ถ้ามีผู้ป่วยถูกส่งตัวมาห้องฉุกเฉินที่รพ. เนื่องจากอาเจียนเป็นเลือดสด 400 มล. ซึ่งพยาบาลได้รายงานแพทย์ว่า ผู้ป่วยปฏิเสธการรักษา ต้องการกลับบ้านทันที ขณะนั้นสัญญาณชีพ มีความดันโลหิต 98/75 มม.ปรอท อัตราการเต้นของหัวใจ 122 ครั้ง/นาที จากการพูดคุยผู้ป่วยมีอาการมึนเมาและเริ่มอาละวาดทำลายข้าวของ อยากรู้ว่าถ้าเป็นแพทย์เวรประจำหอผู้ป่วยอยู่ณ ตอนนั้น จะทำอย่างไรดีคะ เราจะพูดคุยกับเค้ายังไง แล้วถ้าเค้าไม่ยอมอันตรายแค่ไหนคะ

อธิยายถึงความเสี่ยงของผู้ป่วยว่า อาจเกิดได้จากการมีเลือดออกในระบบทางเดินอาหาร และเส้นเลือดฝอยบริเวณหลอดอาหารแตกอรวมทั้งหากมีประวัติเื่มสุรามานาน อาจเป็นสาเหตุจากโรคตับอข็งที่ทำให้เลือดออกในทางเดินอาหารได้ และ ผู้ป่วยความดันเลือดเริ่มต่ำ หัวใจเต้นเร็วเป็นสิ่งที่บอกว่าอาจมีภาวะช็อคตามมาจากการสูญเสียเลือด ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตหากไม่ทำการรักษาโดยด่วน หากคนไข้ยังปฏิเสธการรักษาให้เซ็นต์ลงลายมือชื่อให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันความเสียหายในฐานะที่เราเป็นผู้ทำการรักษาครับ

สวัสดีครับ
ตากประวัติ พบว่า มีการอาเจียนเป็นเบือดค่อนข้างมาก สัญญาณชีพ เริ่มแสดงถึงการขาดเลือด หรือขาดน้ำ (หัวใจเต้นเร็ว) และเริ่มทีการเปลี่ยนแปลงของสติสัมปชัญญะ ซึ่งเป็นทัญญาณว่า อาจเกิดภาวะฉุกเฉิน อันตรายขึ้นได้ครับ
หากผู้ป่วยมาคนเดียว ควรทำการรักษาทันที
แต่กรณีมีญาติมาด้วย
ข้อแนะนำคือ
เนื่องจากผู้ป่วยสติสัมปชัญญะเปลี่ยนแปลงอาจต้องพูดคุยกับญาติผู้ดูแล ถึงความจำเป็นต่างๆที่ต้องรีบรับไว้ในรพ ครับ
ทั้งข้อดีข้อเสียของการไม่นอนรพ ด้วยครับ รวมถึงอาจต้องถามความคับข้องใจว่า ***เหตุใดจึงไม่อยากรักษา เพื่อร่วมกัยแก้ไขปัญหาอย่างตรวประเด็นครับ
นอกจากนี้ อาจต้องนำเสนอ ทางเลือกต่างๆ รวมถึง การรีบรักษาภาวะฉุกเฉินให้ผ่านพ้นไปก่อนครับ

แต่วุดท้าย หากผู้ป่วยและญาติมีความประสงค์ไม่ค้องการรักษาจริงๆ สาทารถช่วยรักษาแบบประคับประคองให้ถึงที่สุด และเคารพการตัดสินใจของผู้ป่วยครับ

สวัสดีครับ ไม่ใช่แพทย์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ นะครับ แต่จะขอตอบในฐานะแพทย์ครับ

การที่ผู้ป่วย มีสติไม่สมบูรณ์ อยู่ในภาวะเมา และการที่มีอาเจียนเป็นเลือด สัญญาณชีพผิดปกติ ถือว่าอยู่ในภาวะฉุกเฉินครับ

ไม่ต้องถามความคิดแพทย์ของผู้ป่วยครับ ควรเริ่มทำการรักษาได้ทันทีครับ

แพทย์จะสอบถามเกี่ยวกับอาการผิดปกติที่ผู้ป่วยพบในขั้นแรก เช่น เริ่มมีอาการเมื่อไหร่ อาเจียนเป็นเลือดมานานแค่ไหน ปริมาณเลือดที่อาเจียนออกมามากน้อยแค่ไหน สีของเลือดที่พบเป็นอย่างไร จากนั้นจะเป็นการสอบถามประวัติทางการแพทย์ เช่น การใช้ยา ชนิดและปริมาณยาที่รับประทาน โรคประจำตัว รวมไปถึงพฤติกรรมการดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อช่วยประเมินความผิดปกติก่อนพิจารณาการตรวจด้วยวิธีอื่นเพิ่มเติมตามความเสี่ยง