เลือดออกง่าย (Bleeding Disorders)

ภาวะเลือดออกง่ายคืออะไร อาการ สาเหตุ ภาวะแทรกซ้อน วิธีการรักษา
เผยแพร่ครั้งแรก 7 เม.ย. 2019 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 4 นาที
เลือดออกง่าย (Bleeding Disorders)

ภาวะเลือดออกง่าย เกิดจากการความผิดปกติในกระบวนการแข็งตัวของเลือด (Coagulation) เมื่อคุณได้รับบาดเจ็บ มีเลือดออก ร่างกายจะเริ่มกระบวนการแข็งตัวของเลือด เพื่อป้องกันไม่ให้คุณเสียเลือดมากเกินไป แต่ในบางกรณี สภาวะหรือโรคบางอย่างอาจไปขัดขวางกระบวนการแข็งตัวของเลือด จึงทำให้เลือดออกมากกว่าปกติ และเลือดหยุดไหลยาก

ภาวะเลือดออกง่ายสามารถเกิดได้ทั้งภายในและภายนอกร่างกาย ความผิดปกติบางชนิดอาจทำให้เกิดเลือดออกใต้ผิวหนัง หรือเลือดออกภายในอวัยวะที่มีความสำคัญ เช่น เลือดออกในสมอง เป็นต้น

อาการของภาวะเลือดออกง่าย

อาการของภาวะเลือดออกง่ายจะแตกต่างกันขึ้นกับสาเหตุของการเกิดโรค โดยอาการหลักที่สามารถพบได้ มีดังต่อไปนี้

  • เลือดออกผิดปกติ เลือดออกง่าย
  • ประจำเดือนมามากผิดปกติ
  • เลือดกำเดาไหลบ่อยครั้ง
  • มีเลือดจำนวนมากไหลออกมากจากแผลขนาดเล็ก หรือจากการบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย
  • มีเลือดออกในข้อ

สาเหตุของภาวะเลือดออกง่าย

ในกระบวนการแข็งตัวของเลือด ร่างกายจำเป็นต้องใช้โปรตีนภายในเลือดที่เรียกว่า โปรตีนหรือปัจจัยช่วยในการแข็งตัวของเลือด (Clotting Factors) และเซลล์เกล็ดเลือด (Platelets)

ตามปกติแล้วเกล็ดเลือดจะมาเกาะกลุ่มกันเป็นก้อนบริเวณเส้นเลือดที่ได้รับความเสียหาย หรือได้รับบาดเจ็บเพื่อห้ามเลือดในขั้นแรก จากนั้นโปรตีนช่วยในการแข็งตัวของเลือดจะเข้ามาทำงานพร้อมๆ กัน และก่อตัวเป็นเส้นใยไฟบริน (Fibrin) ซึ่งจะเสริมความแข็งแรงของก้อนเกล็ดเลือดที่จับกันอยู่ จึงช่วยป้องกันให้เลือดหยุดไหลได้

หากโปรตีนช่วยในการแข็งตัวของเลือดและเกล็ดเลือดไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ หรือมีปริมาณไม่เพียงพอจนทำให้เลือดไม่แข็งตัว จะส่งผลให้เลือดออกมากกว่าปกติ ทำให้เกิดภาวะเลือดออกที่เกิดขึ้นเอง (Spontaneous) หรือเลือดออกเฉียบพลัน (Sudden) ในกล้ามเนื้อ ข้อต่อ หรือในส่วนอื่นๆ ของร่างกาย

สาเหตุหลักของภาวะเลือดออกง่ายมาจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม ซึ่งถ่ายทอดจากพ่อแม่มายังลูก แต่ก็สามารถพบจากสาเหตุอื่นๆ ได้อีก เช่น

ชนิดของภาวะเลือดออกง่าย

ภาวะเลือดออกง่าย สามารถแบ่งได้หลายชนิด แต่ชนิดที่พบได้บ่อย ได้แก่

  • ฮีโมฟีเลียเอ และ บี (Hemophilia A and B) ผู้ป่วยจะมีโปรตีนช่วยในการแข็งตัวของเลือดน้อยกว่าปกติ เป็นสาเหตุที่ทำให้เลือดออกในปริมาณมากหรือเลือดออกผิดปกติในข้อ โรคนี้สามารถทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตได้
  • การขาดโปรตีนช่วยในการแข็งตัวของเลือด ได้แก่ Factor 2, 5, 7, 10 หรือ 12 (Factor II, V, VII, X or XII deficiencies) ซึ่งเป็นภาวะเลือดออกง่ายชนิดหนึ่ง ทำให้ผู้ป่วยมีปัญหาในการแข็งตัวของเลือด และมีเลือดออกผิดปกติ
  • โรควอนวิลลิแบรนด์ (Von Willebrand's disease) เป็นภาวะเลือดออกง่ายชนิดที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมที่พบได้บ่อยที่สุด เกิดจากร่างกายขาดโปรตีน (แฟคเตอร์) วอนวิลลิแบรนด์ ซึ่งเป็นปัจจัยช่วยในการแข็งตัวของเลือดชนิดหนึ่ง

การวินิจฉัยภาวะเลือดออกง่าย

ในการวินิจฉัยภาวะเลือดออกง่าย แพทย์จะซักประวัติอาการ ประวัติทางการแพทย์ของคุณ และทำการตรวจร่างกายให้ โดยแพทย์อาจจะถามคำถามเหล่านี้ เพื่อช่วยให้การวินิจฉัยเป็นไปโดยง่ายขึ้น

  • โรคหรือสภาวะความเจ็บป่วยที่คุณกำลังเป็นอยู่ในขณะนี้
  • ยา อาหารเสริม สมุนไพร ที่กำลังใช้อยู่ในขณะนี้
  • ประวัติการหกล้ม หรือได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ
  • คุณมีอาการเลือดออกบ่อยครั้งเพียงใด
  • เลือดออกแต่ละครั้งกินเวลานานเท่าใด
  • คุณกำลังทำอะไรอยู่ก่อนที่จะเกิดอาการเลือดออก

แพทย์อาจให้คุณเจาะเลือดตรวจเพิ่มเติม เพื่อให้ได้ข้อมูลเพียงพอสำหรับการวินิจฉัยอย่างถูกต้อง ดังนี้

  • การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (Complete Blood Count (CBC)) : เป็นการวัดปริมาณเซลล์เม็ดเลือดแดงและเซลล์เม็ดเลือดขาวภายในร่างกาย
  • การทดสอบการเกาะกลุ่มกันของเกล็ดเลือด (Platelet Aggregation Test) : เป็นการตรวจดูว่าเกล็ดเลือดสามารถเกาะกลุ่มกันได้เป็นปกติหรือไม่
  • การวัดระยะเวลาตั้งแต่เลือดไหลจนหยุดไหล (Bleeding Time Test) : เป็นการวัดความเร็วในการแข็งตัวของเลือดเพื่อหยุดการไหลของเลือด

การรักษาภาวะเลือดออกง่าย

การรักษาภาวะเลือดออกง่าย ขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของโรค แม้จะไม่สามารถรักษาภาวะนี้ให้หายขาดได้ แต่ก็ช่วยบรรเทาอาการที่เกิดจากโรคได้ ด้วยวิธีการดังนี้

  • การให้ธาตุเหล็กเสริม : แพทย์อาจสั่งธาตุเหล็กเสริมเพื่อชดเชยปริมาณธาตุเหล็กในร่างกายที่สูญเสียไปในกรณีที่มีเลือดออกมาก เพื่อป้องกันการเกิดภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก (Iron Deficiency Anemia) ซึ่งจะทำให้คุณมีอาการอ่อนเพลีย อ่อนแรง และเวียนศีรษะ
  • การให้เลือดทดแทน (Blood Transfusion) : เป็นการรับเลือดจากผู้บริจาคเพื่อทดแทนเลือดที่สูญเสียไปจากร่างกาย ซึ่งต้องเป็นเลือดกรุ๊ปที่เข้ากันได้กับผู้รับเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อน
  • การรักษาอื่นๆ : ภาวะเลือดออกบางภาวะ อาจรักษาด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ทาบนผิวหนังหรือสเปรย์พ่นทางจมูก ส่วนภาวะเลือดออกชนิดฮีโมฟีเลียจะรักษาด้วยการให้โปรตีนช่วยในการแข็งตัวของเลือดทดแทน ซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดเลือดออกและควบคุมไม่ให้เกิดเลือดออกอย่างรุนแรงได้

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดจากภาวะเลือดออก

ภาวะแทรกซ้อนจากภาวะเลือดออกส่วนใหญ่สามารถป้องกันได้ หรือสามารถควบคุมได้ด้วยการรักษา โดยภาวะแทรกซ้อนจากภาวะเลือดออกง่ายที่พบได้บ่อย ได้แก่

  • เลือดออกในลำไส้
  • เลือดออกในสมอง
  • เลือดออกในข้อ
  • ปวดข้อ

ผู้หญิงที่มีภาวะเลือดออกง่าย มักจะพบการมีประจำเดือนมากผิดปกติ ที่อาจทำให้เกิดโรคโลหิตจาง จึงทำให้มีอาการอ่อนเพลีย หายใจหอบเหนื่อย หายใจถี่ และเวียนศีรษะ ส่วนผู้หญิงที่เป็นโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) อาจมีภาวะเลือดออกมากโดยไม่ทันได้สังเกต เพราะเลือดที่ออกนั้นถูกซ่อนอยู่ภายในช่องท้องหรือบริเวณอุ้งเชิงกราน

ดังนั้น หากพบอาการใดๆ ของภาวะเลือดออกง่าย ให้รีบไปพบแพทย์ทัน เพื่อรีบทำการรักษาและป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต

ที่มาของข้อมูล

April Kahn, Bleeding Disorders (https://www.healthline.com/health/bleeding-disorders), February 26, 2018.


10 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
What is a Bleeding Disorder? | National Hemophilia Foundation. National Hemophilia Foundation. (https://www.hemophilia.org/Bleeding-Disorders/What-is-a-Bleeding-Disorder)
Bleeding Disorder. MedlinePlus. (https://medlineplus.gov/bleedingdisorders.html)
Signs and Symptoms of Bleeding Disorders in Women. Centers for Disease Control and Prevention (CDC). (https://www.cdc.gov/ncbddd/blooddisorders/women/symptoms.html)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)