มาดูกันว่าผู้เชี่ยวชาญจะมีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร
เพื่อนของผมใช้ถุงยางอนามัยแล้วพบว่ามันขาด เป็นไปได้จริงๆ หรอครับ? ณอนสงสัย
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
บางครั้งถุงยางอนามัยอาจฉีกหรือขาดได้ แต่การใช้และเก็บรักษาอย่างถูกต้องจะช่วยลดโอกาสที่ถุงยางอนามัยจะฉีกหรือขาดได้
ถุงยางอนามัยขาดได้อย่างไร?
โดยความร้อน แสงแดด น้ำมัน และสารเคมี เป็นสาเหตุทำให้ถุงยางอนามัยมีประสิทธิภาพลดลงและอาจทำให้ถุงยางอนามัยฉีกขาดได้ง่ายขึ้น ดังนั้นควรเก็บรักษาถุงยางอนามัยให้พ้นจากความร้อนและแสงแดดซึ่งจะทำให้ถุงยางอนามัยแห้งได้และไม่ควรใช้ถุงยางอนามัยที่เสื่อมประสิทธิภาพเหล่านี้ นอกจากนี้ การใช้น้ำมันหรือโลชั่นทาผิวร่วมกับการใช้ถุงยางอนามัยก็ส่งผลต่อประสิทธิภาพของถุงยางอนามัยเช่นกัน ยกเว้นเจลล่อลื่นเฉพาะสำหรับการมีเพศสัมพันธ์จึงจะสามารถใช้ได้
การเก็บถุงยาอนามัยไว้ในกระเป๋าตังค์หรือกระเป๋ากางเกงที่คุณมักนั่งทับก็ส่งผลให้ถุงยางอนามัยสึกหรอและฉีกขาดได้ด้วย เมื่อใช้ไม่ควรแกะซองด้วยของมีคม อย่างกรรไกรหรือใช้ฟันฉีกซอง เป็นต้น
แนะนำให้ตรวจสอบวันหมดอายุขอถุงยางอนามัยก่อนใช้เสมอ เพราะสารที่นำมาใช้เคลือบอาจมีประสิทธิภาพลดน้อยลงตามเวลา ดังนั้นต้องไม่ใช้ถุงยางอนามัยที่หมดอายุแล้ว
เป็นไปได้ว่าถุงยางอนามัยอาจฉีก ขาด หรือแตก ระหว่างการใช้งาน หากขนาดที่ใช้ไม่พอดีกับผู้ใช้หรือมีการใช้ไม่ถูกต้อง เช่น ไม่มีการปล่อยให้มีอากาศเหลืออยู่เล็กน้อยบริเวณปลายถุงยางอนามัย นอกจากนี้ถุงยางอนามัยอาจฉีกขาดได้หากเกิดแรงเสียดสีที่มากเกินไปและไม่มีการหล่อลื่นที่เพียงพอ หรือถุงยางอนามัยอาจโดนเข้ากับเล็บ แหวน เครื่องประดับ ฟัน หรือซิปกางเกง จนทำให้ฉีกขาดได้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
การใช้ถุงยางอนามัยเป็นวิธีการเดียวที่สามารถป้องกันทั้งการตั้งครรภ์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ดังนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องใช้และเก็บรักษาให้ถูกวิธี ถุงยางอนามัยหนึ่งอันจะใช้กับการมีเพศสัมพันธ์เพียงครั้งเดียวเท่านั้นและจะต้องมีการใช้ตั้งแต่เริ่มมีเพศสัมพันธ์จนเสร็จสิ้นกิจกรรม
ถุงยางอนามัยฉีก ขาด หรือแตก ต้องทำอย่างไร?
หากพบว่าถุงยางอนามัยฉีก ขาด หรือแตก และคุณหรือคนรักกังวลว่าจะตั้งครรภ์ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อขอรับยาคุมฉุกเฉิน อย่างไรก็ตามทั้งสองคนจะต้องได้รับการตรวจหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วย เนื่องจากคนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยใส่ใจว่าตนอาจติดเชื้อหรือไม่ และเมื่อคุณติดเชื้อโดยไม่รู้ตัวและไม่ได้รับการรักษา เชื้อที่ติดมาอาจส่งผลต่อสุขภาพที่ร้ายแรงต่อไปได้
ที่มาของข้อมูล http://kidshealth.org/en/teens/condom-tore.html