December 11, 2018 21:07
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ในการรับประทานยาคุมฉุกเฉินนั้นอาจมีผลข้างเคียงทำให้มีอาการคลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง ปวดศีรษะ คัดตึงเต้านม มีตกขาวมากขึ้น และมีเลือดออกกระปริดกระปรอยระหว่างรอบเดือนได้ครับ ซึ่งผลข้างเคียงเหล่านี้จะเป็นมากหรือน้อยนั้นจะขึ้นอยู่กับความไวต่อยาของแต่ละบุคคล ไม่สามารถคาดคะเนได้ครับ
ส่วนประจำเดือนหลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินนั้นอาจมีการคลาดเคลื่อนได้ประมาณ 4-5 วันสำหรับคนที่มีประจำเดือนมาสม่ำเสมอ หรืออาจคลาดเคลื่อนได้มากกว่านี้ถ้าหากเป็นคนที่มีประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอครับ
ในกรณีที่เกิดอาการปวดศีรษะ ปวดท้องจากผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินก็สามารถรับประทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการในเบื้องต้นได้ครับ แต่ถ้าหากอาการปวดเป็นรุนแรงมาก ก็แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมครับ ส่วนยาปฏิชีวนะนั้นไม่แนะนำให้รับประทานเนื่องจากไม่ใช่ยาที่ใช้สำหรับแก้ปวดครับ
ถ้าหากที่ผ่านมาได้มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันไป หมอก็แนะนำให้รีบรับประทานยาคุมฉุกเฉินให้เร็วที่สุดโดยไม่ต้องกังวลเรื่องผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นครับ เนื่องจากการรับประทานยาคุมฉุกเฉินจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ลงได้ 75-85% หากรับประทานภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ แต่ถ้าหากเลยช่วงเวลาดังกล่าวไปแล้วก็ยังอนุโลมให้รับประทานภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ แต่ประสิทธิภาพของยาก็จะลดลงไปเรื่อยๆตามเวลาที่ผ่านไปครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ขอบคุณค่ะ แล้วถ้าหากคิดว่าไม่ได้ตั้งครรภ์แน่ๆ แต่ทานยาคุมฉุกเฉินเพื่อกันเอาไว้ก่อน ผลข้างเคียงจะเหมือนกันมั้ยคะ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ถ้าเช่นนั้นหมอขอทราบรายละเอียดของการมีเพศสัมพันธ์ครั้งที่ผ่านมาก่อนครับว่าได้มีการป้องกันการตั้งครรภ์ด้วยวิธีใด เพื่อให้สามารถประเมินความเสี่ยงของการตั้งครรภ์ได้อย่างถูกต้องครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ยาคุมฉุกเฉินที่มีจำหน่ายในประเทศไทยในปัจจุบัน มี 2 ชนิดนะคะ ก็คือแบบที่มีแผงละ 2 เม็ด และแบบที่มีแผงละ 1 เม็ด ซึ่งทั้งสองชนิดก็มีตัวยาเดียวกัน และมีปริมาณยารวมทั้งแผงเท่ากันค่ะ
เปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายก็เหมือนกับ "เหรียญ 1 บาท 2 เหรียญ" กับ "เหรียญ 2 บาท 1 เหรียญ" นั่นเอง
ซึ่งวิธีรับประทานแบบดั้งเดิม จะแนะนำให้ใช้ยาคุมแบบแผงละ 2 เม็ด โดยแบ่งรับประทานเป็น 2 ครั้ง ห่างกัน 12 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม วิธีรับประทานแบบใหม่ แนะนำให้รับประทานครบขนาดในครั้งเดียวค่ะ นั่นคือ ถ้าใช้ยี่ห้อที่มีแผงละ 2 เม็ด ก็รับประทาน 2 เม็ดพร้อมกันในครั้งเดียว หรือถ้าใช้ยี่ห้อที่มีแผงละ 1 เม็ด ก็รับประทานเม็ดเดียวครั้งเดียว
ซึ่งมีงานวิจัยที่ชี้ว่า ไม่ว่าจะรับประทานแบบใด ผลข้างเคียงก็ไม่แตกต่างกันค่ะ นั่นคือ อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ เจ็บคัดตึงเต้านม และมีเลือดออกกะปริบกะปรอยได้ แต่ก็ไม่รุนแรงและเป็นอยู่ไม่นานก็จะหายไปเอง
ส่วนประสิทธิภาพในการใช้ งานวิจัยที่กล่าวมาข้างต้นชี้ว่าทั้งสองวิธีมีประสิทธิภาพไม่ต่างกันนะคะ นั่นคือ ผู้ใช้ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% อย่างไรก็ตาม งานวิจัยใหม่ ๆ กลับชี้ว่าการใช้แบบครบขนาดในครั้งเดียว มีแนวโน้มที่จะมีประสิทธิภาพดีกว่า เนื่องจากได้ระดับยาในเลือดสูงพอที่จะยับยั้งไข่ตกได้เร็วกว่า อีกทั้งยังสะดวกในการใช้ ไม่ต้องกังวลว่าจะลืมรับประทานครั้งที่สองอีกด้วย
ดังนั้น ผู้ถามสามารถใช้ยาคุมฉุกเฉินแบบที่มีแผงละ 1 เม็ด ที่มีอยู่ได้เลยนะคะ ไม่ต้องกังวลมาก เพราะผู้ใช้เพียงแค่ 1 ใน 5 ที่จะพบผลข้างเคียงจากยาค่ะ และแม้จะพบ อาการก็ไม่รุนแรงและเป็นอยู่ไม่นานค่ะ
ถ้ามีอาการปวดศีรษะ สามารถรับประทานยาพาราเซตามอลซึ่งเป็นยาสามัญประจำบ้านเพื่อบรรเทาอาการได้ค่ะ ถ้าไม่ได้แพ้ยาพาราเซตามอล ส่วนยาปฏิชีวนะ ไม่ใช่ยาสามัญประจำบ้านนะคะ ไม่แนะนำให้ใช้เองค่ะ
สิ่งที่ผู้ถามควรกังวลก็คือ ประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินไม่ได้สูงมากนะคะ เทียบกับการคุมกำเนิดด้วยวิธีมาตรฐานแล้วถือว่าเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้มากกว่าหลายเท่า แต่เมื่อจำเป็นก็ต้องใช้ค่ะ และรอดูว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติหรือเปล่า ถ้าไม่มี ก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
"ถ้าหากคิดว่าไม่ได้ตั้งครรภ์แน่ๆ แต่ทานยาคุมฉุกเฉินเพื่อกันเอาไว้ก่อน ผลข้างเคียงจะเหมือนกันมั้ยคะ?"
ผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉิน ไม่ได้ขึ้นกับความเสี่ยงของการตั้งครรภ์ค่ะ นั่นคือ ต่อให้ผู้ถามจะเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์หรือไม่ เมื่อรับประทานยาคุมฉุกเฉินก็มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงจากยาได้ไม่ต่างกัน
แต่หากมีการป้องกันดีแล้ว เช่น ใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกต้อง และไม่มีการรั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมากค่ะ คือเพียง 2% จึงไม่จำเป็นจะต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินเพิ่มนะคะ เพราะแม้ผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินจะไม่มีอันตรายรุนแรงหรือถาวร แต่ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะใช้ค่ะ เนื่องจากความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ต่ำกว่าการใช้ยาคุมฉุกเฉินอยู่แล้ว
แต่ถ้าการป้องกันของผู้ถามคือ การนับวันปลอดภัย (หน้า 7 - หลัง 7) จะมีโอกาสผิดพลาดและตั้งครรภ์ได้ 24% นะคะ หรือถ้าป้องกันด้วยการหลั่งนอก จะมีโอกาสผิดพลาดและตั้งครรภ์ได้ 22% ค่ะ จะเห็นได้ว่าความเสี่ยงยังสูงมาก และการใช้ยาคุมฉุกเฉินโดยเร็วและครบขนาด อาจช่วยลดความเสี่ยงลงมาเป็น 15% แทนได้นะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
มีเพศสัมพันธ์รอบแรก ใส่ถุงยาง แฟนเสร็จแต่ว่า ตอนที่เขาเสร็จ เขาดึงของเขาออกในขณะที่สวมถุงยางค่ะ (ทำแบบนี้ประจำเพราะกลัวจะมีอะไรผิดพลาด) แล้วก็พักประมาณครึ่งชั่วโมง ก็ทำรอบ2ค่ะ ใส่ถุงยาง แต่ตอนที่เขาดึงออก ถุงยางมันหลุดอยู่ในช่องคลอด แต่อยู่ต้นๆค่ะ ไม่ลึกเลย ฝ่ายชายก็ยังไม่เสร็จ ตรวจถุงยางดูแล้ว ไม่ขาด ไม่รั่ว คิดว่าถุงน่าจะหลุดตอนเขาดึงออก เพราะดึงค่อนข้างแรง
ก็เลยเกิดความกังวลค่ะว่าจะเป็นอะไรมั้ย ที่อวัยวะเพศฝ่ายชายก็ไม่มีน้ำอะไรด้วยค่ะ แต่ก็ยังกังวลกันอยู่
ขอบคุณทั้ง2ท่านที่เข้ามาให้คำตอบและความรู้นะคะ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
การมีเพศสัมพันธ์โดยการใช้ถุงยางอนามัยนั้นมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ประมาณ 2-15% ขึ้นอยู่กับความถูกต้องในการใช้งานครับ ถ้าหากใช้ได้อย่างถูกต้องไม่มีการแตกรั่วโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ก็จะมีเพียง 2% แต่ถ้าหากมีความผิดพลาดในการใช้งานเช่นในกรณีนี้ที่ถุงยางอนามัยหลุดโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ก็จะค่อนไปทางสูงมากขึ้นครับ
ในกรณีนี้อาจไม่ได้เป็นข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนที่จำเป็นต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินครับ เนื่องจากตอนที่ถุงยางอนามัยหลุดนั้นยังไม่มีการหลั่งและถุงยางอนามัยก็ไม่ได้มีการแตกรั่ว ในกรณีนี้จะรับประทานยาคุมฉุกเฉินหรือไม่นั้นหมอแนะนำให้ลองเปรียบเทียบระหว่างประโยชน์ที่จะไดรับ คือ ยาคุมฉุกเฉินจะช่วยลดโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ลง 75-85% กับ ความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินดูครับ ถ้าหากคิดว่าประโยชน์ที่จะได้รับนั้นไม่คุ้มค่าก็ไม่จำเป็นต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินครับ
ส่วนผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินนั้นไม่ว่าจะรับประทานยาคุมฉุกเฉินโดยมีความจำเป็นหรือไม่ก็จะเกิดผลข้างเคียงในลักษณะเดียวกันได้เสมอครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
แฟนซื้อยาคุมฉุกเฉินแบบเม็ดเดียวมาให้เราทาน ไม่ทราบว่าพวกอาการข้างเคียง เช่น ปวดหัว อาเจียน คลื่นไส้ หรือประจำเดือนคลาดเคลื่อน จะเป็นหนักมากน้อยแค่ไหนคะ ไม่เคยทานยาคุมฉุกเฉินหรือรายเดือนมาก่อนเลยค่ะ กลัวจะเป็นหนักตอนอยู่นอกบ้าน แล้วถ้าหากมีอาการปวดหัว ปวดท้อง ที่เ็นผลข้างเคียงของยา สามารถทานยาปฏิชีวนะ ยาสามัญประจำบ้านได้ปกติมั้ยคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)