สัตว์และแมลงมีหลายชนิดที่อาศัยอยู่ในบ้านที่เป็นตัวนำโรคติดต่อที่พบบ่อย เช่น หนู แมลงวัน แมลงสาบ แมลงหวี่ และยุง บ้านเรือนใดที่รักษาความสะอาด เก็บกวาดขยะและเศษอาหาร และทิ้งให้มิดชิด จะทำให้สัตว์ และแมลงหมดไปหรือมีไม่มากในบ้าน การนำโรคมาสู่คนในบ้านก็จะไม่มี ทำให้สุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจสมบูรณ์ดี
เรื่องหนู
หนูมีหลายชนิด ทำความสกปรก และเชื้อโรคมาสู่อาหาร หรือหมัดของหนูนำเชื้อโรคได้คือ กาฬโรค ที่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง ในปัจจุบันโรคนี้ได้ควบคุมป้องกันได้ผลจึงไม่มีเชื้อของโรค หนูที่พบอยู่ตามบ้านเรือนเรามีอยู่ 4 ชนิดคือ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
- หนูสีน้ำตาล หรือหนูนอรเว ขนหยาบ หลังมีขนสีน้ำตาลปนเทา ท้องสีเทา หางสั้น จมูกทู่ ใบหูเล็ก ตาเล็ก ตัวอ้วน ขนาดโตกว่าหนูชนิดอื่น ขนาดความยาวของหัว และลำตัวประมาณ 15-20 ซม. กินอาหารได้ทุกชนิด ทั้งเนื้อ ผัก แป้ง และเมล็ดพืชต่าง ๆ ชอบอาศัยตามใต้ถุนบ้าน กองขยะ รางระบายน้ำโสโครก บางทีชอบอาศัยตามรู
- หนูท้องขาว หรือหนูหลังคา เป็นหนูขนาดกลาง ขนาดความยาวของหัวและลำตัวประมาณ 14-15 ซม. หางยาวสีดำ และมีเกล็ดละเอียด ขนด้านหลังมีสีน้ำตาล ด้านท้องมีสีขาว ปีนป่ายเก่ง ชอบอาศัยตามช่องลม หน้าต่างบ้าน ตามซอกมุมบ้าน และต้นไม้ กินอาหารทุกชนิด รวมทั้งพืชผักและเมล็ดพืช
- หนูหริ่ง หรือหนูผี เป็นหนูที่ตัวเล็กที่สุด หัวและลำตัวยาวประมาณ 6-10 ซม. ขนอ่อนขนด้านหลังสีเทา ด้านท้องสีขาว หางด้านบนดำ ด้านล่างสีจางกว่า ชอบอาศัยอยู่ตามช่อง หรือโพรงตามฝาผนัง กำแพง ซอกเครื่องเรือน ซอกตู้ และชอบกินอาหารทุกชนิด ชอบมาก คือ เมล็ดพืช
- หนูจิ๊ด เป็นหนูขนาดเล็ก แต่โตกว่าหนูหริ่งเล็กน้อย ขนาดหัวและลำตัวยาวประมาณ 10-13 ซม. ขนอ่อนนุ่ม และขนแข็งแซมเล็กน้อย ขนด้านหลังมีสีน้ำตาล ด้านท้องมีสีเทา หางสีดำ อาศัยอยู่ตามบ้าน ซอกหลังคา เพดาน และกลางคืนจะได้ยินเสียงร้องจิ๊ด ๆ กินอาหารทุกชนิด
การเป็นอยู่ของหนู
หนูมีการเจริญเติบโตเร็ว เมื่อโตประมาณ 3-4 เดือน ก็ผสมพันธุ์ได้ หนูตัวเมียผสมพันธุ์แล้วตั้งท้องราว 20 วัน คลอดออกเป็นตัวไม่มีขน ตาปิด หูไม่ได้ยิน ขาเล็ก ออกลูกปีละ 4-5 ครอก ๆ ละ 6-12 ตัวแล้วแต่ชนิด จำนวนของหนูที่คลอดจะตายไปเกือบครึ่ง ลูกหนูจะกินนมแม่ประมาณ 3 อาทิตย์ ก้ออกหากินเองได้ หนูตัวหนึ่ง ๆ อายุประมาณ 1 ปี การหากินมักเป็นรัศมีไกลถึง 150 ฟุต แต่หนูหริ่งรัศมีออกหากินไม่ไกลนักประมาณ 10-30 ฟุต
