ในปัจจุบันมีทางเลือกมากมายในการคุมกำเนิด ไม่ว่าจะเป็นการใส่ห่วงคุมกำเนิด การฝังยาคุมบริเวณใต้ท้องแขน การฉีดยาคุมกำเนิด การรับประทานยาคุมกำเนิด และการใช้แผ่นแปะคุมกำเนิด โดยบทความนี้จะพูดถึงแผ่นแปะคุมกำเนิด หนึ่งในวิธีคุมกำเนิดที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
แผ่นแปะคุมกำเนิดคืออะไร
แผ่นแปะคุมกำเนิด (Birth Control Patch หรือ Contraceptive patch) มีลักษณะเป็นแผ่นยาบางๆ รูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส คล้ายกับพลาสเตอร์ปิดแผลแบบพลาสติกกันน้ำ ส่วนมากจะมีสีเนื้อเพื่อให้ใกล้เคียงกับสีผิวของผู้ใช้งาน ภายในแผ่นยาประกอบไปด้วยฮอร์โมน 2 ชนิดคือ ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone)
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ฮอร์โมนทั้งสองชนิดนี้มีความสำคัญต่อการป้องกันการตั้งครรภ์เป็นอย่างมาก และพบได้ในส่วนประกอบของยาคุมกำเนิดทั้งแบบรับประทานและแบบฉีด
แผ่นแปะคุมกำเนิดทำงานอย่างไร
- เมื่อแปะแผ่นแปะคุมกำเนิดไว้บนร่างกายภายในระยะเวลา 48 ชั่วโมงขึ้นไป ตัวยา หรือฮอร์โมนที่อยู่บนแผ่นจะค่อยๆ ซึมเข้าสู่กระแสเลือดโดยตรงอย่างสม่ำเสมอ
- แผ่นแปะคุมกำเนิดสามารถแปะได้ทุกส่วนของร่างกาย แต่นิยมแปะบริเวณสะโพก หน้าท้อง แผ่นหลัง และต้นแขนด้านบน เพื่อไม่ให้ผู้อื่นสังเกตเห็น
- ไม่ต้องกังวลว่าตัวยาที่ซึมเข้าสู่กระแสเลือดจะส่งผลกระทบต่ออวัยวะอื่น เพราะฮอร์โมนทั้งสองชนิดนี้จะเข้าไปทำงานกับมดลูกโดยตรง ทำให้เกิดการหลั่งเมือกหรือมูกที่บริเวณปากมดลูก มีลักษณะข้นเหนียวจนอสุจิไม่สามารถผ่านเข้ามาผสมพันธุ์กับไข่ได้
- ฮอร์โมนทั้งสองชนิดนี้ยังมีผลในการยับยั้งการตกไข่ และทำให้เยื่อบุมดลูกบางกว่าเดิม ตัวอ่อนจึงไม่สามารถฝังตัวได้ แม้อสุจิจะสามารถเล็ดลอดเข้ามาได้แล้วก็ตาม
ประสิทธิภาพของแผ่นแปะคุมกำเนิด
กรณีที่ใช้แผ่นแปะคุมกำเนิดอย่างถูกต้อง คือไม่ตัดให้มีขนาดเล็กลง เปลี่ยนแผ่นยาเมื่อครบ 7 วัน แปะไว้อย่างน้อย 48 ชั่วโมงก่อนการร่วมเพศ ก็จะมีอัตราการล้มเหลวในการป้องกันการตั้งครรภ์เพียง 0.3% เท่านั้น
แต่จากการทดลองใช้งานจริง กลับพบว่าอัตราการล้มเหลวในการป้องกันการตั้งครรภ์กลับเพิ่มขึ้นสูงถึง 9% หรือ 1 ใน 11 คน เทียบเท่าหรือดีกว่าการใช้ยาคุมกำเนิดแบบรับประทานเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ระดับความเสี่ยงแบบปานกลาง ดังนั้นควรใช้ถุงยางอนามัยควบคู่ไปด้วย
วิธีการใช้งานแผ่นแปะคุมกำเนิด
แผ่นแปะคุมกำเนิดใน 1 ชุดหรือ 1 กล่องภายในจะมีแผ่นแปะคุมกำเนิดอยู่ 3 แผ่น เพื่อให้ใช้สัปดาห์ละ 1 แผ่น แม้ว่าจะมีราคาที่สูงกว่ายาคุมแบบรับประทาน แต่เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพและการป้องกันการหลงลืมรับประทานยาก็ถือว่าใช้งานง่ายกว่า โดยวิธีการใช้งานแผ่นแปะคุมกำเนิดที่ถูกต้อง มีดังต่อไปนี้
- เมื่อประจำเดือนมาวันแรกก็สามารถแปะแผ่นคุมกำเนิดแผ่นแรกได้ทันที
- แผ่นแปะคุมกำเนิด มีอายุการใช้งานแผ่นละ 7 วันเท่านั้น วันที่ 8 จะต้องเปลี่ยนแผ่นใหม่
- ควรทำความสะอาดบริเวณที่ต้องการจะแปะแผ่นยาก่อนทุกครั้ง และต้องรอให้ผิวหนังแห้งสนิทก่อนเสมอ
