August 18, 2019 19:03
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
ถ้าเดิมประจำเดือนมาสม่ำเสมอ เเล้วมีเพศสัมพันธ์ในช่วงก่อน7วันจนถึงหลัง7วันนับจากประจำเดือนมาวันเเรก เป็นระยะปลอดภัย ไม่มีไข่ตก โอกาสท้องเเทบไม่มีครับ
เเต่ถ้าเดิมประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ ทำให้กะช่วงเวลาตกไข่ยาก หรือประจำเดือนมาสม่ำเสมอเเต่มีเพศสัมพันธ์ช่วง14วันนับจากวันเเรกที่ประจำเดือนรอบนั้นมา จะเป็นช่วงไข่รก โอกาสท้องมากขึ้นครับ
ถ้าไม่ชัวร์
ถ้ายังไม่เกิน120 ชม. นับจากที่มีเพศสัมพันธ์
ให้รับประทานเป็น “ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน” ครับ ตามร้านยาจะเป็น ยี่ห้อ Postinor,Madonna {ตัวยาชนิดเดียวกัน}
แต่ละกล่องจะมี ยา 2 เม็ด
หรือชนิด 1 เม็ด เช่น Maple forte
.............
รับประทานให้เร็วที่สุดหลังจากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน โดย
.............
ให้รับประทานยาคุมฉุกเฉิน ชนิด 2เม็ด เช่น Postinor หรือ Madonna ได้สองวิธี
1.รับประทานทันที 2 เม็ด
2.รับประทาน 1 เม็ดทันที เเละรับประทาน เม็ดต่อไป ในอีก 12 ชม.
สองวิธีประสิทธิภาพไม่เเตกต่างกัน (หรือชนิด 1 เม็ด เช่น Maple forte ก็กินเม็ดเดียวไปเลยครับ)
วิธีเเรกสะดวก แต่อาจเกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนได้มากกว่า
วิธีที่สอง อาการคลื่นไส้อาเจียนน้อย เเต่ต้องดูเวลาดีๆ ครับ
.............
หากอาเจียนภายใน 2 ชม.หลังกินยา ต้องกินใหม่นะครับ เพราะยายังไม่ได้ดูดซึม
.............
ผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉิน เช่น คลื่นไส้อาเจียน คัดตึงเต้านม ได้ครับ
และ
หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินจะมีเลือดออกทางช่องคลอดได้ ประมาณ ภายใน1 สัปดาห์หลังกินยา ซึ่งไม่ใช่เลือดประจำเดือน (อาจจะมากระปริบกระปรอย หรือ ไม่มีก็ได้ครับ)
ส่วนประจำเดือนจะมาไกล้เคียงกับรอบประจำเดือนปกติ เเต่อาจมาเร็วหรือช้ากว่ารอบเดือนปกติได้ 1-3สัปดาห์
ดังนั้น หากเกิน3สัปดาห์ไปเเล้วจากวันที่ประจำเดือนควรจะมา
ให้ตรวจการตั้งครรภ์ครับ
........
การจะให้ชัวร์ว่าไม่ท้องก็ต้องรอประจำเดือนจริงๆมาครับ ซึ่งก็อาจจะเลื่อนได้จากผลของยา
หากต้องการตรวจการตั้งครรภ์ ตรวจได้เร็วที่สุด2สัปดาห์หลังมีเพศสัมพันธ์ครับ
ระหว่างนี้ถ้ามีเพศสัมพันธ์ใช้ถุงยางไปก่อนครับ
เเละการคุมกำเนิดโดยการคุมกำเนิดฉุกเฉินไม่ควรใช้เกินสองแผงต่อเดือนครับ
...........
หลังจากนี้ถ้าชัวร์ว่าไม่ท้องเเละประจำเดือนมาเเล้ว เเนะนำเลือกวิธีคุมกำเนิด เช่น ยาคุมรายเดือน ฝังยาคุม ฉีดยาคุม หรือใช้ถุงยางอนามัยครับ
.........