การควบคุม และป้องกัน
เนื่องจากหนูเป็นสัตว์แทะ มักจะพบว่าชอบกัดทำลายสิ่งของเครื่องใช้ เช่น ลิ้นชักตู้ ที่นอน ตู้เสื้อผ้า หนูมีที่อยู่อาศัยที่สกปรกจึงเป็นพาหะนำเชื้อโรคร้ายแรงหลายชนิด เช่น โรคอหิวาตกโรค บิด ท้องเสีย นอกจากนี้ยังทำลายเศรษฐกิจ เช่น ผัก พืช เมล็ดพืชที่เก็บในบ้านจะถูกกัด แทะ เสียหายมาก ดังนั้นหนูจึงเป็นสัตว์ที่ต้องขจัด หรือควบคุมไม่ให้เข้ามาอาศัยในบ้านโดยวิธีป้องกันดังนี้
- กันไม่ให้หนูเข้ามาอยู่ในบ้านเรือน บ้านชั้นอยู่บนดินควรใช้วัสดุแข็ง หรือทำคานคอนกรีตรอบกันหนูประเภทหนูนนอรเว ซึ่งขุดรูอยู่ลึก 10-18 นิ้ว จะขุดรูเล็ดลอดเข้ามาได้
- ประตูไม้ และมุมขอบหน้าต่างช่วงล่างควรใช้โลหะ เช่น สังกะสีหนาปิดทางเข้าหรือช่องเปิดควรปิดด้วยลวดตาข่าย เสาบ้านชั้นเก็บอาหารควรใช้สังกะสีแผ่นเรียบหุ้มไว้รอบ เพื่อป้องกันการไต่ขึ้นบ้าน
- ขยะทั้งเปียก และแห้ง เป็นที่อยู่อาศัยอย่างดี ควรเก็บในถังมิดชิด แยกถังขยะเปียก และขยะแห้ง เต็มแล้นำไปเผา หรือฝังเศษอาหารควรเทในถังที่ปิดมิดชิดเช่นกัน มิฉะนั้นจะเป็นอาหารของหนู
- ห้องเก็บอาหารแห้ง, เมล็ดพืช ควรทำกำแพงหนา หรือเรือนบุด้วยโละหะ ที่หนูกันไม่ได้ ทาด้วยสีขาวสว่าง โต๊ะ หรือชั้นวางของควรสูงจากพื้นห้องราว 12 นิ้ว เพื่อตรวจดู และกำจัดรังหนูได้ง่าย
การทำลายหนู มี 2 วิธีใหญ่ ๆ
- ใช้กับดัก มีชนิดกับดัก และกับกรง โดยมีอาหารเป็นเหยื่อล่อ การวางกับดักให้วางที่เป็นทางเดินของหนู หรือวางซ่อนตามกองขยะและอาหาร
- ใช้ยาเบื่อหนู มีทั้งชนิดมีผลฉับพลัน หนูกินจะตายทันที และชนิดมีผลทำลายช้า หนูต้องกินซ้ำกันบ่อย ๆ สะสมในร่างกายทีละน้อยจะตายในระยะหลัง
ข้อควรระวังในการใช้ยาเบื่อหนู ดังนี้
- ยาเบื่อที่ควรเก็บมิดชิด ใส่กุญแจ ห่างจากเด็กที่จะเอื้อมถึง
- ขนาดของเหยื่อไม่ควรโต หากโตมากหนูลากไปกินไม่หมดและเรี่ยราด เด็ก ๆ ไม่รู้จะเก็บใส่ปากจะอันตรายมาก
- ก่อนจะวางยาเบื่อฆ่าหนู ควรเก็บขยะเศษอาหารทิ้ง โดยเผา และฝังให้หมด ตู้กับข้าวปิดมิดชิด การวางต้องวางตามทางเดินของหนู และใกล้กองขยะที่หนูเคยมากินเศษอาหาร
- สัตว์เลี้ยงอื่นควรมัดหรือใส่กรงขังด้วย
ข้อควรปฏิบัติในการใช้กับดักหนู
- กับที่ใช้ดักหนูได้แล้ว ต้องล้างให้สะอาดไม่ให้กลิ่นเดิมติดอยู่ หากได้กลิ่นตาย มักจะไม่เข้ามากินอีก
- กับดักพยายามไม่จับต้อง ให้ได้กลิ่นมือคน หนูได้กลิ่นก็จะไม่มากินเหยื่อ
อีกวิธีหนึ่งโดยเลี้ยงแมวไว้ในบ้านสัก 1-2 ตัว เพื่อคอยไล่จับหนู หนูได้กลิ่น และเห็นแมวก็จะหนี ซึ่งผู้เป็นเจ้าของบ้านต้องเป็นผู้รักสัตว์ รักแมวด้วย