ในทุกครั้งเวลาที่เราจะทานผลไม้อย่างฝรั่ง ที่เตือนเราว่า "อย่าไปกินเม็ดมันนะ มันจะทำให้เป็นไส้ติ่ง" หลายท่านคงต้องเคยได้ยินคำตักเตือนหรือทักท้วงแบบนี้จากผู้หลักผู้ใหญ่ของเราอยู่เสมอ ซึ่งเราก็อาจคิดสงสัยว่า มันจะมาเกี่ยวข้องกันได้อย่างไร ระหว่างไส้ติ่งกับเม็ดฝรั่ง
ในความเป็นจริงแล้ว คำว่า "ไส้ติ่ง" มันเป็นเพียงอวัยวะส่วนหนึ่งในร่างกายของเราทุกคนอยู่แล้ว แต่ที่จะทำให้เกิดอันตรายแก่เราได้ คือ "สภาวะไส้ติ่งอักเสบ" ต่างหาก อันมีสาเหตุเกิดจากของเหลวจำพวกสารคัดหลั่งที่ไม่สามารถไหลผ่านเข้าออกลำไส้ได้อย่างสะดวก ส่งผลให้มีการอุดตันของไส้ติ่งและทำให้ตัวไส้ติ่งเกิดการอักเสบตามมานั่นเอง
รักษาและตรวจกระดูกสันหลัง วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 534 บาท ลดสูงสุด 72%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
อาการไส้ติ่งอักเสบ
ผู้ป่วยที่เป็นไส้ติ่งอักเสบส่วนใหญ่จะมีอาการปวดท้องแบบเฉียบพลันบริเวณด้านขวามือ เบื่ออาหาร มีไข้สูง คลื่นไส้อาเจียน หากเรามีอาการดังกล่าวควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน เพื่อจะได้รับการตรวจและทำการรักษาอย่างทันท่วงที ก่อนที่ไส้ติ่งจะอักเสบมากเสียจนเกิดเป็นฝีหรือเกิดหนองรุนแรง อันเป็นการเข้าสู่สภาวะที่เรียกกันว่า "ไส้ติ่งแตก" โดยการรักษา ณ ตอนนี้มีอยู่ทางเลือกเดียวให้เราได้เลือกเท่านั้น นั่นคือ การผ่าตัดเอาไส้ติ่งออกไป หลังจากทำการผ่าตัดตัวไส้ติ่งออกไปแล้ว ต่อไปเราก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดเป็นไส้ติ่งอักเสบได้อีก นั่นเพราะว่าเราจะไม่มีไส้ติ่งให้อักเสบหรือสร้างความเจ็บปวดแก่เราได้อีกต่อไป
การกินเม็ดฝรั่งแล้วจะเป็นไส้ติ่ง จริงหรือไม่?
หากทำการวิเคราะห์ในคำตักเตือนเกี่ยวกับภาวะไส้ติ่งอักเสบดูแล้ว จะพบว่าหากเรากินเม็ดฝรั่งเข้าไป ก็อาจเป็นเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดเป็นไส้ติ่งอักเสบ เนื่องมาจากลักษณะทางกายภาพของเม็ดฝรั่งเองที่มีขนาดเล็กและมีความแข็ง อาจหลุดเข้าไปอุดตันตรงไส้ติ่งได้ เปรียบเสมือนท่อน้ำประปา ที่มีเศษกรวดเศษหินขวางทางอยู่ ทำให้น้ำประปาย่อมไหลไม่สะดวก
ทุกท่านคงได้คำตอบที่ชัดเจนกันแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เราไม่เพียงต้องระมัดระวังเพียงแค่เม็ดฝรั่งเท่านั้น อาหารการกินหรือผลไม้ชนิดอื่นๆที่มีเม็ดขนาดเล็กก็ต้องระวังเอาไว้เช่นเดียวกัน แต่หนทางป้องกันที่ดีที่สุด คือ การเคี้ยวอาหารให้ละเอียดและควรกินอาหารที่มีกากใยสูงเพื่อที่ลำไส้จะได้สะอาด ไม่เกิดการหมักหมมของเสียภายใน ไม่เพียงส่งผลดีต่อตัวไส้ติ่งเท่านั้นแต่จะส่งผลดีต่อทั่วทั้งอวัยวะภายในร่างกายของเรา เมื่อตัวอวัยวะภายในร่างกายสามารถทำหน้าที่ของมันได้อย่างดีแล้ว ตัวอวัยวะภายนอกของเราก็จะดีตามไปด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่า "เมื่อภายในดี ภายนอกก็ย่อมดีตามเป็นธรรมดา"