March 19, 2018 15:40
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ในกรณีที่ลืมรับประทานยาสมิน 1 เม็ด
- สมมติว่านึกได้ตอนเช้าวันต่อมา ให้รับประทาน 1 เม็ดทันทีที่นึกได้ และรับประทานเม็ดต่อไปตามเวลาปกติ (จะเห็นว่ามีการรับประทานยาคุมในวันนี้ 2 เม็ด แต่แยกเวลากันเพื่อลดอาการคลื่นไส้อาเจียน)
- หรือถ้านึกได้ช้า เช่น นึกได้เมื่อถึงเวลาที่จะรับประทานยาคุมมื้อถัดไป ให้รับประทานพร้อมกัน 2 เม็ดไปเลย แต่อาจจะคลื่นไส้มากกว่าปกติ
- ยังมีผลในการคุมกำเนิดต่อเนื่อง ไม่จำเป็นต้องใช้ถุงยางอนามัยหรือยาคุมฉุกเฉินค่ะ
จะเห็นได้ว่าคุณแก้ไขการลืมรับประทานยาสมินได้เหมาะสมแล้ว และไม่จำเป็นต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินเพิ่มนะคะ เพราะผลในการคุมกำเนิดยังคงอยู่ต่อเนื่องค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ
ขออนุยาตถามเพิ่มเติมและแจกแจงรายละเอียดมากขึ้น
ซึ่งมีผลเสี่ยงต่อการตั้งครรถ์มากน้อยเพียงใดคะ?
ตอนนี้มีความกังวลพอสมควร
เพราะเนื่องจาก ประจำเดือนมา 1-6 มี.ค แต่เพิ่งเริ่มกินยาคุมยาสมินแพงแรก 5 มี.ค จะกินเวลา 5 ทุ่มครึ่งทุกคืนก่อนนอน ส่วนวันที่ 16 มี.ค ได้ลืมกิน แต่กิน 17 มี.ค(2 เม็ด) แต่ก่อนกินเกิดการหลั่งใน แล้ว 18 มีค ได้กินยาคุมยาสมินตามปกติ อย่างที่แจ้งคุณหมอทราบข้างบน ซึ่งอสุจิได้มีการหลั่งในทำให้คิดว่ามีผลเสี่ยงต่อการตั้งครรถ์ถ้าไม่รับประทานยาคุมฉุกเฉินดักไว้ก่อน
- ยาคุมมีผลตั้งแต่กินกี่เม็ด ?
- ถ้าภายในเดือนหน้า ปจด ไม่มามีผลเสี่ยงต่อการตั้งครรถ์หรือไม่ ?
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
1. การเริ่มใช้ยาคุมแผงแรก หากเริ่มรับประทานภายในวันที่ 1 - 5 ของการมีประจำเดือน จะมีผลคุมกำเนิดได้ตั้งแต่เม็ดแรกที่รับประทานค่ะ ดังนั้น ในกรณีของคุณจึงมีผลคุมกำเนิดได้ตั้งแต่ยาสมินเม็ดแรกที่ใช้เลยนะคะ
2. ยาเม็ดคุมกำเนิดมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการตั้งครรภ์ค่ะ ผู้ที่รับประทานมีโอกาสตั้งครรภ์ 0.3 - 9% โดยตัวเลขจะค่อนไปทางต่ำหากมีการใช้ถูกต้อง ตรงเวลาสม่ำเสมอ ไม่มีปัญหาลืมรับประทาน/อาเจียน/ถ่ายเหลว/ใช้ยาอื่นที่ลดประสิทธิภาพของยาคุมร่วมด้วย ดังนั้น การที่คุณลืมรับประทาน 1 เม็ด ก็ถือว่าทำให้ประสิทธิภาพของยาลดลงบ้างค่ะ แต่ก็มีโอกาสตั้งครรภ์อยู่ในช่วง 0.3 - 9% เช่นเดิม เพราะไม่ได้ลืมติดต่อกันหลายวันจนทำให้ยาไม่มีผลในการคุมกำเนิดต่อ อีกทั้งคุณก็ได้แก้ไขการลืมรับประทานยาได้อย่างเหมาะสมแล้วด้วย
