มือเป็นอวัยวะสำคัญที่เราทุกคนต้องใช้เพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละวัน เมื่อเราเกิดอาการบาดเจ็บที่มือ ก็จะทำให้ไม่สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องใช้มือ หรือมีมือเป็นส่วนประกอบได้คล่องตัว
ส่วนประกอบสำคัญของมือที่ใช้ในการเคลื่อนไหว
กระดูก และกล้ามเนื้อสำคัญที่ต้องใช้ในการเคลื่อนไหวของอวัยวะมือ ได้แก่
กายภาพบำบัดและนวดเพื่อการรักษาวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 198 บาท ลดสูงสุด 92%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
- กระดูกข้อมือ (Capus) เป็นกระดูกข้อต่อที่เชื่อมต่อกันผ่านผังผืด ช่วยให้สามารถเคลื่อนไหวอย่างการงอ เหยียด กาง หุบ หมุน หมุนควงมือได้ รวมถึงเป็นโครงสร้างยึดระหว่างมือกับข้อมือ
กระดูกข้อมือมีทั้งหมด 16 ชิ้น แบ่งออกเป็นข้างซ้าย 8 ชิ้น และข้างขวา8 ชิ้น - กระดูกนิ้วมือ (Phalanges) มีข้างละ 14 ชิ้น ทำหน้าที่เป็นแกนโครงสร้างหลักของมือ
- กล้ามเนื้อฝ่ามือ (Metacarpal) เป็นกล้ามเนื้อมัดเล็กที่อยู่ทั่วบริเวณฝ่ามือทั้งหน้า และหลัง มีจำนวนข้างละ 5 ชิ้น ทำให้การเคลื่อนไหวของมือคล่องตัว และยืดหยุ่นได้
- กล้ามเนื้อนิ้ว โดยหลักๆ จะแบ่งเป็น 3 อย่าง ได้แก่ กล้ามเนื้ออินเตอร์รอชชิไอ (Interossei muscle) ช่วยควบคุมการเคลื่อนไหวของนิ้วมือทั้งหมด
กล้ามเนื้ออย่างที่ 2 คือ กล้ามเนื้อทีนาร์ (Thenar muscle) ทำหน้าที่ช่วยในการเคลื่อนไหวของนิ้วหัวแม่มือ และกล้ามเนื้อไฮโปทีนาร์ (Hypothenar muscle) ทำหน้าที่ช่วยในการเคลื่อนไหวของนิ้วก้อย - เส้นเอ็น (Tendon) เป็นเนื้อเยื่อที่ช่วยสร้างความยืดหยุ่นในการเคลื่อนไหว โดยเส้นเอ็นไม่ได้มีอยู่แค่ที่มือเท่านั้น แต่ยังมีอยู่ทั่วร่างกายเลยทีเดียว
สาเหตุที่ทำให้การเคลื่อนไหวของมือไม่คล่องตัว
สำหรับสาเหตุที่มักทำให้การเคลื่อนไหวของมือไม่คล่องตัว หรือเกิดอาการบาดเจ็บ ได้แก่
- อาการมือชา (Carpal Tunnel Syndrome) เป็นอาการที่มักเกิดจากโรคและอาการผิดปกติบางอย่างของร่างกาย เช่น โรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ โรคเกาต์ โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคเบาหวาน อาการขาดวิตามินบี โดยผู้ป่วยจะมีอาการชา และเจ็บที่มือ ไม่สามารถจับ หรือหยิบสิ่งของได้
- เอ็น หรือปลอกหุ้มเอ็นที่มืออักเสบ (De quervain's disease) จนทำให้เกิดก้อนนูน และรู้สึกปวดเจ็บตามเอ็นกล้ามเนื้อมือมัดที่อักเสบ มักมีสาเหตุมาจากการออกกำลังกายอย่างหนัก หรือโรคประจำตัวอย่างโรคเบาหวาน โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
