July 17, 2018 12:39
ตอบโดย
พิมพกา ชวนะเวสน์ (สูตินรีแพทย์)
ยาคุมฉุกเฉิน คือ ฮอร์โมนเพศหญิงขนาดสูงค่ะ สูงกว่าระดับธรรมชาติในร่างกาย หลังได้รับไปแล้วจะทำให้รอบเดือนแปรปรวนได้ค่ะ อาจจะบอกยากว่า เมนส์จะมาเมื่อไหร่
และด้วยความที่ฮอร์โมนสูง ก็ทำให้มีอาการข้างเคียงอื่นๆได้ เช่น คัดตึงเต้านม คลื่นไส้อาเจียน เวียนศีรษะ
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ยิ่งกินเร็วเท่าไหร่ หลังมีเพศสัมพันธ์ ยิ่งดีค่ะ โดยตามหลักการ ให้กินยาภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ ปัจจุบันยืดหยุ่นให้ถึง 100 ชั่วโมงแล้วค่ะ
อย่างไรก็ตาม ยาคุมฉุกเฉิน ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ดีไม่เท่า การคุมกำเนิดวิธีอื่นๆ เช่น การกินยาคุมปกติค่ะ (ยาคุมปกติ ถ้ากินถูกวิธี ประสิทธิภาพคุมกำเนิด มากกว่า 90 % แต่คุมฉุกเฉิน อาจจะแค่ประมาณ 80% - 85%
เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นไปได้ แนะนำใช้การคุมกำเนิดวิธีอื่นค่ะ ใช้ยาคุมฉุกเฉิน เมื่อจำเป็นเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ถ้าถึงรอบเมนส์มาปกติ แล้วเมนส์ยังไม่มา ให้ลองตรวจปัสสาวะดูการตั้งครรภ์ดูค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ไม่แน่ใจว่าผู้ถามต้องการจะสื่อความหมายว่าอย่างไรค่ะ
1. หากสงสัยว่า รับประทานยาคุมฉุกเฉินแบบแผงละ 2 เม็ด โดยใช้ครั้งละ 1 เม็ด รวม 2 ครััง ห่างกัน 12 ชั่วโมงแล้ว จะป้องกันการตั้งครรภ์ได้หรือไม่ หรืออาจจะมีผลข้างเคียงใดหรือเปล่า มีคำตอบดังนี้ค่ะ
- ผู้ที่รับประทานยาคุมฉุกเฉินยังมีโอกาส 15 - 25% ที่จะตั้งครรภ์ได้ค่ะ ซึ่งแม้จะต่ำกว่าการไม่ใช้ยาคุมฉุกเฉินเลย แต่ก็ยังถือว่าสูงกว่าการใช้วิธีคุมกำเนิดปกติหลายเท่า
- และอาจพบผลข้างเคียงเป็นอาการคลื่นไส้อาเจียน ปวดศีรษะ เลือดออกกะปริบกะปรอย ภายใน 1 สัปดาห์หลังใช้ยา หรืออาจไม่เกิดขึ้นเลยก็ได้ค่ะ การมีหรือไม่มีผลข้างเคียงดังกล่าว ไม่ใช้บ่งชี้ว่ายาได้ผลหรือไม่ได้ผล และไม่ได้บ่งชี้ว่าจะมีการตั้งครรภ์หรือไม่ตั้งครรภ์
- ให้รอดูว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติหรือไม่ ถ้าไม่มี ก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันค่ะ
- และระหว่างที่รอให้ประจำเดือนมา ควรงดมีเพศสัมพันธ์ หรือหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์นะคะ
..
..
..
2. แต่หากผู้ถามกังวลเรื่องผลกระทบในระยะยาวจากการใช้ยาคุมฉุกเฉินบ่อยครั้ง มีการชี้แจงจากองค์การอนามัยโลกในปี ค.ศ.2010 แล้วว่า การใช้ยาคุมฉุกเฉินตัวยา Levonorgestrel (ลีโวนอร์เจสเทรลเป็นยาคุมฉุกเฉินที่ใช้อยู่ในประเทศไทยและอีกหลาย ๆ ประเทศ) ไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรงหรือถาวร แม้จะมีการใช้ซ้ำบ่อยครั้งค่ะ
ดังนั้น เมื่อมีการใช้ไปแล้วก็ไม่ต้องกังวลนะคะ
อย่างไรก็ตาม ควรใช้ยาคุมฉุกเฉินเฉพาะในกรณีที่จำเป็นฉุกเฉินเท่านั้น เช่น ถูกข่มขืน หรือใช้เป็นวิธีเสริมในกรณีที่วิธีคุมกำเนิดหลักล้มเหลว เช่น ถุงยางฉีกขาด หรือลืมรับประทานยาคุมรายเดือน เนื่องจากยาคุมฉุกเฉินมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ต่ำกว่าวิธีคุมกำเนิดปกติมากหลายเท่า เช่น...
- ถ้าใช้ยาคุมรายเดือนได้ถูกต้อง และรับประทานตรงเวลาสม่ำเสมอ จะมีโอกาสตั้งครรภ์ 0.3%
- ถ้าใช้ถุงยางได้ถูกต้อง และไม่มีการรั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์ 2%
- แต่การใช้ยาคุมฉุกเฉิน ต่อให้รับประทานเร็วที่สุดที่ทำได้ ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์อย่างน้อย 15%
จากตัวเลขดังกล่าว จะเห็นได้ว่า การใช้ยาคุมฉุกเฉินแทนวิธีคุมกำเนิดปกติ ทำให้ผู้ใช้มีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาตั้งครรภ์ไม่พร้อมได้มากกว่า และยิ่งใช้บ่อยก็จะยิ่งเสี่ยงมากขึ้นค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
กินยาคุมฉุกเฉินสองครั้งแล้วจะเป็นอะไรมั้ยคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)