สวัสดีค่ะ พอดีหลังประจำเดือนมาเเล้วเกิดอาการคัน และตกขาวเป็นสีขาวเหลือง มีกลิ่น จึงไปซื้อยา เภสัชจ่ายยา tinidazole 3แผง แผงละสี่เม็ด (500mg/เม็ด) และยาฆ่าเชื้อราfluconazole 150 mg 1เม็ด อยากทราบการออกฤทธิ์อ่ะค่ะ เพราะตอนนี้ กินได้สองวัน ตกขาวเยอะ วันแรกจะเป็นน้ำๆสีขาวเหลือง วันที่สองเป็นครีมๆสีขาวเหลือง เหมือนมันขับออกมา แต่ไม่มีอาการคันและไม่มีกลิ่นเเล้วค่ะ

อาการคนไข้ ที่เจอบ่อยคือเชื้อเเบคทีเรียหรือโปรโตซัว เช่น Trichomonas ครับ
อาการของTrichomoniasis คือมีตกขาว เหลืองเขียว (บางคนเป็นสีขาวหรือเทาก็ได้) มีฟอง มีกลิ่นเหม็นคันช่องคลอด อาจมีเลือดปนได้ครับ
การรักษาคือการกินยา Tinidazole หรือ Metronidazole ครับ
ส่วนFluconazole นั้นเป็นยาฆ่าเชื้อรา ซึ่งถ้าตกขาวที่เป็นเชื้อรา
ตกขาว ขาวข้นเป็นก้อนคล้ายๆนมบูดมากกว่าครับ (ไม่ค่อยเหมือนอาการคนไข้)

ดังนั้นเบื้องต้นหมอว่ากิน Tinidazole เเล้วสังเกตอาการก่อนก็ได้ครับว่าดีขึ้นหรือไม่
(ระวังเรื่องเเพ้ยา เช่น ผื่นขึ้น ปากลอก หอบ ให้หยุดใช้ยาเเล้วพบเเพทย์ครับ)
ส่วนถ้ากินFluconazoleไปเเล้ว ก็ไม่เป็นไรครับ

ถ้ามีเวลาก็ควรหาเวลาพบสูตินรีเเพทย์ เพื่อตรวจภายในยืนยันครับ
ถ้าเป็นบ่อยๆไม่หายอาจเกิดได้จาก
- กินยาไม่ครบ เหน็บยาไม่ครบ กินยาไม่ตรงเชื้อ ใส่กางเกงรัดเเน่นอับชื้น มีพฤติกรรมสวนล้างช่องคลอดตลอดครับ ให้งดพฤติกรรมเหล่านี้ครับ
- ติดเชื้อจากคู่นอน เเฟนคุณอาจจะมีเชื้ออยู่โดยที่เคยติดจากคุณเเต่ไม่เเสดงอาการ พอมีเพศสัมพันธ์ก็ติดไปยังคุณ ทางเเก้คือ พาเเฟนไปตรวจด้วยครับ เเล้วรักษาทั้งเเฟนคุณเเละตัวคุณด้วยครับ

สวัสดีครับ
ยา Tinidazole นั้นเป็นยาสำหรับการรักษาการติดเชื้อโปรโต.ัวทริโคโมแนสในช่องคลอดและโรคแบคทีเรียในช่องคลอดเสียสมดุล (Bacterial vaginosis) ครับ ส่วนยา Fluconazole นั้นจะเป็นยาสำหรับการรักษาการติดเชื้อราในช่องคลอด ซึ่งหลังจากรับประทานไปแล้วก็อาจต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 วันก่อนที่อาการตกขาวจะหายไปครับ

อย่างไรก็ตามถ้าหากตกขาวที่ผิดปกตินั้นเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น การติดเชื้อแบคทีเรียฟรือโรคหนองในก็จะไม่สามารถใช้ยา 2 ชนิดนี้ในการรักษาได้ครับ ถ้าหากรับประทานยาที่ได้รับมาจากเภสัชกรแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจภายในดูลักษณะตกขาวให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