3. จำเป็นต้องใช้ยาคุมฉุกเฉินหรือไม่??? ต้องตอบว่าไม่มีความจำเป็นต้องใช้ยาคุมฉุกเฉินเพิ่มในกรณีนี้เลยค่ะ และไม่แนะนำให้รับประทานด้วยนะคะ เพราะว่ายังมีผลในการคุมกำเนิดจากยาสมินอยู่ ต่อให้ประสิทธิภาพลดลงจากการลืมใช้ สมมติที่ตัวเลขสูงสุดเลยนะคะก็คือมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 9% (จากปกติคือ 0.3 - 9% ซึ่งจริง ๆ แล้วความเสี่ยงของคุณไม่น่าจะสูงขนาดนั้น เพราะลืมแค่เม็ดเดียวและแก้ไขได้เหมาะสมแล้ว) ก็ยังต่ำกว่ายาคุมฉุกเฉินมากค่ะ นั่นคือ ผู้ที่ใช้ยาคุมฉุกเฉินมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25%
แต่ถ้ามีเพศสัมพันธ์หลังจากที่ลืมรับประทานยาสมินติดต่อกันตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป อย่างนี้ผลในการคุมกำเนิดจะหมดลงค่ะ โอกาสในการตั้งครรภ์จะกลับมาสูงใกล้เคียงกับผู้ที่ไม่ได้คุมกำเนิดด้วยวิธีใด ๆ แล้ว (ไม่ใช่ 0.3 - 9% เหมือนตอนที่ยาคุมมีผลป้องกันได้อยู่) ดังนั้น ควรรับประทานยาคุมฉุกเฉิน เพื่อให้ความเสี่ยงนั้นลดลงมาเหลือแค่ 15 - 25% นั่นเองค่ะ
4. ถ้ายังอยากจะรับประทานยาคุมฉุกเฉินอยู่ดี จะรับประทานได้หรือไม่??? ก็สามารถรับประทานได้ค่ะ แต่ไม่มีประโยชน์เพิ่มขึ้น มีแต่ผลข้างเคียงจากยาที่จะได้รับเพิ่มขึ้น คือทำให้เกิดเลือดกะปริบกะปรอย และอาจทำให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อน
แม้ผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินจะไม่รุนแรง จึงสามารถใช้ได้หากต้องการ แต่เนื่องจากไม่เห็นว่าจะมีประโยชน์หรือความจำเป็นใด ๆ จึงไม่แนะนำให้ใช้ในกรณีนี้นะคะ
5. ในกรณีของคุณ ไม่มีอะไรที่น่ากังวลเลยค่ะ (ถ้าลืมรับประทานยาสมินติดต่อกันหลายวันสิคะที่น่าจะต้องกังวล) ประจำเดือนควรจะมาในช่วงเว้นว่าง 7 วันหลังหมดแผงค่ะ ปกติจะมาหลังใช้ยาสมินหมดไปแล้ว 2 - 3 วัน แต่ในแผงแรกอาจจะคลาดเคลื่อนได้บ้างนิดหน่อย ร่วมกับที่คุณเครียดเรื่องนี้ ก็อาจทำให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อนได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เมื่อเว้นว่างครบ 7 วันแล้ว แม้ประจำเดือนจะยังไม่หมดก็ให้ต่อแผงใหม่ในวันถัดมาได้เลยนะคะ ผลในการคุมกำเนิดจะได้ต่อเนื่องกันค่ะ
6. หากไม่ลืมรับประทานยาติดต่อกันตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป โดยเฉพาะในช่วงที่รับประทานเม็ดที่ 15 - 21 ในช่วงที่เว้นว่าง 7 วันก็ยังมีผลคุมกำเนิดได้นะคะ แต่ควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ในวันที่มีประจำเดือน เพราะจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
สอบถามเพิ่มเติมนะคะ
- ถ้ารับประทานยา Amoxicillin, Bisolvon, Nasolin, Loratadine (เนื่องจากไม่สบาย)
- และถ้ายาพวกอาหารเสริม เช่น ยาควบคุมน้ำหนัก หรือวิตตามินต่างๆ
ยาพวกนี้จะมีผลต่อประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดหรือไม่
ขอบคุณค่ะ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
1. ยาที่กล่าวมามีผลลดประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดหรือไม่???
