December 13, 2019 13:57
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
หมอยังไม่สามารถดูรูปภาพได้นะครับ แต่จากที่เล่ามานั้นหมอคิดว่ามีเป็นอาการที่อาจเกิดจากผลข้างเคียงที่ใช้รักษาโรคไบโพลาร์ได้ครับ ผลข้างเคียงในลักษณะนี้ไม่ได้ทำให้เกิดอันตรายแต่ก็สามารถทำให้เกิดความรำคาญ ไม่สบายตัวกับผู้ใช้ได้ ซึ่งก็อาจต้องมีการปรับเปลี่ยนยาใหม่ในกรณีที่ไม่สามารถทนกับผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ครับ
การหยุดยาหรือการปรับเปลี่ยนยาเพื่อรักษาโรคไบโพลาร์นั้นควรจะต้องทำภายใต้การดูแลของจิตแพทย์โดยตรงเพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนยาได้อย่างถูกต้องโดยที่อาการของโรคไม่กลับมาเป็นซ้ำครับ ส่วนการหยุดรับประทานยาเองอย่างกระทันหันนั้นมีโอกาสสูงมากที่โรคจะกลับมาเป็นซ้ำและรุนแรงมากขึ้นได้ โดยเฉพาะถ้าหากเพิ่งต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมาก่อนหน้านี้โอกาสที่อาการจะกลับมาเป็นซ้ำก็จะยิ่งมีสูงมากขึ้นครับ
ในกรณีนี้หมอจึงไม่แนะนำให้หยุดยาด้วยตัวเองแต่ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการและปรับเปลี่ยนยาภายใต้ความดูแลของแพทย์ครับ
ส่วนเรื่องการขอใบส่งตัวนั้นก็สามารถไปติดต่อขอรับในส่งตัวที่โรงพยาบาลต้นสังกัดได้เลยครับ
ทั้งนี้อาจให้ข้อมูลเกี่ยวกับชื่อยามาเพิ่มเติมเพื่อให้หมอให้ข้อมูลเกี่ยวกับยาได้อย่างถูกต้องมากขึ้นได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
Haloperidol 5mg
Trihexyphenidyl 2mg
Sodium valproate sr500mg
Lorazepam 0.5mg
Sodium valproate 200mg
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
จากรายการยาที่ให้มา อาการที่เกิดขึ้นมีแนวโน้มที่จะเกิดจากผลข้างเคียงของยา Haloperidol มากที่สุดครับ ซึ่งในการรักษาโรคไบโพลาร์นั้นก็ยังมียาอีกหลายชนิดในกลุ่มเดียวกับยา Haloperidol ที่มีผลข้างเคียงน้อยกว่าให้สามารถเลือกใช้ได้
หมอแนะนำให้กลับไปพบจิตแพทย์ก่อนนัดเพื่อปรับเปลี่ยนยาดูครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
หมอคะ แฟนไม่ยอมกินยาค่ะ ต้องพูดอย่างไงดี บอกแต่ว่าจะหยุดยาถ้าเป็นหนักจะไปหาหมอเอง แต่เค้าไม่ได้ทำตามคำพูดเท่าไหร่ เมื่องานยังบอกจะรักษา วันนี้บอกไม่ยอมอีกแล้วค่ะ
เปลี่ยนยานี่แฟนต้องอยู่รพ.อีกมั้ยคะ คือยิ่งอยู่เค้ายิ่งหงุดหงิดอะคะ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ถ้าหากได้มีการเปลี่ยนเป็นยาชนิดที่เหมาะสมโอกาสที่จะต้องนอนโรงพยาบาลอีกครั้งก็มีน้อยครับ แต่ถ้าหากมีการหยุดยาเองและไม่รับประทานยาก็จะมีโอกาสที่อาการจะหนักขึ้นจนต้องรักษาในโรงพยาบาลได้มากกว่าครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
แฟนเป็น bipolar II เข้ารักษา เมื่อวันที่ 22 พย.62-11ธค.62 นัดครั้งต่อไป13มค.63 ตอนที่รักษาที่รพ. แฟนอยากกลับบ้านมาก มีอาการปวดหัวรุนแรง และได้เปลี่ยนยา1ครั้ง เป็นยาชุดปัจจุบัน ตอนที่มารักษาที่บ้าน ทานยาทุกวัน แต่ไม่ตรงเวลา ยาเช้า 8.00น. ทานช่วง7.30-9.00น. ยาก่อนนอน20.00น. ทานตอน17.30-18.30น. แฟนพูดให้ฟังตลอดว่า "ยานี้กินแล้วง่วงแต่นอนไม่ได้กระวนกระวาย ไม่มีแรง ทำอะไรนิดๆก็เหนื่อย เบื่อ มีเวียนหัวบ้างปวดหัวบ้าง อยู่นิ่งไม่ได้ต้องเดินไปเดินมาทำนั่นทำนี่ก็ไม่ได้ อยากหยุดยา จะลองหยุดยา" จากที่แฟนบอกมา ไม่แน่ใจว่าเป็นผลข้างเคียงของยาหรือเพราะแฟนหาเหตุผลมาอ้างอยากหยุดยากันแน่ เลยได้โทรปรึกษาเภสัชที่รพ.สวนสราญรมณ์ หมอบอกให้พาเข้ามาพบแพทย์ก่อนวันนัดได้เลย คำถามคือ 1.อาการเหล่านี้เป็นผลข้างเคียงของยามั้ย อันตรายรึเปล่า ต้องพาไปพบแพทย์มั้ย 2.ถ้าพาไปพบแพทย์ต้องมีใบส่งตัว ตรงนี้เราไปขอเองได้มั้ย เอาใบนัดไปยื่นขอทำใบส่งตัวได้เลยรึเปล่า แฟนไม่อยากไปไหนเลย ยืนยันจะหยุดยาเองดูก่อน ยาที่ใช้มีตามภาพค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)