู้ประกันตนจะได้ค่าคลอดบุตรในอัตรา 13,000 บาทต่อการคลอดหนึ่งครั้ง
- ผู้หญิงมีสิทธิรับเงินสงเคราะห์หยุดงานเพื่อคลอดบุตรอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ยเวลา 90 วัน
- สำหรับการใช้สิทธิบุตรคนที่ 3 จะไม่ได้รับสิทธิเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตร
- สามีและภรรยาเป็นผู้ประกันตนทั้งคู่ใช้สิทธิเบิกค่าคลอดบุตรรวมกัน ไม่จำกัดจำนวนบุตร/ครั้ง
สิทธิคุณแม่ที่รับราชการกรณีคลอดบุตร
- สำหรับผู้ที่ทำงานอาชีพราชการหรือการปกครองท้องถิ่น ยังสามารถใช้สิทธิจากประกันสังคมได้ด้วย
- มีสิทธิลาคลอดได้ 90 วันโดยไม่ต้องมีใบรับรองแพทย์
- คุณแม่ที่รับราชการจะสามารถรับเงินเดือนได้ตามปกติ 90 วัน
- ส่วนพนักงานรับราชการ จะสามารถรับเงินเดือนได้ตามปกติแต่จะได้จากว่วนราชการ 45 วัน และได้รับจากสำนักงานประกันสังคม 45 วัน
- พนักงานราชการมีสิทธิ์ลากิจเพื่อเลี้ยงดูบุตรได้ไม่เกิน 150 วันทำการโดยไม่รับเงินเดือน
- นอกจากนี้ ยังสามารถใช้สิทธิข้าราชการกับประกันสังคมคู่กันได้ ทั้งนี้หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือรับราชการทั้งคู่ให้ตรวจสอบสวัสดิการเพิ่มเติมจากหน่วยงานที่ท่านสังกัดอยู่
ไม่ว่าจะประกอบอาชีพอะไรก็ตาม แนะนำคุณแม่และคุณพ่อศึกษาสิทธิทั้งจากภาครัฐและเอกชนที่เราสามารถรับสิทธิตามที่เราควรได้รับ ควรเตรียมพร้อมตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อเป็นการรักษาสิทธิของเราและจะได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขได้อย่างถูกต้อง เพียงเท่านี้จะช่วยให้เรามีเวลาเตรียมตัวเป็นคุณแม่ได้อย่างอุ่นใจ และพร้อมที่จะเพื่อดูแลลูกรักอย่างเต็มตัวค่ะ