อาการจากภาวะเอ็น หรือปลอกหุ้มเอ็นที่มืออักเสบอาจรุนแรงจนเกิดอาการปวดได้ถึงบริเวณข้อศอกเลยทีเดียว - โรคข้อนิ้วมือเสื่อม (Osteoarthritis) พบมากในกลุ่มผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีคนในครอบครัวเป็นโรคนี้มาก่อน นอกจากนี้ผู้ที่ใช้นิ้วมือทำงานมากเกินไป หรือได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงที่มือก็สามารถเป็นโรคนี้ได้ โดยอาการหลักๆ คือ จะรู้สึกปวดข้อนิ้วมือเมื่อใช้งาน มีปุ่มกระดูกนูนที่ข้อกลาง หรือปลายนิ้วมือ
- โรคที่เกิดจากการกดทับของเส้นประสาท (Cubital Tunnel Syndrome) เป็นโรคที่เกิดจากเส้นประสาทถูกกดทับ หรือเกิดการเสียดสีกับปุ่มกระดูก จนทำให้เส้นประสาทได้รับบาดเจ็บ ทำให้เกิดอาการปวดร้าว หรือชาที่มือ โดยอาจรุนแรงไปถึงข้อศอก
- โรคนิ้วล็อค (Trigger finger) หรือเรียกได้อีกชื่อว่า “กลุ่มอาการ Stenosing tenosynovitis” มักมีสาเหตุมาจากการอักเสบของปลอกเส้นเอ็นที่นิ้ว ซึ่งจะทำให้เกิดอาการไม่สามารถขยับข้อนิ้ว หรือยืดหยุ่นนิ้วได้ตามที่ต้องการ
- ภาวะการหดรั้งของแผ่นเส้นเอ็น (Dupuytren’s Disease) โดยเกิดจากเส้นเอ็นที่ยึดระหว่างฝ่ามือกับนิ้วมือชื่อว่า “ฟาสเซีย (Fascia)” เกิดการหดรั้งและหนาตัวขึ้นกว่าเดิม ทำให้นิ้วมืองอเข้ามาหาฝ่ามือ
สาเหตุของภาวะการหดรั้งของแผ่นเส้นเอ็นนั้นมีความหลากหลาย โดยสามารถเกิดได้จากการใช้ชีวิตประจำวันไม่เหมาะสม เช่น การสูบบุหรี่ บริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์บ่อยๆ หรือจากโรคบางชนิดอย่างโรคเบาหวาน โรคลมชัก (Epilepsy)
นอกจากนี้เชื้อชาติก็มีส่วนทำให้เกิดภาวะนี้ได้เช่นกัน โดยพบว่า ชาวตะวันตกอย่างเช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส สวีเดน นอร์เวย์ มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคนี้ได้มากกว่า - ก้อนถุงน้ำที่ข้อมือ (Ganglion Cysts) โดยขนาดก้อนถุงน้ำอาจมีขนาดแค่เม็ดถั่ว หรืออาจมีขนาดใหญ่ถึง 1 นิ้วก็ได้ ก้อนถุงน้ำนี้จะสร้างความเจ็บปวดเมื่อขยับมือแล้วก้อนถุงน้ำไปทับเส้นประสาท จึงทำให้ผู้ป่วยขยับมือได้น้อยลง
รวมท่าบริหารมือให้คล่องตัว
ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของมือ นิ้วมือ รู้สึกเจ็บ ชา หรือปวดมือ และข้อมือ หรืออยากบริหารกล้ามเนื้อมือให้มีความยืดหยุ่น ก็สามารถทำท่าบริหารมือให้มีความคล่องตัวมากขึ้น ผ่านคำแนะนำต่อไปนี้
อย่างไรก็ตาม ท่าบริหารเหล่านี้จะทำได้ก็ต่อเมื่อไม่มีการอักเสบที่รุนแรงของกระดูก หรือกล้ามเนื้อมือ หรืออาการดังกล่าวได้ทุเลา และได้รับการยืนยันจากแพทย์ว่า สามารถทำท่าบริหารมือได้แล้วเท่านั้น
1. ท่ายืด และงอข้อมือ (Wrist extension and flexion)
วางแขนข้างที่ต้องการบริหารไว้กับขอบโต๊ะ โดยปล่อยให้ช่วงตั้งแต่ข้อมือห้อยลงมาจากขอบโต๊ะ ให้ฝ่ามือหันลงพื้นวางผ้าขนหนูผืนเล็กรองข้อมือไว้