ส่วนโอกาสตั้งครรภ์
หากรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินภายใน 12-24 ชม.แรกของการมีเพศสัมพันธ์ จะคุมกำเนิดได้ประมาณ 85% รับประทานภายใน 72 ชม. ประมาณ 75%
ส่วนถ้าเกิน 72 ชม.แต่ยังไม่เกิน 120 ชม. จะประมาณ 60% ครับ
สรุปคือยิ่งรับประทานช้า จะยิ่งมีโอกาสท้องครับ
อย่างที่บอกยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ไม่ควรรับประทานเกิน2แผงต่อเดือนครับ ถ้ามีเพศสัมพันธ์บ่อยๆ เเนะนำเป็นคุมกำเนิดรายเดือน หรือใช้ถุงยางอนามัยดีกว่าครับ
เนื่องจากยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเป็นฮอร์โมนขนาดสูง
ในระยะยาวมีผลต่อรังไข่ได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
โดยทั่วไปถือว่าการนับวันปลอดภัย "หน้า 7 - หลัง 7" มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 24% นะคะ
หากเทียบกับการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันใด ๆ ในช่วงเวลาอื่น ที่มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 85% ก็อาจมองได้ว่าการนับวันปลอดภัย "หน้า 7 - หลัง 7" มีความเสี่ยงที่น้อยกว่า
แต่ถ้าเทียบกับการป้องกันด้วยวิธีคุมกำเนิดมาตรฐาน ยกตัวอย่างก็คือ การใช้ถุงยางอนามัย ซึ่งถ้าใช้ถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาดจะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 2% ก็จะเห็นได้ว่าการนับวันปลอดภัย "หน้า 7 - หลัง 7" มีความเสี่ยงสูงกว่ามาก และไม่ใช่ทางเลือกที่ดีในการป้องกันการตั้งครรภ์เลยค่ะ
ผู้ถามและแฟนจึงต้องพิจารณาว่ายอมรับความเสี่ยง 24% นี้ได้หรือไม่ ถ้ารับไม่ได้ และต้องการลดความเสี่ยงดังกล่าวให้น้อยลง ก็ควรคุมกำเนิดฉุกเฉินนะคะ โดยมี 2 ทางเลือก ได้แก่...
1. รับประทานยาคุมฉุกเฉินทันที หรือเร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ค่ะ
แต่วิธีนี้มีประสิทธิภาพไม่สูงนัก แม้จะใช้ครบขนาดและทันเวลา ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% และไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องหลังรับประทานนะคะ หากจะมีเพศสัมพันธ์ในครั้งต่อไป ก็ต้องใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งค่ะ
2. ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อใส่ห่วงอนามัยชนิดหุ้มทองแดงภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์
วิธีนี้มีประสิทธิภาพสูงมาก ผู้ใช้มีโอกาสตั้งครรภ์ 0.6 - 0.8% เท่านั้น และมีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องได้นาน 3 - 10 ปี ขึ้นกับรุ่นของห่วงอนามัยที่ใช้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
สุวพัชญ์ พิศาลมงคล (นพ.)
การคุมกำเนิดโดยการนับระยะปลอดภัย มีโอกาสการตั้งครรภ์ร้อยละ 9-25 ครับ ถือว่าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพค่อนข้างต่ำ หากยังอยู่ภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์แนะนำให้ทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเพิ่มครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
แฟนประจำเดือนมาวันแรกวันที่ 11 ส.ค และหมดวันที่ 13 ส.ค ผมมีอะไรกับแฟนวันที่ 17 ส.ค ซึ่งเผลอหลั่งในวันนั้น ไม่ได้ป้องกัน ไม่ได้กินยาคุมด้วย ซึ่งผมนับหน้า7หลัง7มันตรงวันสุดท้ายของช่วงปลอดภัยพอดี เลยอยากทราบว่าจะเป็นอะไรไหมครับ ยังถือว่าปลอดภัยไหม มีโอกาสตั้งครรภ์มากไหมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)