การคั่งน้ำมีแนวโน้มที่จะเกิดในคนที่เป็นโรคอ้วน คนที่ใช้ชีวิตแบบนั่งๆ นอนๆ และคนที่ทานอาหารที่มีโซเดียมสูง นอกจากนี้การคั่งน้ำยังพบได้มากในผู้หญิงที่อยู่ในช่วงวัยทองและผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ ซึ่งภาวะนี้มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายเริ่มกักเก็บน้ำมากกว่าที่มันควรทำ อย่างไรก็ตาม การที่อาการจะอยู่ในระดับเบา หรือรุนแรงนั้นขึ้นอยู่กับปริมาณของน้ำที่คั่งภายในร่างกาย สำหรับอาการพื้นฐานที่พบได้มีดังนี้
1. บวม
- ให้คุณลองสังเกตที่เท้าและขา เพราะเราสามารถพบการคั่งน้ำได้ที่บริเวณนี้ การมีขาที่หนักอึ้ง บวม และอ่อนล้าก็ถือเป็นสัญญาณเตือนที่ชัดเจนเช่นกัน
- การมีข้อเท้าที่บวมถือเป็นอีกหนึ่งสัญญาณของการเกิดภาวะคั่งน้ำ ซึ่งคุณจะรู้สึกว่ารองเท้าคับขึ้น
- หากคุณพบว่าตัวเองใช้เวลาใส่แหวน สร้อยคอมือ หรือนาฬิกานานขึ้น ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดจากการที่ร่างกายคั่งน้ำ
- ถ้าเดิมทีคุณมีใบหน้าที่เรียวเล็ก แต่วันดีคืนดีคุณกลับมีแก้มที่ใหญ่หรือมีใบหน้าบวมขึ้น มันก็เป็นสัญญาณที่บอกว่ามีบางสิ่งผิดปกติ
- หากมีการคั่งน้ำ หน้าท้องของคุณจะบวมจนสามารถสังเกตได้ คุณจะดูอ้วนหรือบวมมากกว่าเดิม
2. ปวดข้อ
ให้คุณลองสำรวจตัวเองว่าบริเวณข้อของอวัยวะต่างๆ บวม หรือรู้สึกเจ็บบริเวณนี้หรือไม่ หากคุณรู้สึกเจ็บอย่างต่อเนื่อง และรู้สึกเจ็บเมื่อยืนขึ้นหรือนั่งลงเป็นเวลานาน บางทีมันอาจเป็นสัญญาณของภาวะคั่งน้ำก็ได้ค่ะ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
3. ผิวมีรอยบุ๋ม
ถ้าคุณเห็นรอยหลังจากที่ออกแรงกดผิว หรือหลังจากที่สวมถุงเท้าหรือถุงน่องทั้งๆ ที่ไม่ได้คับจนเกินไป มันก็มีโอกาสที่ขาหรือข้อเท้าของคุณจะมีอาการบวมเช่นกัน นอกจากนี้หากคุณออกแรงกดบริเวณที่บวม และต้องใช้เวลาสักพักที่รอยบุ๋มจะหายไป มันก็อาจเป็นเพราะว่าคุณกำลังตกอยู่ในภาวะคั่งน้ำ หรือที่เรียกว่าบวมน้ำ
4. น้ำหนักขึ้น
เมื่อร่างกายกักเก็บน้ำมากเกินไป คุณก็อาจมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น หากคุณออกกำลังกายเป็นประจำและไม่ได้ทานอาหารแปลกไปจากเดิม แต่น้ำหนักกลับดีดตัวสูงขึ้น มันก็อาจเป็นเพราะว่าร่างกายกำลังคั่งน้ำก็ได้ค่ะ ทั้งนี้ให้คุณชั่งน้ำหนักทุกวัน โดยเฉพาะตอนเช้าและตอนกลางวัน เพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดภาวะคั่งน้ำ
- ทานอาหารที่มีโซเดียมต่ำ เพราะการทานอาหารที่มีรสเค็มหรือปรุงรสมากเกินไป จะทำให้คุณมีโอกาสตกอยู่ในภาวะคั่งน้ำมากขึ้น
- หลีกเลี่ยงการทานอาหารจั๊งค์ฟู้ด เพราะอาหารเหล่านี้มีเกลือและสารเคมีสูง
- หลีกเลี่ยงการใช้ชีวิตแบบนั่งๆ นอนๆ และหันมาออกกำลังกาย เพราะการทำกิจกรรมทางกายจะช่วยให้ร่างกายกำจัดของเสียออกมา
- หากคุณมีแนวโน้มว่าจะเครียดหรืออยู่ภายใต้สถานการณ์ที่กดดัน เราขอแนะนำให้คุณเพลาๆ การทำงาน เพราะสองสิ่งนี้เป็นปัจจัยที่ทำให้การคั่งน้ำรุนแรงมากขึ้น
- คุณควรลุกขึ้นเดินทุก 30 นาที โดยเฉพาะถ้าคุณต้องนั่งทำงานที่โต๊ะ การทำเช่นนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการคั่งน้ำบริเวณขา เท้า และข้อเท้า
หากตอนนี้คุณกำลังเผชิญกับปัญหาร่างกายคั่งน้ำหรือบวมน้ำ คุณก็ควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มีรสเค็มหรือโซเดียมสูง และลองใช้วิธีที่เรากล่าวไป แต่หากมันยังไม่หาย หรือไม่มีทีท่าว่าอาการจะดีขึ้น การไปพบแพทย์ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีค่ะ