วิธีการลดพุงพุ้ยง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง

เผยแพร่ครั้งแรก 14 ก.พ. 2018 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 3 นาที
วิธีการลดพุงพุ้ยง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง

วิธีการต่อไปนี้จะช่วยลดพุงพุ้ยของคุณให้เรียบเนียนโดยไม่ต้องอดอาหารหรือออกกำลังกายอย่างหักโหม

หลากหลายประโยชน์จากการกำจัดไขมันหน้าท้อง

เคยรู้สึกบ้างไหมว่าไขมันหน้าท้องทำให้คุณรู้สึกแย่และท้อแท้ผิดหวัง? ในขณะที่เราทุกคนอยากดูดีและรู้สึกดีที่สุด และการไม่มีพุงพุ้ยนั้นถือว่าดีต่อสุขภาพในระยะยาวและยังเป็นการหลีกหนีจากโรคร้ายที่อาจมาเยือนได้ เนื่องจากไขมันส่วนเกินอาจนำมาซึ่งโรคหัวใจ โรคเบาหวานชนิดที่ 2 เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคความดันสูง และโรคร้ายอื่นๆ อีกมากมาย ลองศึกษาและใช้วิธีการต่อไปนี้ซึ่งเป็นวิธีที่คุณสามารถทำได้เองที่บ้าน จะทำให้คุณสามารถลดไขมันหน้าท้องที่ไม่พึงประสงค์ โดยไม่ต้องมานั่งงดอาหารหรือออกกำลังกายอย่างหักโหม

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

1. ทานโปรตีนเพิ่ม

คุณไม่จำเป็นต้องเน้นรับประทานโปรตีนในปริมาณมากแบบ Paleo Diet เพียงแค่เพิ่มปริมาณการทานโปรตีนให้มากขึ้นกว่าเดิมและพยายามลดการทานคาร์โบไฮเดรตลง พฤติกรรมการทานเช่นนี้จะช่วยลดไขมันหน้าท้องได้โดยที่ไม่ต้องออกกำลังกายอย่างหักโหม เนื่องจากโปรตีนจะช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือดและลดระดับอินซูลินซึ่งเป็นฮอร์โมนที่จะคอยส่งสัญญาณเกี่ยวกับการสะสมไขมันในร่างกายโดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง ดังนั้นการบริโภคคาร์โบไฮเดรตเพื่อสุขภาพที่ดีทำได้ดังนี้ พยายามหลีกเลี่ยงการทานขนมปังขาวและเส้นพาสต้าต่างๆ ที่เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน หลีกเลี่ยงผลไม้ที่มีรสหวาน ผักที่มีลักษณะเป็นหัวหรือราก เป็นต้น

2. เติมน้ำมันมะพร้าวในเมนูจานโปรดของคุณ

น้ำมันมะพร้าวมีส่วนประกอบของไตรกลีเซอไรด์ MCTs ซึ่งเป็นกรดไขมันอิ่มตัวสายโมเลกุลยาวปานกลาง ในขณะที่น้ำมันพืชและเมล็ดพืชส่วนใหญ่ประกอบด้วยไตรกลีเซอไรด์ LCTs เป็นกรดไขมันอิ่มตัวสายโมเลกุลยาว  จากผลการศึกษาวิจัยพบว่า น้ำมันมะพร้าวมีปริมาณของ MCTs จำนวนมาก และ MCTs นั้นย่อยง่ายแถมยังสามารถถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานได้อย่างรวดเร็วและยังช่วยกระตุ้นระบบการเผาผลาญในร่างกายของคุณด้วย

3. หาตัวช่วยผ่อนคลายความเครียด

ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหนักหรือความเครียดสะสมต่างก็เป็นสาเหตุทำให้เกิดการสะสมของไขมันบริเวณหน้าท้องได้ หากคุณมีความเครียดเพิ่มขึ้น ฮอร์โมนคอร์ติซอลจะกระตุ้นความอยากอาหารของคุณและชะลอการเผาผลาญภายในร่างกาย ทำให้เกิดการสะสมของไขมันบริเวณหน้าท้อง ดังนั้น คุณควรหาเวลาผ่อนคลายบ้าง เช่น การนั่งสมาธิ การสูดลมหายใจเข้า-ออกให้ลึกเต็มปอด การนอนแช่ในน้ำอุ่นๆ เป็นต้น กิจกรรมเหล่านี้จะช่วยลดอาการเครียดอันเป็นสาเหตุของไขมันหน้าท้องได้

