โรค epididymal hypertension นั้นเป็นภาวะที่เกิดในเพศชาย โรคนี้ไม่ใช่โรคที่รุนแรงแต่สามารถทำให้เกิดอาการปวดที่บริเวณอัณฑะหลังจากที่เพิ่งหลั่งโดยที่ไม่ถึงจุดสุดยอดได้ และมักทำให้อัณฑะนั้นเกิดรอยช้ำหรือเปลี่ยนเป็นสีคล้ำได้ โรคนี้พบได้ไม่บ่อยนัก
อาการที่พบ
อาการที่ส่งผลต่ออัณฑะประกิบด้วย
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
- ปวด
- ไม่สบายตัว
- รู้สึกหนักๆ
- และอาจจะเห็นถุงอัณฑะเปลี่ยนเป็นสีม่วงคล้ำได้
สาเหตุ
เวลาที่อวัยวะเพศชายนั้นถูกกระตุ้น เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงองคชาติและอัณฑะนั้นก็จะขายตัวทำให้เลือดไหลเวียนได้มากขึ้น เมื่อเวลาผ่านไปเลือดเหล่านี้ก็จะทำให้องคชาตินั้นขยายตัวและแข็งทำให้เกิดการแข็งตัว อัณฑะนั้นก็จะมีขนาดใหญ่ขึ้นเช่นกันและทำให้รู้สึกหนักขึ้น
โดยทั่วไปเลือดเหล่านี้จะถูกปล่อยออกหลังจากจุดสุดยอดหรือหลังจากที่ลดการกระตุ้นทางกาย การที่มีเลือดค้างอยู่ในบริเวณดังกล่าวในบางคนที่เกิดการกระตุ้นเป็นเวลานานโดยที่ไม่ได้หลั่ง จะทำให้เกิดอาการปวดและไม่สบายตัวได้ และทำให้ลูกอัณฑะนั้นเปลี่ยนเป็นสีม่วงคล้ำขึ้นจากการที่มีเลือดมากและมีความดันเพิ่มขึ้น
คุณจะมีแนวโน้มเป็นโรคนี้เพิ่มขึ้นหากคุณถูกกระตุ้นได้ง่าย เทคนิคการช่วยตัวเองที่ทำให้ถึงจุดสุดยอดช้าลงนั้นก็จะเพิ่มโอกาสในการเกิดภาวะนี้เช่นกัน
อาการปวดที่อัณฑะ
สาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้เกิดอาการปวดที่อัณฑะ
หากคุณมีอาการปวดที่อัณฑะเฉพาะเวลาที่มีอารมณ์ทางเพศ แสดงว่าน่าจะเกิดจากภาวะนี้ แต่หากคุณมีอาการปวดตลอดเวลาแม้แต่เวลาที่ไม่ได้มีอารมณ์ก็อาจจะเกิดจากโรคนี้เช่น
ผลข้างเคียงจากโรคเบาหวานต่อเส้นประสาทที่บริเวณขาหนีบ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
- อัณฑะอักเสบ
- มีการติดเชื้อซึ่งมักมีการอักเสบตามมา
- นิ่วในไต
- เป็นโรคคางทูม
- อัณฑะอักเสบ
- มะเร็งอัณฑะ
- ใส่กางเกงที่รัดแน่น
นอกจากนั้นยังอาจเป็นอาการของภาวะที่อัณฑะบิดตัวอย่างรวดเร็วและทำให้เกิดอาการปวดและบวมได้ ซึ่งภาวะนี้มักจะต้องได้รับการผ่าตัดฉุกเฉิน
เมื่อไหร่ถึงควรไปพบแพทย์
โดยทั่วไปหากคุณเป็นโรค epididymal hypertension คุณไม่จำเป็นต้องไปพบแพทย์ แต่ถ้าหากมีอาการปวดรุนแรงเป็นประจำ หรือส่งผลต่อการมีเพศสัมพันธ์ควรไปพบแพทย์
หากคุณมีอาการปวดเรื้อรังและรุนแรงที่ไม่เกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์ ควรไปพบแพทย์เช่นกันเพื่อตรวจหาโรคอื่นที่ทำให้เกิดอาการปวดได้
คุณควรไปพบแพทย์หากคุณมีอาการปวดร่วมกับอาการต่อไปนี้
- คลำได้ก้อนที่อัณฑะหรืออัณฑะบวม
- ปวดตื้อๆ บริเวณขาหนีบ
- ปวดที่หลังส่วนล่าง
อาการเหล่านี้อาจจะแสดงว่าเป็นโรคอื่นๆ ที่ร้ายแรงเช่นโรคมะเร็งอัณฑะได้
การรักษา
โรคนี้ไม่ได้มีการรักษาอย่างละเอียดนักและไม่ได้มีการระบุวิธีการรักษาอย่างเป็นทางการ มีรายงานที่กล่าวว่าวิธีการรักษาที่ง่ายและเร็วที่สุดก็คือการหลั่งในระหว่างที่ถึงจุดสุดยอดด้วยการช่วยตัวเองหรือการมีเพศสัมพันธ์ หลังจากเข้าสู่จุดสุดยอดแล้ว อาการปวดนั้นก็จะค่อยๆ หายไปเองอย่างช้าๆ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
อีกวิธีหนึ่งก็คือการไม่ลดอารมณ์ทางเพศ
คุณสามารถทำได้หลายวิธีเช่น
- การอาบน้ำเย็น
- คิดเรื่องอื่นที่ไม่ใช่เรื่องเพศ
- หันเหความสนใจไปที่สิ่งอื่นเช่นดนตรี
- ทำงานหรือทำกิจกรรมอย่างอื่นเพื่อให้ตัวเองยุ่ง
การออกกำลังกายนั้นอาจจะช่วยได้เพราะทำให้เลือดไหลออกจากอัณฑะไปยังกล้ามเนื้อ การประคบเย็นที่บริเวณดังกล่าวนั้นก็อาจจะช่วยได้เช่นกันเพราะจะช่วยให้หลอดเลือดนั้นตีบตัวและลดเลือดที่จะมายังบริเวณดังกล่าว
สรุป
โรค epididymal hypertension นั้นเป็นโรคที่ทำให้เกิดอาการปวดหรือรู้สึกหนักๆ จากการที่ถึงจุดสุดยอดช้า โรคนี้พบได้ไม่บ่อย และไม่ใช่โรคร้ายแรง หากโรคนี้ทำให้คุณมีอาการปวดอย่างรุนแรงหรือส่งผลต่อการมีเพศสัมพันธ์ควรไปพบแพทย์ อาการปวดเรื้อรังที่อัณฑะโดยเฉพาะหากไม่เกี่ยวกับเวลาที่ถูกกระตุ้นทางเพศนั้นอาจจะเป็นอาการของโรคอื่นที่รุนแรงได้หากมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย