July 18, 2019 17:37
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์โดยการหลั่งนอกนั้นอาจมีอสุจิที่ปนอยู่ในน้ำหล่อลื่นของผู้ชายหลุดลอดเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ ทำให้มีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ 4-27% ครับ
ในกรณีนี้หมอแนะนำให้หายาคุมฉุกเฉินมารับประทานให้เร็วที่สุดก่อนเพื่อช่วยป้องกันการตั้งครรภ์จากการมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 16 กรกฎาคม โดยให้รับประทานภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ก็จะช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์ลงได้ 75-85% แต่ถ้าหากเลยช่วงเวลาดังกล่าวไปแล้วก็ยังอนุโลมให้รับประทานภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ แต่ประสิทธิภาพของยาก็จะลดลงไปเรื่อยๆตามเวลาที่ผ่านไปครับ
ส่วนการมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 3 กรกฎาคมนั้นจะไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้แล้วครับ
หลังจากนี้หมอแนะนำให้งดการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนและให้รอสังเกตดูว่าประจำเดือนของรอบเดือนนี้จะมาตามปกติหรือไม่ ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปก็ให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดู โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
หรือถ้าไม่กินแล้วรอวันมาประจำเดือนมา แล้วหนูสงสัยมีอาหารเต้นอยู่หน้าท้องบนสะดือ มันเกิดจากอะไรหรอคะ
แล้วถ้ากินยาคุม แล้วสามารถเลิกกินได้มั้ยคะ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
คือหนูมีปจด.ล่าสุด 27มิถุนา แล้วมาประมาณ 4วันค่ะ แล้ววันที่ 3กรกฎามีพสพ.ไม่ป้องกันไม่กินยาคุมหลั่งนอก ช่วงตกไข่คือ 8-13กรกฎา แล้ววันที่ 16มีพสพ.กับแฟนเหมือนเดิม ไม่ป้องกันหลั่งนอกไม่กินยาคุม แล้ว3-4วันนี้มีอาการเจ็บหัวนมข้างเดียวและคันนิดหน่อย ไม่มีอาการตึงใดๆ นี่ใช่อาการเตือนของประจำเดือนจะมาใช่มั้ยคะ แล้วแบบนี้มีโอกาสท้องมั้ยคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)