กระดกข้อมือในทิศทางขึ้นและลง จากนั้นค้างข้อมือไว้โดยให้รู้สึกว่า กล้ามเนื้อที่ข้อมือยืดตึงที่สุด จากนั้นกระดกข้อมือลงให้สุด แล้วค้างข้อมือไว้โดยให้รู้สึกว่า กล้ามเนื้อที่ข้อมือยืดตึงที่สุด แล้วจึงกระดกขึ้นอีกครั้ง
2. ท่ายืด และงอข้อมือจากด้านข้าง (Wrist ulnar/radial deviation)
ท่านี้จะคล้ายกับท่าที่ 1 แต่จะต้องตะแคงสันมือให้แนบไปกับขอบโต๊ะ คล้ายกับการผายมือโดยให้ส่วนข้อมืออยู่ที่ขอบโต๊ะ และส่วนสันมืออยู่พ้นจากขอบโต๊ะ
จากนั้นกระดกข้อมือในทางทิศทางขึ้นและลงเหมือนกับท่าที่ 1 โดยจะต้องยืดให้กล้ามเนื้อข้อมือตึงที่สุด
กายภาพบำบัดและนวดเพื่อการรักษาวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 198 บาท ลดสูงสุด 92%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
3. ท่าหมุนข้อมือ (Wrist supination/pronation)
ยกแขนขึ้นด้านหน้าลำตัวในแนวตั้งฉากกับข้อศอก 90 องศา หันฝ่ามือลงพื้น จากนั้นหมุนหลังมือขึ้น ทำสลับกัน นึกภาพตามง่ายๆ ก็คือ การพลิกฝ่ามือกับหลังมือสลับกันนั่นเอง
4. ท่ายืด และงอนิ้วหัวแม่มือ (Thumb flexion/extension)
เริ่มจากแบมือ เหยียดนิ้วทั้งสี่ออก แล้วจากนั้นให้ยืดนิ้วหัวแม่มือออกจนรู้สึกตึง แล้วพับนิ้วหัวแม่มือเข้าฝ่ามืออีกครั้ง
5. ท่าเพิ่มการเคลื่อนไหวของเส้นเอ็นนิ้วมือ (Hand/finger tendon glide)
เริ่มจากแบมือออก นิ้วมือเหยียดออกทั้ง 5 นิ้ว แล้วพับนิ้วมือยกเว้นนิ้วหัวแม่มือลงถึงโคนข้อนิ้วที่ติดกับฝ่ามือ จากนั้นพับนิ้วทั้งสี่เข้าฝ่ามือเหมือนกับการกำมือ แต่นิ้วหัวแม่มือยังชูตั้งตรงอยู่
และขั้นตอนสุดท้ายคือ ให้พยายามเหยียดปลายนิ้วทั้ง 4 ให้ใกล้เคียงกับโคนฝ่ามือมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่นิ้วหัวแม่มือยังชูตั้งตรงอยู่ หลังจากนั้นกลับมาแบมืออีกครั้ง
จากท่าบริหารมือทั้ง 5 ท่าที่กล่าวไปข้างต้น ควรค้างทิ้งไว้ท่าละ 5-10 วินาทีเป็นจำนวน 10 ครั้ง เช้า - กลางวัน - เย็น เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อมือ ทำให้สามารถใช้งานมือได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น
นอกจากท่าบริหารมือ คุณอาจลองไปเข้ารับการนวดคล้ายเส้น หรือตรวจสุขภาพดูว่า โครงสร้างร่างกายส่วนใดมีความผิดปกติบ้าง หรือมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ที่ทำให้เกิดอาการใช้มือไม่คล่อง
และหากลองบริหารมือแล้ว ยังมีอาการเจ็บร้าว ชา หรือใช้มือได้ไม่ยืดหยุ่นเท่าที่ควร ก็ควรเข้ารับการตรวจวินิจฉัยแพทย์ เพื่อหาความผิดปกติภายในโครงสร้างของมือ และรับการรักษาก่อนที่อาการเจ็บปวดจะเรื้อรัง จนทำให้ไม่สามารถใช้มือทำกิจกรรมต่างๆ ได้คล่องตัว
เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจทำกายภาพบำบัดและนวดเพื่อการรักษา จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android