February 20, 2018 09:36
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
อาการดังกล่าวอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
1.ระบบหัวใจและหลอดเลือด เช่น ภาวะเลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่เพียงพอ โดยมักมีอาการมากเวลาทำงาน เวลาออกกำลังกาย เวลาเหนื่อย เมื่อหยุดพักอาการจะดีขึ้น
2.ระบบกล้ามเนื้อ เช่น การยอกของกล้ามเนื้อบริเวณหน้าอก ใต้รักแร้ อาการปวดมักจะสัมพันธ์กับการเคลื่อนไหวแขน และเมื่อต้องออกแรงโดยใช้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าอก
3.ระบบกระเพาะอาหาร มักจะมีอาการปวดบริเวณลิ้นปี่ อาการมักเป็นมากเมื่อท้องหิวหรือกินอาหารรสจัด หรือเกิดจากภาวะกรดไหลย้อนเป็นต้น
4.สาเหตุอื่นๆ เช่น ต่อมน้ำเหลืองใต้รักแร้อักเสบ เนื้องอกบริเวณใต้รักแร้หรือหน้าอก อาการมักจะคลำเจอก้อน และมักมีอาการปวด บวมแดง ร่วมด้วย
ดังนั้นเพื่อความชัวร์ควรไปพบแพทย์ตรวจร่างกาย ฟังเสียงเต้นของหัวใจ เสียงการหายใจ คลำตรวจต่อมน้ำเหลือง เนื้องอกการตึงตัวหรือการอักเสบของเนื้อเยื่อ ร่วมกับการตรวจอื่นๆ เช่น การตรวจคลื่นหัวใจไฟฟ้า เป็นต้น ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
สวัสดีค่ะคุณหมอ หนูมีอาการเจ็บบริเวณใต้รักแร้ข้างซ้าย และข้างรักแร้เยื้องมาด้านหน้า ลักษณะคือเจ็บจี๊ดๆ หรือบางทีปวดนื๊ดๆ อาการเป็นเเค่เวลาสั้นๆค่ะ เมื่อก่อนก็จะเป็นไม่บ่อยเท่าไหร่แต่ช่วงนี้มีอาการถี่มากขึ้น กดไม่เจ็บ ลองคลำดูใต้รักแร้ไม่มีอาการบวมแดง และคลำๆดูไม่พบก้อนค่ะ หนูอายุ 23 ปี เคยไปตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจตอนเดือนธันวาคมที่ผ่านมามีผลปกติค่ะ อยากทราบว่าอาการแบบนี้เกิดจากสาเหตุใดคะ อันตรายรึเปล่า ขอบพระคุณมากค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)