ในอดีตเชื่อว่ามียาหลายตัวที่ไม่ควรใช้ร่วมกัน เพราะจะมีผลลดประสิทธิภาพของยาเม็ดคุมกำเนิดได้ ซึ่งก็รวมถึง Amoxicillin และ ยาบางตัวที่อาจแอบนำมาใช้เป็นยาลดน้ำหนัก ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาในปัจจุบันชี้ว่า Amoxicillin และ ยาบางตัวที่อาจนำมาใช้เป็นยาลดน้ำหนัก ไม่ได้มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดอย่างมีนัยสำคัญค่ะ การใช้ยาดังกล่าวจึงไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงของการตั้งครรภ์นะคะ
2. ในเมื่อไม่มีผลกระทบต่อยาคุมกำเนิด ก็สามารถใช้ได้ ใช่หรือไม่???
สำหรับยาที่แพทย์ / เภสัชกรจ่ายมาให้ใช้เพื่อรักษาโรค เช่น Amoxicillin, Bisolvon, Nasolin, Loratadine สามารถใช้ได้ค่ะ โดยเฉพาะ Amoxicillin ควรรับประทานติดต่อกันทุกวันจนหมด ส่วนยาอื่น ๆ สามารถหยุดใช้ได้เมื่อไม่มีอาการแล้ว
ส่วนยาควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากไม่ทราบตัวยาสำคัญ หากได้รับจากแพทย์ แนะนำให้สอบถามแพทย์ผู้รักษาว่าสามารถใช้ร่วมกันกับยาเม็ดคุมกำเนิดได้หรือไม่
แต่หากเป็นการซื้อมาใช้เองจากอินเตอร์เน็ต โดยส่วนตัวไม่มั่นใจว่าส่วนประกอบสำคัญจะตรงตามที่ระบุไว้ในฉลากหรือไม่ จึงไม่สามารถตอบได้ว่าปลอดภัยหรือไม่ค่ะ
เนื่องจากยาบางชนิดที่มักจะมีการลักลอบผสมหรือใช้ในสูตรยาลดน้ำหนัก แม้ว่าจะไม่มีผลกับประสิทธิภาพของยาคุม แต่ในทางตรงข้าม ยาคุมอาจลดการกำจัดยาดังกล่าวออกจากร่างกาย จึงเสี่ยงที่จะเกิดพิษหรือผลข้างเคียงจากยาดังกล่าวมากขึ้น ที่โดยปกติก็อันตรายมากอยู่แล้วที่ใช้นอกเหนือการดูแลของแพทย์ ก็จะอันตรายมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมเมื่อใช้ร่วมกับยาคุมกำเนิดค่ะ
ดังนั้น หากเป็นการซื้อมาใช้เอง แนะนำให้หยุดใช้ค่ะ ควรใช้วิธีควบคุมอาหารร่วมกับการออกกำลังกายดีกว่า นอกจากจะช่วยควบคุมน้ำหนักได้อย่างยั่งยืนแล้ว ยังทำให้สุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจอีกด้วย อย่างไรก็ตาม หากจำเป็นต้องใช้ยาช่วย ควรเป็นยาที่สั่งจ่ายโดยแพทย์โดยตรง และปฏิบัติตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัดค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขอบคุณค่ะ
พอดีก่อนหน้านี้ได้มีการสอบถามข้อมูลมาหลายที่เหมือนกันค่ะ ทำให้เกิดการลังเลเพราะแพทย์แต่ละทันก็ให้ข้อมูลที่คล้ายกันในบางส่วน
ก่อนหน้ามีเพศสัมพันธ์แล้วหลั่งใน ก็รู้สึกคัตเต้านม ปวดเมื่อย เหมือนเป็นอาการปกติก่อนที่ประจำเดือนจะมา
จากใจจริงไม่อยากรับประทานอย่าคุมฉุกเฉินเพราะกลัวฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นแล้วร่างกายรับไม่ไหว แต่ก็ยังไม่มั่นใจเต็ม 100 ที่จะเสี่ยงต่อการเกิดการตั้งครรถ์
- ถ้าเกิดไม่กินยาคุมฉุกเฉิน แล้วกินยาคุมยาสมินปกติจนหมดแพงรอบเดือนไม่มา ถือว่าเสี่ยงต่อการตั้งครรถ์ไหม?
