August 22, 2019 18:59
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
ลักษณะของตุ่มของคนไข้ เหมือนหูดหงอนไก่ครับ
อาการ : อาการของหูดขึ้นอยู่กับตำแหน่งและขนาด ส่วนใหญ่ไม่มีอาการ บางราย
มีอาการคัน เจ็บ ตกขาวหรือมีเลือดออก
อาการแสดง: เป็นก้อนหรือติ่งเนื้อ ลักษณะผิวอาจเรียบหรือขรุขระ สีอาจจะสีชมพู
สีน้ำตาล สีเนื้อ พบบริเวณอวัยวะเพศ ทวารหนัก ปาก และช่องคอครับ
การรักษาหูดหงอนไก่ มีหลายวิธีครับ
ทั้งแบบใช้ยา และการผ่าตัด
1.การใช้ยา เช่น TCA , 5% imiquimod เป็นต้น ใช้ทาบริเวณหูด เพื่อให้เนื้อนั้นฝ่อไปครับ
2.การจี้เย็น และการผ่าตัด ใช้ในกรณีที่หูดมีขนาดใหญ่มาก หรือใช้ยาแล้วไม่ได้ผลครับ
นอกจากนี้ การรักษาโรคหูด ยังต้องรักษาคุ่นอนด้วยครับ ไม่เช่นน้้นแล้ว จะทำให้โรคหูด กลับมาเป็นซ้ำๆ ได้ครับ
( หูด เป็นโรค ติดเชื้อ สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้ หากได้รับเชื้อนั้นๆอีก และ เพราะหูดหงอนไก่เกิดจากเชื้อไวรัส HPV และ ไม่มีวิธีการรักษาที่หายขาดสำหรับเชื้อไวรัส HPV ดังนั้น จึงไม่มีทางรักษาให้หายขาดสำหรับหูดหงอนไก่เช่นกัน)
การป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำของโรคหูดหงอนไก่ ได้แก่
1. หูดหงอนไก่ประมาณ 90% เกิดขึ้นจากเชื้อไวรัส HPV type 6 และ 11 วัคซีนป้องกันไวรัสHPV สามารถช่วยปกป้องจากไวรัสทั้งสองชนิดได้
-วัคซีนมะเร็งปากมดลูกตอนนี้ มีอยู่ 2 ชนิดค่ะ
Cervarix ป้องกัน 2 สายพันธุ์ คือสายพันธุ์ 16 , 18 ซึ่ง 2 สายพันธุ์นี้ เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกถึง 70% ครับ
Gardasil ป้องกัน 4 สายพันธุ์ คือนอกจากสายพันธุ์ 16 และ 18 ที่เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกแล้ว ยังสามารถป้องกันสายพันธุ์ 6 และ 11 ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหูดหงอนไก่ได้อีกด้วย แต่ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อ HPV หูดหงอนไก่ได้ทุกราย
การฉีด HPV vaccine ให้ฉีด 0.5 มล. เข้าต้นแขนหรือกล้ามเนื้อสะโพก จำนวน 3 ครั้ง (3 เข็ม) ภายในระยะเวลา 6 เดือน ดังนี้
ครั้งที่ 1 : ฉีดในวันที่กำหนดเลือก
ครั้งที่ 2 : ฉีดในเดือนที่ 1–2 หลังจากการฉีดครั้งแรก
ครั้งที่ 3 : ฉีดในเดือนที่ 6 หลังจากการฉีดครั้งแรก
โดยวัคซีนจะสามารถป้องกันเชื้อได้หลังจากฉีดครั้งที่ 3 ครบ 1 เดือนไปแล้ว
2.ใช้ถุงยางอนามัยระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ (แต่อย่าลืมว่าถุงยางอนามัยไม่สามารถป้องกันเชื้อ HPV ได้ 100% เพราะเชื้อไวรัสและหูดอาจเกิดขึ้นรอบๆผิวหนังภายนอกของคุณ)
3.ไม่เปลี่ยนคู่นอน ไม่มีคู่นอนหลายคน
4. หลีกเลี่ยงคู่นอนที่มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศสูง (เช่น มีคู่นอนหลายคน หรือยอมมีเพศสัมพันธ์เพื่อเงินหรือยาเสพติด)
5. ลด ละ เลิก การสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งจะทำให้คุณอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูงขึ้นของการเป็นหูดหงอนไก่
6. สำหรับผู้หญิง แแนะนำให้ตรวจภายในประจำปี และคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยค่ะ เนื่องจากมะเร็งปากมดลุกส่วนหนึ่ง เกิดจากการติดเชื้อ HPV เหมือนกันซึ่ง การติดหูดหงอนไก่ อาจเป็นความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ HPV อื่นๆมาด้วยค่ะ ซึ่งอาจจะไม่มีอาการแสดงเลยในขณะนี้ก็ได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
พิชญาพร กูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ
จากภาพประกอบ มีโอกาสที่จะเป็นหูดหงอนไก่ได้สูงค่ะ
โดยหูดหงอนไก่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส human papillomavirus (HPV) โดยไวรัสตัวนี้ อาจพบได้ในร่างกายของเพศหญิงอยู่แล้ว แม้มีคู่นอนเดียวคนเดียว โรคนี้อาจเกิดขึ้นรอบๆอวัยวะเพศและทวารหนัก รวมถึงบริเวณรอบปากและลำคออีกด้วย
หูดหงอนไก่ที่เห็นชัดเจนสามารถหายเองได้ค่ะ ถ้าหากร่างกายประสบความสำเร็จในการต่อสู้กับเชื้อไวรัส HPV
แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องก่อนซื้อยารักษาเองค่ะ
ยาทารักษาหูดหงอนไก่ที่สามารถหาซื้อได้เอง ได้แก่ condylox (podophyllin และ podofilox) เป็นยาต้านการแบ่งตัวของเซลล์หูด ยาImiquimod (aldara, zyclara)เป็นยากระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ต่อสู้กับหูดหงอนไก่
หากทายาแล้วไม่ดีขึ้น หูดใหญ่รบกวนมากขึ้น แพทย์จะพิจารณาผ่าตัด/จี้หูดค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ถ้าไปตรวจที่โรงพยาบาลเสียค่าตรวจไหมคะเท่าไหร่คะ พอดีหนูพึ่งอายุ19ค่ะ อยากทราบค่าใช้จ่ายก่อนจะต้องไปตรวจค่ะ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
คุณหมอคะที่อวัยวะเพศของหนูมีตุ่มขึ้นหลายตุ่มมากๆค่ะแบบนี้ไม่ทราบว่าเป็นหูดหงอนไก่หรืิปล่าวคะขึ้นบริเวณเหนือปากมดลูกนิดนึงค่ะไม่มีอาการใดๆเลยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)