ถ้าเป็นวัณโรคกินยามาแล้ว 3 เดือน ตรวจเสมหะไม่พบเชื้อแล้ว (Acid Fast Stain No AFB Observed) แต่หมอยังให้กินยาต่อไปอีกจนกว่าจะครบ 6 เดือน ยังถือว่า เป็นวัณโรคระยะแพร่เชื้อหรือไม่ครับ และถือว่าเป็นวัณโรคในระยะอันตรายไม่ คือ ผมสงสัยว่าวัณโรคในระยะอันตรายนี้คือระยะไหน เพราะในใบรับรองแพทย์จะระบุว่า ต้องไม่ปรากฎอาการของโรค 5 โรค คือ 1.โรคเรื้อนในระยะติดต่อหรือในระยะที่ปรากฎอาการเป็นที่รังเกียจแก่สังคม 2.วัณโรคในระยะอันตราย 3.โรคเท้าช้างในระยะที่ปรากฎอาการเป็นที่รังเกียจแก่สังคม 4.โรคติดยาเสพติดให้โทษ 5.โรคพิษสุราเรื้อรัง... ... แล้ว วัณโรคถือเป็นโรคติดต่อที่น่ารังเกียจของสังคมไหมครับ

สวัสดีครับ โดยทั่วไปแล้วแล้ววัณโรคระยะที่เป็นอันตรายจะหมายถึงวัณโรคในระยะที่ยังตรวจพบเชื้อในเสมหะ ซึ่งเป็นระยะที่สามารถแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้ครับ ดังนั้นถ้าหากในปัจจุบันรับประทานยามา 3 เดือนจนตรวจไม่พบเชื้อวัณโรคในเสมหะแล้วก็จะถือว่าพ้นระยะอันตรายและระยะแพร่เชื้อไปแล้ว แต่ก็ยังมีความจำเป็นต้องรับประทานยาต่อเนื่องไปจนครบ 6 เดือนก่อน เพื่อให้โรคไม่กลับมาเป็นซ้ำและเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อมีการดื้อยาครับ

ระยะแพร่เชื้อจะอยู่ในช่วง 2 เดือนแรกหลังเริ่มรักษา ค่ะ เป็นระยะที่ต้องหลีกเลี่ยงการอยู่ร่วมกับคนอื่นๆ เพื่อลดการแพร่เชื้อ โดยปกติรักษาประมาณ เดือนที่ 4 แพทย์ถึงจะระบุว่าพ้นระยะแพร่เชื้อและสามารถทำกิจกรรมร่วมกับคนอื่นได้ค่ะ วัณโรคไม่ถือว่าเป็นโรคติดต่อที่สังคมรังเกียจนะค่ะแต่ช่วงระยะที่แพร่เชื้อต้องระวังไม่แพร่เชื้อให้คนอื่นค่ะ

ขออนุญาตแก้ไขข้อมูลนะครับ วัณโรคในระยะแพร่เชื้อนั้นจะเป็นวัณโรคในระยะที่ตรวจพบเชื้อวัณโรคในเสมหะได้ครับ ซึ่งไม่ได้มีตัวเลขที่แน่นอนว่ากี่เดือนจึงจะพ้นระยะแพร่เชื้อนี้ เช่น ถ้าหากรักษาไปนาน 4 เดือนแล้วยังตรวจพบเชื้อในเสมหะอยู่ก็จะถือว่าเป็นวัณโรคในระยะแพร่เชื้ออยู่ครับ .... ดังนั้นถ้าหากตรวจไม่พบเชื้อวัณโรคในเสมหะแล้วก็จะถือว่าพ้นจากระยะแพร่เชื้อแล้ว โดยไม่สนใจว่ารับประทานยามานานเท่าไหร่ครับ