- แล้วถ้ากินยาคุมฉุกเฉิน แล้วกินยาคุมยาสมินปกติได้ไหม ?
- แล้วถ้ากินยาคุมฉุกเฉิน มีเลือดกระปริดกระปอยออกมา ถือว่าเป็น ปจด หรือไม่ ?
ขอบคุณค่ะ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
1. ถ้าใช้ยาสมินจนหมดแผงแล้วประจำเดือนไม่มา ถือว่าเสี่ยงน้อยมากที่จะเป็นเพราะการตั้งครรภ์ค่ะ มีโอกาสที่ประจำเดือนจะคลาดเคลื่อนจากความเครียดมากกว่า
2. แม้จะใช้ยาคุมฉุกเฉิน ก็สามารถใช้ยาสมินต่อตามปกติได้ แต่ยาคุมฉุกเฉินอาจทำให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อนได้นะคะ
3. เลือดกะปริบกะปรอยไม่ใช่ประจำเดือนค่ะ เลือดกะปริบกะปรอยมักจะเป็นหยดเลือดติดซึมกางเกงชั้นใน มีปริมาณไม่มาก และไม่ได้ออกมาต่อเนื่องกันเหมือนเวลาเป็นประจำเดือน อาจเกิดทั้งจากการใช้ยาคุมฉุกเฉิน หรือเกิดจากการรับประทานยาคุมยาสมินไม่ตรงเวลาก็ได้ อย่างไรก็ตาม อาจจะไม่มีเลือดกะปริบกะปรอยเกิดขึ้นเลยก็ได้ค่ะ และไม่ว่าจะเกิดผลข้างเคียงนี้หรือไม่ ก็ไม่ได้บ่งชี้ว่าจะตั้งครรภ์หรือเปล่านะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะ
ขออนุยาตมาอัพเดตข้อมูลนะคะและสอบถามเพิ่มเติม
เนื่องจากที่ปรึกษาไปในข้างต้น อย่างที่ทราบว่ากังวลมาและได้กินยาคุมฉุกเฉินไปในวันที่ 20 แต่นับหลังจากการมีเพศสัมพันธ์ยังไม่เกิน 72 ชม แลพได้กินยาคุมยาสมินรายวันปกติ
พอช่วงวันที่ 22 จนถึงตอนนี้ (หรือเวลาก่อนหน้าด้วยไม่แน่ใจ) มีอาการปวดศรีษะ และเหมือนจะคลื่นไส้เป็นบ้างช่วง มีขับถ่ายบ้างเล็กน้อย ส่วนความกังวัลก็ยังมีอยู่พอสมควร
ส่วนยาคุมยาสมินตอนนี้เหลือในแพงเพียง 3 เม็ด(รวมของคืนนี้ที่ต้องกิน)
-ไม่ทราบว่าต้องดูแลร่างกายอย่างไร
-หลังจากหมดแพงยายาสมิน ปรจำเดือนจะมาภายในกี่วัน และคลาดเคลื่อนได้กี่วัน?
-ในช่วงระยะเวลานี้สมารถมีเพศสัมพันธ์แล้วหลั่งในได้ปกติโดยไม่ป้องกันด้วยถุงยางอนามัยได้หรือไม่
ขอบคุณค่ะ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
1. อาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ ถ่ายเหลว ไม่น่าจะเป็นผลจากยาคุมฉุกเฉินค่ะ เพราะช่วงเวลาไม่สัมพันธ์กับการใช้ อาจจะเป็นผลสืบเนื่องจากความวิตกกังวลหรือสาเหตุอื่นก็ได้ ดังนั้น หากอาการมีความรุนแรง แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสมนะคะ
2. โดยทั่วไป ประจำเดือนควรจะมาหลังใช้ยาสมินหมดไป 2 - 3 วัน แต่ในกรณีนี้อาจนานกว่านั้นก็ได้ค่ะ อย่างที่เคยแนะนำไปแล้วว่าการใช้ยาคุมแผงแรก, การใช้ยาคุมฉุกเฉิน และความเครียด ส่งผลให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อนได้เช่นกัน แต่จะคลาดเคลื่อนกี่วันคงระบุตัวเลขได้ยาก เพราะไม่สามารถจำกัดปัจจัยเรื่องความเครียดได้ (ยิ่งเครียดก็อาจยิ่งเคลื่อนค่ะ)
3. สามารถมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ตามปกติค่ะ ไม่จำเป็นต้องใช้ถุงยางอนามัย ผลคุมกำเนิดนี้จะรวมถึงช่วงที่เว้นว่าง 7 วันหลังใช้ยาสมินหมดแผงด้วย (แต่ควรหลีกเลี่ยงการใช้ในช่วงที่มีประจำเดือนนะคะ เพราะอาจติดเชื้อได้ง่าย)
4. เมื่อเว้นว่างครบ 7 วัน แม้ประจำเดือนจะยังไม่หมด ก็ให้ต่อยาสมินแผงใหม่เลย เพื่อให้ผลคุมกำเนิดมีความต่อเนื่อง หรือหากประจำเดือนไม่มาใน 7 วันที่เว้นว่าง ในกรณีของคุณ สามารถต่อยาสมินแผงใหม่ได้เช่นกันค่ะ ถ้าต่อแผงใหม่แล้ว เดือนนี้ประจำเดือนอาจไม่มาเลย แต่ไม่มีอันตรายค่ะ และประจำเดือนจะมาในช่วงเว้นว่าง 7 วันของแผงต่อไปเอง
5. แต่หากต้องการรอให้ประจำเดือนมาก่อนค่อยใช้ยาคุม จะต้องใช้ถุงยางตั้งแต่วันที่ครบกำหนดต่อแผงยา ไปจนกว่าประจำเดือนจะมา และเมื่อประจำเดือนมา ก็ให้รับประทานยาสมินเม็ดแรกภายใน 5 วันแรกที่มีประจำเดือน (ซึ่งก็คือการเริ่มต้นแผงแรกใหม่นั่นเอง) ก็จะมีผลคุมกำเนิดได้ตั้งแต่เม็ดแรกที่รับประทานค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขอบคุณค่ะ
ขออนุญาตปรึกษาคุณหมอเรื่อยๆนะคะ (เนื่องจากมีความกังวลค่อนข้างสูง)
อย่างที่ทราบคือยาคุมยาสมินต่อให้เพิ่งเริ่มแพงแรกและกินยาคุมทุกวัน ตรงเวลา ก็จะมีผลประสิทธิภาพตั้งแต่ 7 เม็ดแรกที่กินเข้าไปหรือต้องรอให้หมดแพง 1 แพงก่อน
คนส่วนมากมักจะบอกว่าต้องกินให้หมด 1 แพงก่อนยาคุมถึงจะมีประสิทธิภาพในการป้องกัน
มันจะมียาคุมอีกประเภทหนึ่ง ที่กินเกือนนึงแค่ 7 เม็ด แต่มีประสิธิภาพในการป้องกันและสามารถหลั่งในได้ไม่ทราบว่าคุณหมอมีตัวไหนแนะนำไหมคะ
ซึ่งอย่างที่แจ้งไปก่อนหน้าว่ายาคุมกำลังจะหมดแพงแรกแต่ยังมีการหลั่งในอยุ่ในช่วงหลังก่อนยาจะหมด แล้วพอดีเกิดได้ยินว่ายาคุมจะต้องกินหมด 1 แพงก่อนถึงจะได้ผล ทำให้มีบางส่วนคิดว่ากินยาคุมฉุกเฉินป้องกันไว้ต่อดีไหม แต่ก้อย่างที่คุณหมอแจ้งว่าไม่มีผลอะไรนอกจากผลเสี่ยงของยาคุมมากขึ้น
รบกวนหน่อยนะคะ ขอบคุณค่ะ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
คำแนะนำที่ใช้เป็นมาตรฐานล่าสุด โดยองค์การอนามัยโลก ยืนยันประสิทธิภาพของการใช้ยาคุมแผงแรกดังนี้ค่ะ
1. ไม่ว่าจะเป็นยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม หรือชนิดฮอร์โมนโปรเจสตินเดี่ยว หากเริ่มรับประทาน "เม็ดยาฮอร์โมน" ภายในวันที่ 1 - 5 ของการมีประจำเดือน จะมีผลคุมกำเนิดได้ตั้งแต่เม็ดแรกที่รับประทาน จึงมีเพศสัมพันธ์แบบหลั่งในได้เลย ไม่ต้องใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย
2. แต่ถ้าหากใช้ไม่ทันช่วงเวลาดังกล่าว (สามารถใช้ได้ในกรณีที่มั่นใจว่าไม่มีการตั้งครรภ์) จะมีผลคุมกำเนิดเมื่อ...
