April 19, 2018 03:19
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ยาคุมฉุกเฉินที่มีจำหน่ายในปัจจุบันมี 2 รูปแบบนะคะ
1. ชนิดที่มีตัวยา Levonorgestrel เม็ดละ 0.75 มิลลิกรัม จำนวน 2 เม็ด ได้แก่ ยี่ห้อ โพสตินอร์, มาดอนนา, แมรี่ พิงค์, นอร์แพ็ก และ เลดี้นอร์
2. ชนิดที่มีตัวยา Levonorgestrel เม็ดละ 1.5 มิลลิกรัม จำนวน 1 เม็ด ได้แก่ ยี่ห้อ เมเปิ้ล ฟอร์ท
วิธีรับประทาน สามารถทำได้ 2 แบบค่ะ
1. รับประทานครั้งละ 0.75 มิลลิกรัม จำนวน 2 ครั้ง ห่างกัน 12 ชั่วโมง
2. รับประทานครั้งละ 1.5 มิลลิกรัม ครั้งเดียว
ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อใด หรือรับประทานแบบใด มีประสิทธิภาพและผลข้างเคียงไม่ต่างกันค่ะ และต้องรับประทานโดยเร็วหลังมีเพศสัมพันธ์ อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ แต่ถ้าใช้เร็วจะมีประสิทธิภาพดีกว่า (อัตราการตั้งครรภ์เมื่อใช้ภายใน 72 ชั่วโมงแรกหลังมีเพศสัมพันธ์ ต่ำกว่าการใช้เมื่อ 72 - 120 ชั่วโมงอย่างชัดเจน)
ดังนั้น ในกรณีที่ซื้อยาคุมฉุกเฉินชนิดที่มีแผงละ 2 เม็ดมาใช้ และต้องการรับประทานแยก 2 ครั้ง ก็รับประทานห่างกัน 12 ชั่วโมง คือ 15.13 น. และ 03.13 น. ถูกต้องแล้วค่ะ และเนื่องจากยาทั้ง 2 เม็ดในแผงมีตัวยาเหมือนกันและปริมาณยาเท่ากัน ดังนั้น จะหยิบเม็ดใดขึ้นมาใช้ก่อนก็ได้
หรือจะรับประทานพร้อมกัน 2 เม็ดในครั้งเดียวเลยก็ได้นะคะ เพื่อความสะดวกในการใช้ และจะได้มั่นใจว่าจะไม่ลืมรับประทานยาเม็ดที่ 2 อย่างแน่นอน เนื่องจากหากรับประทานไม่ครบขนาด จะไม่มีผลในการคุมกำเนิดฉุกเฉินค่ะ
ยาคุมฉุกเฉินอาจทำให้คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ แต่อาการไม่รุนแรงและหายเองได้ นอกจากนี้อาจพบเลือดออกกะปริบกะปรอยภายใน 7 วันหลังรับประทานยา ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพียงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น หรืออาจไม่เกิดขึ้นก็ได้จากการใช้ยาคุมฉุกเฉิน ดังนั้น หากมีอาการ หรือไม่มีอาการดังที่กล่าวมา ไม่ต้องตกใจ เพราะไม่ใช่สิ่งที่บ่งชี้ว่าจะมีการตั้งครรภ์หรือไม่ตั้งครรภ์เลยค่ะ เป็นเพียงแค่ผลข้างเคียงจากยาเท่านั้น
และยาคุมฉุกเฉินไม่ใช่ยาเร่งประจำเดือนนะคะ ดังนั้น ไม่จำเป็นว่าเมื่อใช้แล้วจะต้องมีประจำเดือนออกมาภายใน 7 วันหลังรับประทานยา จากที่มีการศึกษาผลกระทบจากการใช้ยาคุมฉุกเฉิน พบว่า มากกว่า 90% ของผู้ใช้ จะมีประจำเดือนมาตรงตามรอบ หรือไม่ก็คลาดเคลื่อนจากปกติไม่เกิน 4 วัน และกลับมาเป็นปกติในรอบเดือนถัดไปค่ะ
ยาคุมฉุกเฉินไม่ใช่วิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง ใช้แล้วยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% ดังนั้น ควรใช้เฉพาะกรณีฉุกเฉินจริง ๆ เช่น ถูกข่มขืน หรือเกิดความผิดพลาดจากการคุมกำเนิดด้วยวิธีปกติ เช่น ใส่ถุงยางแล้วถุงยางฉีกขาด, ใช้ยาคุมรายเดือนแต่ลืมรับประทานยา, ฉีดยาคุมและลืมฉีดตามนัด เป็นต้น หากนำยาคุมฉุกเฉินมาใช้บ่อย ๆ หรือใช้แทนวิธีคุมกำเนิดปกติ จะมีโอกาสตั้งครรภ์มากกว่าหลายเท่าค่ะ
ยาคุมฉุกเฉินไม่มีผลคุมกำเนิดไปข้างหน้า และหากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ป้องกันซ้ำอีกในรอบเดือนเดียวกันที่มีการใช้ยาคุมฉุกเฉินไปแล้ว จะมีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์เพิ่มขึ้นหลายเท่า ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ป้องกันซ้ำอีกหลังรับประทานยานะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
สอบถามค่ะ ถ้าทานยาคุมฉุกเฉินเม็ดแรกเวลา 15:13นาที เม็ดที่2 ห่างจากเม็ดแรก12ชั่วโมงคือ 03:13 ถูกต้องไหมค่ะ แล้วยาคุมฉุกเฉินที่อยู่ในแผงหยิบเม็ดไหนขึ้นมาทานก่อนก็ได้หรือป่าวค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)