เมื่ออายุเพิ่มขึ้น หนึ่งในปัญหาผิวที่หลายคนต้องพบเจอคือ ริ้วรอยบนใบหน้าและผิวหน้าหย่อนคล้อย ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ได้ด้วยการฉีดสารคลายกล้ามเนื้อโบทูลินัมท็อกซินเอ (Botulinum toxin a) หรือที่คนนิยมเรียกกันว่า ฉีดโบท็อกซ์
สารโบทูลินัมท็อกซินเอยี่ห้อที่นิยมใช้กันในประเทศไทย ได้แก่
ฉีด Botulinum Toxin วันนี้ ที่คลินิกใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 120 บาท ลดสูงสุด 78%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
- โบท็อกซ์ (Botox) จากอเมริกา
- โบทูแลกซ์ (Botulax) จากเกาหลี
- นิวโรน็อกซ์ (Neuronox) จากเกาหลี
- ดิสพอร์ต (Dysport) จากอังกฤษ
โบท็อกซ์ Dysport โบท็อกซ์อังกฤษ คืออะไร?
Dysport เป็นชื่อทางการค้าของโบทูลินัมท็อกซินเอ ผลิตโดยบริษัท Ipsen จากอังกฤษ นิยมนำมาใช้รักษาริ้วรอยบนใบหน้าและปรับรูปหน้า มีประสิทธิภาพไม่แพ้โบทูลินัมท็อกซินเอยี่ห้ออื่นๆ
Dysport มีหน่วยในการฉีดแตกต่างไปจากสารโบทูลินัมท็อกซินเอยี่ห้ออื่นๆ คือ Speywood units (s.U) โดย Dysport 2.5 ยูนิต จะเทียบเท่ากับ 1 ยูนิตของโบท็อกซ์อเมริกา หรือที่เรียกว่า โบท็อกซ์ Allergan และเป็นยี่ห้อเดียวที่มีขนาด 500 ยูนิต
ดังนั้น ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมแต่ละคลินิกที่ไปใช้บริการฉีดโบท็อกซ์ถึงใช้ขนาดยูนิตที่แตกต่างกันมาก ทั้งๆ ที่รักษาบริเวณเดียวกัน แนะนำให้สอบถามกับทางคลินิกก่อนว่าใช้โบทูลินัมท็อกซินเอยี่ห้ออะไร
โบท็อกซ์ Dysport มีข้อดีแตกต่างจากโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่นๆ อย่างไร?
โบท็อกซ์ Dysport มีจุดเด่นคือ ตัวยามีโมเลกุลเล็กกว่าโบท็อกซ์อเมริกาและโบท็อกซ์เกาหลี ทำให้กระจายตัวได้ดีกว่า จึงนิยมนำมาใช้รักษาบริเวณกว้าง เช่น ฉีดลดเหงื่อ ลดต้นแขน ลดน่องปูด
ในด้านความงาม แพทย์ผิวหนังนิยมปรับรูปหน้าให้ผู้มารับบริการด้วยการฉีด Dysport บริเวณกรอบหน้า เรียกว่าเทคนิคเดอร์โมลิฟต์ (DermolLift technique) ซึ่งเป็นการดึงหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดชนิดหนึ่ง หรือที่ทางการแพทย์เรียกว่า Non-surgical face lift
การทำ DermoLift ด้วย Dysport นั้นจะช่วยยกกระชับผิวได้อย่างดูเป็นธรรมชาติ ทำให้หน้าไม่แข็งตึง สามารถยิ้มได้ตามปกติ
ฉีด Botulinum Toxin วันนี้ ที่คลินิกใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 120 บาท ลดสูงสุด 78%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
การดูแลตัวเองก่อนฉีดโบท็อกซ์ Dysport
ก่อนที่จะไปเข้ารับการฉีดโบท็อกซ์ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานยาหรือวิตามินที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาแอสไพริน (Aspirin) น้ำมันตับปลา หรือวิตามินอี อย่างน้อย 1 สัปดาห์ จะช่วยลดการเกิดรอยช้ำจากการฉีดโบท็อกซ์ได้
ผู้ใช้บริการจะต้องแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับโรคประจำตัว อาการแพ้ หรือยาที่กำลังรับประทาน เนื่องจากอาจทำให้เกิดอันตรกิริยาระหว่างยา หรือที่เรียกว่ายาตีกันได้
อีกทั้งจะต้องแจ้งให้แพทย์ทราบด้วยหากเคยเข้ารับการฉีดโบท็อกซ์อื่นๆ ในช่วง 3-4 เดือนก่อนเข้ารับบริการ
อาการดื้อโบท็อกซ์
สิ่งที่ผู้ฉีดโบท็อกซ์ไม่ว่าจะยี่ห้อใดๆ ควรทราบคือ การฉีดโบท็อกซ์บ่อยจนเกินไปจะเพิ่มโอกาสในการเกิดอาการดื้อโบท็อกซ์ ซึ่งอาจทำให้กล้ามเนื้อฝ่อและไม่ทำงานได้
แนะนำให้เว้นระยะห่างในการฉีดโบท็อกซ์ อย่างน้อย 3 เดือนขึ้นไป
วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์ Dysport
วิธีดูแลตัวเองเพื่อให้ผลลัพธ์ของโบท็อกซ์อยู่ได้นานขึ้น หลังจากหลังฉีดโบท็อกซ์ Dysport ไม่ต่างจากการดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่นๆ ดังนี้
ฉีด Botulinum Toxin วันนี้ ที่คลินิกใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 120 บาท ลดสูงสุด 78%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
- หลังจากฉีดโบท็อกซ์ ควรขยับบริเวณที่ฉีดเบาๆ 5-10 ครั้ง เพื่อให้ตัวยาทำงานได้ดีขึ้น
- ไม่ควรนอนราบภายใน 3-4 ชั่วโมงหลังการฉีดโบท็อกซ์ เพราะอาจทำให้ตัวยาเคลื่อนไปผิดจุดได้
- ห้ามนวดบริเวณที่ทำการรักษา เพราะจะทำให้ตัวยาเคลื่อนไปยังกล้ามเนื้อส่วนอื่นได้
- ภายใน 1-2 สัปดาห์หลังการฉีดโบท็อกซ์ ไม่ควรสัมผัสกับความร้อน เช่น อบซาวน่า ทำทรีตเมนต์ หรือเลเซอร์ เพราะจะทำให้โบท็อกซ์เสื่อมสภาพเร็วขึ้น
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังการฉีดโบท็อกซ์ เพราะจะทำให้ผลลัพธ์จากการฉีดโบท็อกซ์เสื่อมสภาพได้เร็วขึ้น
ผลลัพธ์จากการฉีดโบท็อกซ์ Dysport
ผลลัพธ์จากการฉีดโบท็อกซ์ Dysport มีดังนี้
- ผลสำรวจจากเว็บไซต์บริษัทผู้ผลิตพบว่า 98% ของผู้ใช้บริการโบท็อกซ์ Dysport ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ และ 97% ของผู้ใช้บริการเลือกที่จะกลับมาฉีด Dysport อีกครั้งหลังจากที่ Dysport หมดอายุ
- หลังจากการฉีดโบท็อกซ์ Dysport จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของใบหน้าภายใน 10-20 นาทีหลังการฉีด และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนภายใน 2-3 วัน
- ผลลัพธ์จากการฉีดโบท็อกซ์ Dysport สามารถอยู่ได้นานสูงสุดถึง 5 เดือน
ผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปจากการฉีดโบท็อกซ์ Dysport
ผลข้างเคียงที่พบได้จากการฉีดโบท็อกซ์ Dysport คล้ายกับการฉีดโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่นๆ คือ ปวดบริเวณที่ฉีด บวมแดง รอยช้ำ เกิดการอักเสบ ปวดศีรษะ หรือคลื่นไส้อาเจียน ซึ่งเป็นอาการที่ไม่เป็นอันตรายและสามารถหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม หากอาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการผื่นลมพิษ หายใจไม่สะดวก บวมที่เปลือกตา ปาก และลำคอ นั่นเป็นสัญญาณของอาการแพ้รุนแรงที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
ฉีดโบท็อกซ์ Dysports ราคาเท่าไร?
การฉีดโบท็อกซ์ Dysport มีราคาเริ่มต้นที่ 3,000-30,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดยาที่ใช้ และปัญหาผิวหน้าของแต่ละคน
หากคุณต้องการเข้ารับการฉีดโบท็อกซ์ Dysports แนะนำให้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับทางคลินิก หรือเข้าปรึกษากับแพทย์ผิวหนังโดยตรงเพื่อตรวจเช็กสภาพผิว รวมไปถึงจำนวนยูนิตที่เหมาะสม
การฉีดโบทูลินัมท็อกซินเอที่เป็นของปลอมอาจทำให้เกิดอาการดื้อโบท็อกซ์ไปจนถึงอาการแพ้รุนแรงที่เป็นอันตรายถึงชีวิต
เพื่อความปลอดภัย จึงควรฉีดโบทูลินัมท็อกซินเอที่เป็นของแท้เท่านั้น โดยสามารถเปรียบเทียบราคาการฉีดโบท็อกซ์ยี่ห้อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Dysport, Allergan, Botulax หรือ Neuronox จากคลินิกที่ได้รับมาตรฐานและปลอดภัยได้ที่ HDmall
ดูแพ็กเกจฉีดโบท็อกซ์ เปรียบเทียบราคา โปรโมชันล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจต่างๆ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android