August 31, 2019 19:29
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์โดยการหลั่งนอกนั้นอาจมีอสุจิที่ปนอยู่ในน้ำหล่อลื่นของผู้ชายหลุดลอดเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ทำให้มีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ 4-27% ครับ
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรหายาคุมฉุกเฉินมารับประทานให้เร็วที่สุดก่อน โดยให้รับประทานภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ก็จะช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์ลงได้ 75-85% แต่ถ้าหากเลยช่วงเวลาดังกล่าวไปแล้วก็ยังอนุโลมให้รับประทานภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ แต่ประสิทธิภาพของยาก็จะลดลงไปเรื่อยๆตามเวลาที่ผ่านไปครับ
และในครั้งต่อไปที่จะมีเพศสัมพันธ์อีกก็ควรมีการป้องกันทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
จะป้องกันได้ไหมถ้ากินแล้ว
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
การหลั่งนอกเป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพต่ำค่ะ โดยทั่วไปถือว่ามีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 22%
เมื่อเทียบกับการใช้ถุงยางอนามัย ที่ถ้าใช้ถูกต้องและไม่มีปัญหารั่วซึมหรือฉีกขาด ที่จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 2% ก็จะเห็นได้ว่าแฟนของผู้ถามมีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้สูงกว่าหลายเท่านะคะ
..
..
..
ดังนั้น หากผู้ถามและแฟนยังไม่พร้อมจะมีบุตร และยังไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ แนะนำให้คุมกำเนิดฉุกเฉินเพื่อลดความเสี่ยงดังกล่าวให้น้อยลงค่ะ โดยมี 2 ทางเลือก คือ
1. รับประทานยาคุมฉุกเฉินทันที หรือเร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์
สามารถรับประทานแบบครบขนาดในครั้งเดียวได้เลยนะคะ นั่นคือ ถ้าใช้ยี่ห้อที่มีแผงละ 2 เม็ด ก็รับประทาน 2 เม็ดพร้อมกันในครั้งเดียว หรือถ้าใช้ยี่ห้อที่มีแผงละ 1 เม็ด ก็รับประทานเม็ดเดียวครั้งเดียวค่ะ
หากใช้ครบขนาดและทันเวลา อาจลดความเสี่ยงให้เป็น 15 - 25% แต่วิธีนี้ไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องหลังรับประทานนะคะ
2. ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อใส่ห่วงอนามัยชนิดหุ้มทองแดง ภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์
วิธีนี้มีประสิทธิภาพสูงมาก ผู้ใช้มีโอกาสตั้งครรภ์ 0.6 - 0.8% เท่านั้น และมีผลคุมต่อเนื่องได้นาน 3 - 10 ปีค่ะ
แต่อาจไม่มีห่วงอนามัยชนิดนี้ไว้บริการในโรงพยาบาลทุกแห่ง ดังนั้น หากสนใจ ควรโทรศัพท์สอบถามโดยตรงที่โรงพยาบาลตามสิทธิ์การรักษา หรือโรงพยาบาลที่สะดวกจะไปรับบริการ (เพราะต้องรีบใส่ภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์) ก่อนนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
ถ้ามีการสอดใส่ หรือไม่มีการป้องกัน ก็จะมีโอกาสในการตั้งครรภ์ได้ครับ
โดยการมีเพศสัมพันธ์ด้วยวิธีหลั่งข้างนอก จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ประมาณ 20%
แนะนำให้รับประทานยาคุมฉุกเฉินให้เร็วที่สุดหลังมีเพศสัมพันธ์ (ทานอย่างช้าไม่ควรเกิน72ชั่วโมง ช้าสุด120ชั่วโมงครับ) เพื่อลดโอกาสการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ครับ
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน มีสองแบบครับ คือ
-แบบฮอร์โมนเดี่ยว จะรับประทานครั้งละ 2 เม็ดพร้อมกัน
-แบบฮอร์โมนคู่ จะรับประทานสองครั้ง ห่างกัน12ชั่วโมง
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ส่วนใหญ่มีประสิทธิภาพประมาณเกือบ 90% หากทานถูกวิธีภายในวันแรกครับ ประสิทธิภาพจะลดลงเรื่อยๆตามเวลาที่ทานครับ
อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์หลังมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุด 2 สัปดาห์ และ ให้ตรวจซ้ำอีกครั้งใน 1 สัปดาห์ต่อมาแม้ผลปกติครับ
และแนะนำให้คุมกำเนิดก่อนมีเพศสัมพันธ์จะดีกว่าครับ เช่น ยาคุม ยาฝัง และใช้ถุงยางอนามัยครับ
เพราะยาคุมฉุกเฉินจะจะทำให้สภาพแวดล้อมของเยื่อบุโพรงมดลูกเปลี่ยนแปลง ไม่ให้เกิดการปฏิสนธิหรือไม่ให้เกิดการฝังตัว และทำให้มีผลต่อฮอร์โมน ผู้ใช้อาจมี ประจำเดือนผิดปกติ คลื่นไส้ ถ้าใช้บ่อยเพิ่มความเสี่ยงตั้งครรภ์นอกมดลูกได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
สุวพัชญ์ พิศาลมงคล (นพ.)