4. ดื่มชาเขียวเป็นประจำทุกวัน

ชาเขียวถือเป็นเครื่องดื่มดีท๊อกซ์อย่างดีเพื่อการลดไขมันหน้าท้อง เนื่องจากชาเขียวมีสารประกอบของแคเทชินที่ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมันในร่างกายและช่วยให้ตับเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น ลองหันมาดื่มชาเขียวแทนกาแฟถ้วยโปรดดู จากการศึกษาวิจัยพบว่า การดื่มชา 4-5 แก้วต่อวัน จะทำให้ไขมันหน้าท้องลดลงอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม ชาเขียวที่ขายเป็นขวดตามร้านสะดวกซื้อทั่วไปนั้นจะมีส่วนผสมของน้ำตาลมากซึ่งอาจยิ่งเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดและทำให้คุณอ้วนขึ้น ทางที่ดีที่สุดควรชงชาดื่มเองซึ่งจะสามารถกำหนดปริมาณน้ำตาลหรืออาจใช้สารให้ความหวานธรรมชาติอื่นๆ ทดแทน เช่น หญ้าหวาน เป็นต้น

5. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

วิธีที่น่าทึ่งในการลดไขมันหน้าท้องโดยไม่ต้องออกกำลังกายอย่างหักโหมเลยคือ การนอนหลับพักผ่อนให้มากขึ้น การศึกษาวิจัยแสดงให้เห็นว่า การนอนหลับเป็นเวลา 6-8 ชั่วโมงต่อคืน จะช่วยรักษาระดับอินซูลินและลดระดับฮอร์โมนความเครียดได้ นอกจากนี้ การหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ยังช่วยเพิ่มพลังงานให้กับร่างกายเพื่อการทำกิจกรรมต่างๆ และเผาผลาญไขมันระหว่างวันได้อีกด้วย

6. เติมเครื่องเทศในอาหารแต่ละมื้อ

เคอร์คูมินเป็นสารต้านอาการอักเสบที่สามารถสกัดได้จากสมุนไพรขมิ้นชัน เพียงทานแคปซูลขมิ้นชัน 1-2 แคปซูลต่อวัน หรือเติมขมิ้นชันลงในเมนูจานโปรดของคุณ โดยเคอร์คูมินจะไปยับยั้งการสร้างเอนไซม์ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์สารที่ก่อให้เกิดการอักเสบได้ นอกจากนี้ จากการศึกษาวิจัยพบว่า ขมิ้นชันช่วยปรับระบบการเผาผลาญไขมันในร่างกายและยังเป็นส่วนประกอบในอาหารที่มีประโยชน์ที่สามารถละลายไขมันบริเวณหน้าท้องได้ เพื่อให้เกิดประสิทธิผลสูงสุดควรทานอาหารเสริมสกัดขมิ้นชันที่มีส่วนประกอบของเคอร์คูมินอย่างน้อย 95%

7. ดื่มน้ำให้มากและเพียงพอในแต่ละวัน

การดื่มน้ำให้ถึง 8 แก้วในแต่ละวัน จะช่วยระบบย่อยอาหาร ช่วยลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ และช่วยให้ระบบการเผาผลาญไขมันของคุณทำงานได้อย่างปกติ นอกจากนี้ การดื่มน้ำเปล่าแทนการดื่มน้ำหวานจะช่วยลดปริมาณการเพิ่มแคลอรี่ในร่างกาย ซึ่งจะเป็นการช่วยลดน้ำหนักและลดไขมันหน้าท้องได้ หรืออาจลองบีบมะนาวสักซีกลงในน้ำที่คุณดื่มก็จะช่วยเพิ่มรสชาติและความซาบซ่าได้


5 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
8 Ways to Lose Belly Fat and Live a Healthier Life. Johns Hopkins Medicine. (https://www.hopkinsmedicine.org/health/wellness-and-prevention/8-ways-to-lose-belly-fat-and-live-a-healthier-life)
How to get rid of belly fat naturally: Exercise tips and remedies. Medical News Today. (https://www.medicalnewstoday.com/articles/319957)
20 Effective Tips to Lose Belly Fat (Backed by Science). Healthline. (https://www.healthline.com/nutrition/20-tips-to-lose-belly-fat)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป
ปัสสาวะมีกลิ่นแบบไหน เรียกว่าผิดปกติ?
ปัสสาวะมีกลิ่นแบบไหน เรียกว่าผิดปกติ?

"ปัสสาวะมีกลิ่นกาแฟ ยา บางทีปัสสาวะมีกลิ่นฉุน หรือกลิ่นเหมือนไข่เน่า เหมือนผลไม้หมัก บอกอะไรเราได้บ้าง แบบไหนไม่อันตราย แบบไหนเป็นแล้วควรหาหมอด่วน! "

อ่านเพิ่ม