- ต้องระมัดระวังในการดึงแผ่นยา ไม่ควรเอามือไปสัมผัสกับบริเวณที่เป็นกาว แต่ให้สัมผัสบริเวณที่มีพลาสติกแทน และควรใช้มือกดแผ่นยาให้แนบสนิทกับผิวหนังอย่างน้อย 10 วินาที
สาเหตุที่แผ่นแปะคุมกำเนิด 1 ชุดมีเพียง 3 แผ่น ก็เพื่อให้มีช่วงเวลาหยุดยา 1 สัปดาห์คล้ายกับยาคุมกำเนิดแบบรับประทานชนิด 21 เม็ด
ข้อควรระวังในการใช้แผ่นแปะคุมกำเนิด
- ไม่ควรตัดแบ่งยาคุมกำเนิดออกเป็นแผ่นเล็กๆ เพราะจะทำให้ตัวยาประสิทธิภาพลดลง และอาจทำให้ความเสี่ยงในการตั้งครรภ์เพิ่มมากยิ่งขึ้น
- ไม่ควรใช้แผ่นแปะคุมกำเนิดเป็นระยะเวลานานๆ เพราะอาจทำให้ฮอร์โมนทำงานผิดปกติได้
ผู้ที่เหมาะกับการใช้แผ่นแปะคุมกำเนิด
- ผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ที่ยังไม่พร้อม หรือไม่ต้องการมีบุตร (ช่วงอายุตั้งแต่ 18-50 ปีขึ้นไป)
- ผู้ที่ต้องการคุมกำเนิดระยะสั้นๆ
- ผู้ที่ลืมการรับประทานยาคุมกำเนิดเป็นประจำ
ผู้ที่ไม่ควรใช้แผ่นแปะคุมกำเนิด
- ผู้ที่เป็นโรคอ้วน เนื่องจากแผ่นแปะคุมกำเนิดมีกลไกการทำงานที่เกี่ยวกับฮอร์โมนโดยตรง ซึ่งอาจส่งผลให้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น และยาจะออกฤทธิ์ไม่มีประสิทธิภาพดีเท่าที่ควร
- ผู้หญิงที่ชอบสูบบุหรี่ เพราะอาจทำให้เกิดโรคหลอดเลือดอุดตันในหัวใจและสมองได้
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคหัวใจ โรคเกี่ยวกับหลอดเลือด โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง เนื่องจากการใช้แผ่นแปะคุมกำเนิด เป็นสิ่งกระตุ้นให้ลักษณะของโรคมีอาการรุนแรงมากกว่าเดิม
- ผู้ที่เป็นโรคมะเร็งเต้านมและมะเร็งเกี่ยวกับมดลูก
ผลข้างเคียงของการใช้แผ่นแปะคุมกำเนิด
แผ่นแปะคุมกำเนิดจัดอยู่ในยาประเภทเดียวกับยาคุมกำเนิดแบบรับประทาน ทำให้มีผลข้างเคียงไม่ต่างกันมากนัก แต่อาจจะมีอาการน้อยกว่า โดยมีอาการดังนี้
- อาการคลื่นไส้ ปวดศีรษะ อาเจียน เจ็บหน้าอก สิวขึ้น มีความอยากอาหารเพิ่มขึ้น และอารมณ์แปรปรวน ซึ่งเป็นผลของฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไป
- ในบางรายอาจพบว่ามีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น หรือรู้สึกตัวบวมมากกว่าเดิม
- อาจพบอาการเป็นผื่นคันบริเวณที่มีการแปะยา แต่จะหายไปได้เอง ซึ่งสามารถใช้คาลาไมน์ (Calamine) หรือยาแก้ผดผื่นทารักษาอาการคันได้ตามปกติ
- บางรายอาจมีความต้องการทางเพศลดลงเล็กน้อย
แผ่นแปะคุมกำเนิดสามารถซื้อได้ที่ไหน
สำหรับแผ่นแปะคุมกำเนิด สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปที่มีเภสัชกรประจำอยู่ มีให้เลือกหลายยี่ห้อ หลายราคา ซึ่งจะมีการใส่ตัวยามากน้อยแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นจึงควรสอบถามรายละเอียดต่างๆ จากเภสัชกรทุกครั้งเพื่อให้เกิดความมั่นใจมากยิ่งขึ้นก่อนการนำมาใช้งาน
แผ่นแปะคุมกำเนิดนั้นเป็นวิธีคุมกำเนิดแบบง่ายๆ และมีผลข้างเคียงค่อนข้างต่ำ จึงถือเป็นหนึ่งในวิธีคุมกำเนิดที่ดีสำหรับผู้หญิงที่ยังไม่พร้อมตั้งครรภ์ และยังหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายยาทั่วไปอีกด้วย แต่สำหรับใครที่ยังไม่เคยใช้มาก่อน ก็ควรอ่านคู่มือการใช้งาน หรือสอบถามแพทย์และเภสัชให้แน่ชัด เพื่อจะได้ใช้แผ่นแปะคุมกำเนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด