อายุ 21 ปี อยากจะดูแลผิวพรรณตัวเอง เป็นคนผิวคล้ำ อยากให้กระจ่างใสขึ้น มีสุขภาพที่ดีต้องเริ่มจากสิ่งไหน โดยส่วนตัวไม่กล้าซื้อวิตามินตามท้องตลอดต่างๆมากิน ไท่ว่าจะเป็นอาหารเสริมผิวขาวอะไรก็เเล้วแต่ ไม่กล้าซื้อเลยครับ เพราะกลัว และเพื่อต้องการให้ผิวพรรณมีความอ่อนเยาว์ในระยะยาว ต้องเริ่มจากสิ่งไหนครับ โดยส่วนตัวเเล้วอยากมีคุณหมอประจำตัวในเรื่องของเวชศาสตร์ชะลอวัยมาก แต่กลัวเหลือเกินว่าจะต้องมีค่าใช้จ่ายเวลาเข้าพบคุณหมอ อยากจะได้เบอร์โทรศัพท์เพื่อติดต่อมากเลยครับ

ผิวหนังที่สวยใสตามธรรมชาติของแต่ละคนไม่เหมือนกันค่ะ แต่ละคนมีความสวยในแบบของตัวเองอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องขาวก็ได้ อาจมีกระบ้างเล็กๆน้อยๆ ก็สามารถสวยเป็นเอกลักษณ์ได้ค่ะ วิธีการที่หมอจะแนะนำ เป็นการรักษาใบหน้าของเรา ให้คงสวยตามแบบของเรานะคะ
1.รักษาความสะอาดค่ะ ล้างหน้าอย่างน้อยวันละสองครั้ง รวมถึงสิ่งที่ต้องสำผัสใบหน้าของเรา เช่น ผ้าเช็ดตัว เสื้อผ้า หมอน ผ้าห่ม ถ้าสะอาดจะลดการเกิดสิวคะ
2.การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์และเครื่องสำอางสำหรับผิวหน้า ถ้าเป็นคนผิวแพ้ง่าย ควรเลือกสำหรับผิวแพ้ง่ายค่ะ และผลิตภัณฑ์ที่ใช้ ควรมีมาตรฐาน ตรวจสอบได้ แบะเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพผิวของเราค่ะ นอกจากเครื่องสำอางที่ต้องเลือกแล้ว แปรง พัฟต่างๆที่ใช้ควรทำความสะอาดบ่อยๆ ป้องกันการสะสมของเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวค่ะ
3.ทาครีมกันแดด อันนี้สำคัญมากๆนะคะ เพราะนอกจากรังสียูวี จะทำให้เกิด ฝ้าและกระแล้ว ยังทำให้หน้าเหี่ยวเร็วอีกด้วยค่ะ
4.ทาครีมเป็นประจำ เพื่อไม่ให้ใบหน้าแห้งขาดความชุ่มชื้นค่ะ
5.หากมีสิว ไม่ควรแกะเกา จะทำให้เป็นแผลและหลุมและรอยดำค่ะ
6. ออกกำลังกายเป็นประจำค่ะ
7.ทำจิตใจให้แจ่มใสเสมอค่ะ หน้าจะได้ไม่เหี่ยว
8.ทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผักผลไม้ตามธรรมชาติ ถ้าเราทานเพียงพอ ไม่จำเป็นต้องทานอาหารเสริมหน้าใสใดๆ เพราะในผักผลไม้ก็มีมากอยู่แล้ว แถมไม่ต้องเสี่ยงกับผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ด้วยค่ะ
9.นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
10.ดื่มน้ำมากๆค่ะ ผิวของเราจะอวบอิ่มไม่ขาดน้ำค่ะ
ถ้าทำได้ครบ หมอเชื่อว่าทั้งสุขภาพของเรา ใบหน้าของเรา จะต้องดีขึ้นแน่ๆนะคะ

ถ้าเราทานอาหารครบส่วน ทานผักผลไม้ในปริมาณที่เหมาะสมทุกๆวันส่วนใหญ่ร่างกายของเราก็จะไม่ขาดวิตามิน ถ้าไม่ได้มีโรคประจำตัวอะไรเกี่ยวกับการเผาผลาญอาหาร การย่อยอาหาร การผ่าตัดลำไส้หนักๆ เช่นตัดลำไส้ออกเยอะๆ หรือ สตรีมีครรภ์ คนที่เสียเลือดมากๆ ผู้ป่วยเรื้อรัง โดยเฉพาะโรคตับ โรคไต เด็กที่เลี้ยงไม่ค่อยโต ผู้ป่วยเหล่านี้อาจจะต้องการวิตามินเสริมค่ะ ส่วนคนปกติมักไม่ขาดวิตามินแร่ธาตุค่ะ ถ้าเราซื้อมาทานเสริม ถ้าบังเอิญขาดก็ได้เสริมค่ะ แต่ถ้าไม่ขาด วิตามินที่ละลายในน้ำ เช่น วิตามินซี วิตามินบี ก็จะถูกขับทิ้งทางปัสสาวะ ส่วนถ้าโชคร้าย เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน ได้แก่ วิตามิน ADEK จะสะสมในร่างกายและเป็นพิษได้ค่ะ วิตามินเหล่านี้ ร่ายกายเราสังเคราะหฺได้บางส่วนอยู่แล้ว เช่น วิตามิน D. เราควรโดนแดดอ่อนๆในตอนเช้า เพื่อให้ผิวหนังของเราสังเคราะหฺวิตามินดี เป็นประโยชน์ค่อกระดูกและฟัน, แบคทีเรียในลำไส้ สังเคราะหฺวิตามิน K เป็นต้นค่ะ

อยากทราบว่าขาดต้องมีอาการจำเพาะต่อการขาดนั้นๆค่ะ เช่น ขาดวิตามินบี อาจมีอาการเหน็บชา ปากนกกระจอก วิตามินซี อาจมีเลือดออกตามไรฟัน วิตามินเอ มีการมองไม่ชัดช่วงกลางคืน เป็นต้นค่ะ จะทราบต้องไปตรวจระดับวิตามินที่ รพใหญ่ๆ แต่มักมีราคาแพงมาก และโดยทั่วไปไม่ทำกันค่ะ สำหรับผิวหนัง โดยปกติไม่เฉพาะเจาะจงค่ะ ทานให้ครบก็เพียงพอค่ะ