October 20, 2018 23:44
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางอนามัยนั้นถ้าหากใช้ได้อย่างถูกต้องและไม่มีการแตกรั่วของถุงยางอนามัยจะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้เพียง 2% เท่านั้นครับ นั่นหมายความว่าถ้าหากใช้ถุงยางอนามัยได้อย่างถูกต้องแล้วก็จะไม่มีความจำเป็นที่ต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินครับ
การรับประทานยาคุมฉุกเฉินนั้นอาจมีผลข้างเคียงทำให้มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียน ปวดศีรษะ คัดตึงเต้านม และมีเลือดออกผิดปกติระหว่างรอบเดือนได้ การรับประทานยาคุมฉุกเฉินโดยไม่จำเป็นจึงอาจทำให้ร่างกายได้รับผลข้างเคียงเหล่านี้ได้โดยไม่จำเป็นครับ
อาการปวดท้องที่เกิดขึ้นนั้นอาจมีสาเหตุหนึ่งมาจากยาคุมฉุกเฉินได้ แต่ถ้ามีอาการปัสสาวะบ่อยร่วมด้วยอาการก็อาจเกิดได้จากสาเหตุอื่น เช่น การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะครับ
ในเบื้องต้นนั้นหมอแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจปัสสาวะดูก่อนว่ามีการติดเชื้อหรือไม่เพราะถ้ามีการติดเชื้อก็จำเป็นต้องให้การรักษาครับ
ในส่วนของอาการขาดประจำเดือนนั้น หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินประจำเดือนอาจมีการคลาดเคลื่อนได้ประมาณ 4-5 วันครับ ดังนั้นถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่านี้ก็อาจต้องลองตรวจการตั้งครรภ์ดูด้วย โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
หลังมีเพศสัมพัน ได้ใส่ถุงยางเเละกินยาคุมฉุกเฉิน ผ่านไป1สัปดา ประจำเดือนยังไม่มา เเละปัสสาวะบ่อย เจ้บท้องน้อย เกิดจากอะไรคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)