2.1 ใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมติดต่อกันครบ 7 วันแล้ว ดังนั้น ใน 7 วันแรกที่รับประทานยา จะต้องงดมีเพศสัมพันธ์ หรือใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยหากมีเพศสัมพันธ์
หรือ... 2.2 ใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนโปรเจสตินเดี่ยว ติดต่อกันครบ 2 วันแล้ว ดังนั้น ใน 2 วันแรกที่รับประทานยา จะต้องงดมีเพศสัมพันธ์ หรือใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยหากมีเพศสัมพันธ์ค่ะ
------------------
ยาสมิน เป็น "ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม" ค่ะ ดังนั้น หากเริ่มใช้ยาสมินแผงแรกภายใน 5 วันแรกที่มีประจำเดือน จะมีผลคุมกำเนิดได้ตั้งแต่เม็ดแรกที่รับประทาน สามารถมีเพศสัมพันธ์แบบหลั่งในได้เลยค่ะ
แต่ถ้าใช้ไม่ทัน 5 วันแรกที่มีประจำเดือน จะมีผลคุมกำเนิดเมื่อใช้ยาสมินติดต่อกันครบ 7 วันแล้ว ดังนั้น ใน 7 วันแรกจึงต้องงดร่วมเพศ หรือใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยไปก่อน
ส่วนการต่อแผง จะไม่สนใจวันที่มีประจำเดือนแล้ว ขอแค่เมื่อใช้ยาสมินหมดแผง ให้เว้นว่าง 7 วัน จากนั้นก็ต่อแผงใหม่ได้เลย หากทำเช่นนี้ ผลในการคุมกำเนิดก็จะมีความต่อเนื่องกันค่ะ
------------------
ยาคุมกำเนิดรายเดือน ที่ขึ้นทะเบียนในประเทศไทย ไม่พบว่ามียี่ห้อใดที่รับประทานแค่เดือนละ 7 วันค่ะ ไม่ทราบว่าได้ยินมาจากไหน และมีตัวอย่างยาที่ว่ามั้ยคะ
------------------
และสุดท้าย... ความถูกต้องของข้อมูล ต้องอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือและทันสมัย ไม่ใช่ "จำนวนคน" ที่พูด เหมือนข่าวมั่ว ที่แชร์กันทางโลกโซเชียลนั่นแหละค่ะ ยอดแชร์มากก็ไม่ได้หมายความว่าข้อมูลจะถูกต้องเสมอไป
ความรู้ที่เผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต ที่ถูกต้องก็มี แต่ที่มั่วก็มากค่ะ ต้องพิจารณาอย่างมีสตินะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขอบคุณค่ะ
ได้สอบถามจากคนที่พูดแล้วว่ายาตัวไหนที่เป็นยาคุม 7 เม็ด ซึ่งคำตอบที่ได้คือ ไม่ทราบ ส่วนเรื่องยาคุมที่ต้องกินให้ครบ 1 แพงก่อนถึงจะแตกในได้อันนี้ก็เป็นคำพูดของคนส่วนใหญ่
ถ้าเรากินยาคุมในเวลาที่คลาดเคลื่อนจากปกติเม็ดสองเม็ดจะมีผลกระทบไหม เช่น ปกติกิน 23.30 แต่ มีความคลาดเคลื่อนเป็น ตีหนึ่งหรือเที่ยงคืนบ้าง
ส่วนตอนนี้ประจำเดือนยังไม่มา ถ้าให้คิดในแง่บวกก็คือเกิดจากความกังวลแต่อาการตอนนี้ก็มีอาการเจ็บหน้าอกและปวดหลังเล็กน้อย
ขออนุญาตสอบถามค่ะ
ถ้าตามที่กล่าวแล้ว คุณหมอสามารถประมาณได้ไหมว่า ประจำเดือนจะมาในช่วงระยะเวลาใด?