สวัสดีครับ
มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ครับ
เพราะการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันถึงแม้ไม่ได้หลั่งภายใน แต่สารคัดหลั่งที่ออกจากอวัยวะเพศชายสามารถพบอสุจิได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ถ้าหากรับประทานยาคุมฉุกเฉินในช่วงเวลาที่หมอแนะนำไปก็จะช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์ลงได้ 75-85% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
แล้วต้องกินนานแค่ไหนอะครับ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
"จะป้องกันได้ไหมถ้ากินแล้ว"
ไม่มีวิธีคุมกำเนิดใดที่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% นะคะ แต่ความเสี่ยงจะมากหรือน้อยก็ขึ้นกับประสิทธิภาพของแต่ละวิธีที่เลือกใช้ เช่น ถ้าไม่ป้องกันใด ๆ เพิ่มเติมเลย แฟนของผู้ถามก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 22% ตามวิธีหลั่งนอกค่ะ
แต่ถ้ารับประทานยาคุมฉุกเฉินเร็วและครบขนาด อาจช่วยลดความเสี่ยงดังกล่าวลงมาเป็น 15% แทนได้
หรือถ้ามีการใส่ห่วงอนามัยชนิดหุ้มทองแดงภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ ความเสี่ยงก็จะลดลงมากจนไม่น่ากังวล เพราะผู้ใช้จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 0.6 - 0.8% เท่านั้นค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
การรับประทานยาคุมฉุกเฉินนั้นให้รับประทานเพียงครั้งเดียวพอครับ โดยควรรับประทานให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ภายในเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์เพื่อที่จะช่วยลดโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ลง 75-85% แต่ถ้าหากเลยช่วงเวลาดังกล่าวไปแล้วก็ยังอนุโลมให้รับประทานภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ แต่ประสิทธิภาพของยาก็จะลดลงไปเรื่อยๆตามเวลาที่ผ่านไปครับ
โดยทั่วไปแล้วในยาคุมฉุกเฉิน 1 แผงจะมียา 2 เม็ด สามารถรับประทานได้ 2 วิธี คือ
1. รับประทานพร้อมกันทีเดียว 2 เม็ด
2. รับประทานทีละ 1 เม็ดห่างกัน 12 ชั่วโมง
ซึ่งจะเลือกรับประทานยาด้วยวิธีใดก็ได้เพราะประสิทธิภาพของยาจะเท่ากันครับ แต่การรับประทานในรูปแบบ 2 เม็ดพร้อมกันอาจมีข้อดีเหนือกว่าตรงที่ไม่ต้องกังวลว่าจะลืมรับประทานยาเม็ดที่ 2
แต่ก็อาจมียาคุมฉุกเฉินบางยี่ห้อที่มียา 1 เม็ดในแผงเดียว ก็สามารถรับประทานยาเม็ดนั้นเม็ดเดียวได้เลยครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
"แล้วต้องกินนานแค่ไหนอะครับ"
ยาคุมฉุกเฉินไม่ต้องรับประทานต่อเนื่องทุกวันเหมือนกับยาคุมรายเดือนค่ะ ดังนั้น ไม่ว่ายาคุมฉุกเฉินที่ใช้จะมีแผงละ 2 เม็ดหรือแผงละ 1 เม็ดก็ตาม เมื่อใช้ครบ 1 แผงก็ถือว่าใช้ครบขนาดแล้ว จึงไม่จำเป็นจะต้องรับประทานเพิ่มอีกนะคะ
แต่ยาคุมฉุกเฉินไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องหลังรับประทานค่ะ ดังนั้น หากจะมีเพศสัมพันธ์อีก ก็ต้องใช้ถุงยางป้องกันทุกครั้งนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมอครับ. ผมมีเพศสัมพันธ์. แต่ไม่ได้ใส่ถุงยาง. แต่ว่า. ผมมีเซ็กก้จริงแต่ไม่ได้หลั่งครั้งในแม้แต่น้อย. พอรู้สึกว่าจะเสร็จ. ก้เอาออกมาหลั่งด้านนอก. แล้วไปล้าง. ทำแบบนี้2ครั้ง. จะท้องไหมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)