สวัสดีค่ะ อยากสอบถามเรื่องการทานยาคุมเพื่อรักษาสิวฮอร์โมนค่ะ คิดว่าตัวเองเป็นสิวฮอร์โมน ก่อนหน้านี้ทานแอคโนตินมาเป็นเวลา 2 ปี ทานๆหยุดๆ สิวไม่ขึ้นและหน้าใสมากๆค่ะ หน้าไม่มันเลย เพราะปกติเป็นคนหน้ามันมากๆ แต่ผลข้างเคียงก็มากเหลือเกินค่ะ ตาแห้งมากๆ ผิวไวต่อแดดมากๆ รวมถึงต้องคอยตรวจเลือดเช็คค่าตับตลอด แต่ปกติดีทุกครั้งที่เช็ค จนปัจจุบันเลิกทานแล้วค่ะ เพราะอยากบริจาคเลือด ตั้งแต่เลิกทานมา6 เดือน เริ่มมีอาการประมาณเดือนที่5 ว่าสิวเริ่มขึ้น แต่ช่วง 1-2 เดือนแรกที่เลิกทานแอคโนตินความมันบนใบหน้าก็กลับมา100% แล้วค่ะ แต่สิวพึ่งมาเริ่มขึ้นหนักๆช่วงเดือน5-6 ตอนนี้เลยคิดว่าตัวเองน่าจะเป็นสิวฮอร์โมนเพราะรักษาใช้ยา มาเยอะมากๆก็ไม่หาย จึงอยากสอบถามคุณหมอว่าถ้าเราทานยาคุมรักษาสิวไปนานๆจะมีผลเสียต่อมดลูกหรือสุขภาพภายใน หรือเสี่ยงต่อภาวะการมีบุตรยากไหมคะ หากเราทานต่อเนื่องไปหลายๆปี เมื่อเราเลิกทานสิวก็จะกลับมาขึ้นเหมือนเดิม หรืออาจจะหนักกว่าเดิมด้วยใช่ไหมคะ ยาคุมที่จะทานคือ yaz ค่ะ และตอนนี้อายุ 24 ค่ะ รบกวนและขอบพระคุณ คุณหมอค่ะ

การใช้ยาคุมกำเนิดไม่ได้ทำให้มีบุตรยากเมื่อหยุดใช้ค่ะ ดังนั้น หากผู้ถามและแฟนไม่ได้มีความผิดปกติที่ทำให้มีบุตรยากเองอยู่แล้ว เมื่อหยุดคุมกำเนิดก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ตามปกตินะคะ

ส่วนปัญหาเรื่องสิวของผู้ถาม ต้องพิจารณาว่ามีการรักษาอย่างเหมาะสม และติดตามผลการรักษาต่อเนื่องตามแพทย์นัดสม่ำเสมอหรือไม่ เพราะแม้จะใช้ยามามากหรือนาน แต่ถ้าเป็นการใช้ที่ไม่เหมาะสม ก็ย่อมจะไม่ได้ผลการรักษาที่ดี และมีโอกาสกลับเป็นซ้ำได้อีกเมื่อหยุดใช้

หากผู้ถามจะใช้ยาคุมเพื่อรักษาสิว แม้ว่าอาจได้ผลเมื่อใช้ต่อเนื่องกันไปหลายเดือน แต่ถ้าไม่ใช่การรักษาที่เหมาะสม เมื่อหยุดใช้ หากสาเหตุของปัญหาสิวยังไม่ถูกแก้ไข ก็อาจกลับมามีสิวได้อีกเช่นเดิมค่ะ

ดังนั้น แนะนำเช่นนี้นะคะ หากที่ผ่านมาผู้ถามไม่ได้มีปัญหาเกี่ยวกับประจำเดือนเลย ควรไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อตรวจประเมินอาการ และพิจารณาการรักษาสิวที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ รวมถึงควรไปรับการตรวจติดตามผลอย่างสม่ำเสมอ เพราะอาจต้องมีการปรับเปลี่ยนการรักษาตามความเหมาะสม

แต่ถ้าที่ผ่านมาผู้ถามมีปัญหาประจำเดือนมาไม่ปกติอยู่เรื่อย ๆ แนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริง เพราะโรคทางสูตินรีเวชบางอย่างอาจส่งผลให้เกิดสิวฮอร์โมนได้เช่นกัน จึงควรได้รับการแก้ไขที่เหมาะสมตามสาเหตุที่แท้จริง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษา และป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ยาที่ไม่เหมาะสมค่ะ