แล้วถ้าสมมุตว่าประจำเดือนมาในเดือนเดียวกันที่เคยมีประจำเดือนแล้ว ผิดปกติหรือไม่
ถ้าสมมุตในเคสนี้ตั้งครรถ์ จะทราบได้อย่างไรว่าเป็นประจำเดือนหรือเลือดล้างหน้าเด็ก แล้วถ้าเป็นเลือดล้างหน้าเด็กจะมาในช่วงระยะเวลาไหน
ขอบคุณค่ะ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
1. ประจำเดือนจะมาในช่วงที่เว้นว่าง 7 วันหลังใช้ยาสมินหมดแผงค่ะ (โดยทั่วไปจะมาเมื่อใชัยาหมดไปแล้ว 2 - 3 วัน)
2. เมื่อใช้ยาคุมรายเดือนแล้ว ไม่ควรไปนับรอบเดือนตามปฏิทินค่ะ เพราะจะสับสนเปล่า ๆ เนื่องจากผู้ที่ใช้ยาคุมรายเดือน ถือว่ามีรอบประจำเดือน 28 วัน ดังนั้น สมมติว่าเดือนหนึ่งมีประจำเดือนมาวันที่ 1 ของเดือน ครั้งต่อไปก็จะมาประมาณวันที่ 29 ของเดือน ถือว่าปกติ แต่ประจำเดือนไม่ควรมาในช่วงที่ใช้เม็ดยาฮอร์โมนค่ะ (ดังนั้น ในรอบ 28 วันควรมีประจำเดือนแค่รอบเดียว) แต่ถ้าเป็นเลือดกะปริบกะปรอยนั้นพบได้ค่ะ ไม่ใช่เรื่องแปลก โดยเฉพาะในผู้ที่รับประทานยาคุมไม่ตรงเวลา
3. เพื่อให้มั่นใจว่าตั้งครรภ์หรือไม่ แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ไปเลยดีกว่านะคะ จะได้ไม่ต้องไปคอยสังเกตอาการอะไร เนื่องจากอาการที่ว่านั้นไม่ใช่จะเกิดกับทุกคนที่ตั้งครรภ์ จึงไม่ใช่เครื่องชี้วัดที่ชัดเจนหรือน่าเชื่อถือค่ะ ถ้าจะตรวจการตั้งครรภ์ หากตรวจโดยใช้ชุดทดสอบทางปัสสาวะ รอให้ผ่านเวลาหลังมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดมาแล้วอย่างน้อย 14 วันก็ตรวจได้เลยนะคะ แนะนำให้ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน จะได้เห็นผลชัดเจนและเชื่อถือได้ค่ะ
4. รับประทานยาสมินคลาดเคลื่อน 1 - 2 ชั่วโมงไม่มีปัญหาค่ะ ยังมีผลคุมกำเนิดได้อยู่ แต่อาจเกิดเลือดกระปริบกะปรอยได้บ้าง (แต่มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยกว่ายาคุมที่มีฮอร์โมนต่ำค่ะ)
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะ ขออนุยาตสอบถามนะคะ เนื่องจากมีประจำเดือนเริ่มในวันที่ 1-6 แล้วในวันที่ 5 ของการมีประจำเดือนได้ซื้อยาคุมยี่ห้อยาสมินมารับประทาน จนถึงเม็ดที่ 11 แล้วลืมกินหนึ่งวัน แต่ได้กินในวันถัดไปทีเดียว 2 เม็ด ในวันเดียวกันก่อนที่จะกิน 2 เม็ด ได้เกิดมีเพศสัมพันธ์แล้วหลั่งใน แล้วหลังจากนั้นวันถัดมาก็กินยาคุมยาสมินเป็นปกติ ไม่ทราบว่า ถ้ายังไม่เกิน 72 ชม สามารถซื้อยาคุมฉุกเฉินมารับประทานเพื่อป้องกันการเกิดการตั้งครรถ์ได้ไหม หรือไม่ควรรับประทาน ? ขอบคุณค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)