February 07, 2017 14:39
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
ต้องทำใจค่ะ โรคภัยไข้เจ็บเกิดขึ้นได้กับทุกคน เราต้องยอมรับในอาการเจ็บป่วยและสู้กับมัน หาวิธีการรักษาบรรเทาอาการปวดแล้วเราจะอยู่กับมันได้โดยไม่ทุกข์ค่ะ แต่หากเมื่อใดที่เราคาดหวังว่าร่างกายจะต้องสมบูรณ์พร้อม ไม่เจ็บไม่ปวด ไม่มีโรคใดๆมันจะทำให้เรามีความทุกข์เพราะสิ่งที่เราคาดหวังมันสวนทางกับความเป็นจริงค่ะ คิดเสียว่าเราป่วยแค่เล็กน้อย คนอื่นๆอีกหลายๆคนเป็นโรคที่ไม่มีทางรักษามันแย่กว่าเราตั้งหลายเท่าเนอะ ..เป็นกำลังใจให้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
วลีรักษ์ จันทร (พว.)
อาการปวดหัวแต่ละประเภทมักมีลักษณะการปวดที่แตกต่างกันออกไป เช่น อาการปวดหัวไมเกรนเป็นการปวดตุบ ๆ ที่ศีรษะข้างใดข้างหนึง อาการปวดหัวจากกล้ามเนื้อเกร็งตัวจะมีอาการปวดเหมือนโดนบีบรัดค่อนไปทางขมับและหน้าผาก โดยมักปวดทั่วทั้งศีรษะ หรืออาการปวดคลัสเตอร์เป็นอาการปวดอย่างรุนแรงบริเวณเบ้าตาหรือด้านหลังตา ทั้งนี้ ความถี่และความรุนแรงของอาการปวดหัวจะเป็นไปตามสาเหตุของอาการปวดหัวแต่ละประเภท และตำแหน่งที่ปวดอาจเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของใบหน้า กะโหลก หรือทั้งศีรษะ
อาการปวดหัวมีทั้งแบบที่รักษาได้และไม่หายขาด โดยรักษาตามสาเหตุเป็นหลัก ซึ่งแพทย์จำเป็นต้องค้นหาสาเหตุที่แท้จริงให้พบก่อนรักษา และต้องดูปัจจัยอื่นของผู้ป่วยประกอบด้วย เช่น อายุของผู้ป่วย สุขภาพโดยรวมและประวัติทางการแพทย์ ระยะเวลาและความรุนแรงของอาการปวดหัว การตอบสนองต่อการรักษา หรือความต้องการของผู้ป่วย
ผู้ที่มีอาการปวดหัวทั่วไปสามารถดูแลตนเองได้จากที่บ้านโดยพยายามพักผ่อนให้เพียงพอ หากิจกรรมทำแก้เครียด ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ออกกำลังกายเป็นประจำ รับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน รับประทานยาแก้ปวดได้ในเบื้องต้น เช่น ยาพาราเซตามอล (Paracetamol) หรือยาไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) แต่ไม่ควรซื้อยาแอสไพริน (Aspirin) รับประทานเองเพราะมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงสูง หากมีอาการปวดรุนแรงหรือปวดในลักษณะอื่นจนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ควรรีบพบแพทย์ เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง
ปวดขามักมีลักษณะอาการและบริเวณที่ต่างกันไป โดยอาจรู้สึกปวดเสียด หรือปวดแสบบริเวณต้นขา หน้าแข้ง หรือน่อง การปวดขาอาจเกิดขึ้นเป็นพัก ๆ หรือต่อเนื่อง และอาจดีขึ้นได้เองขณะพัก หรืออาจมีอาการอื่นเกิดขึ้นร่วมด้วย เช่น เหน็บชา ตะคริว ปวดร้าว หรือปวดตุบ ๆ เป็นต้น
อาการปวดขาอาจเป็นสัญญาณของโรคต่าง ๆ ผู้ป่วยจึงควรพบแพทย์หากมีอาการดังต่อไปนี้ เพื่อรับการรักษาและป้องกันการพัฒนาของอาการที่อาจเกิดขึ้น
-ปวดขามากขึ้นเรื่อย ๆ
- ปวดขาขณะทำหรือหลังทำกิจกรรม เช่น การเดิน
-ขาบวม หรือมีเส้นเลือดขอด
- ปวดต้นขาขณะนั่งเป็นเวลานาน
-ขาเริ่มซีด ฟกช้ำ บวม หรือเย็นผิดปกติ
-มีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ
-มีสัญญาณการติดเชื้อ เช่น มีไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส บริเวณที่ปวดเริ่มแดง กดแล้วเจ็บ
สัญญาณอันตรายที่ผู้ป่วยควรพบแพทย์ทันที ได้แก่
-เดินไม่ได้
-เจ็บหรือปวดต้นขามาก ประกอบกับอาการบวมแดง
-มีเสียงเปราะดังขึ้นที่ขาขณะเกิดอุบัติเหตุ
- มีบาดแผลรุนแรง เช่น ถูกของมีคมบาดจนเห็นเส้นเอ็นหรือกระดูก
ปวดหลัง (Backache) เป็นอาการปวดเมื่อย ตึง ร้าว หรือเจ็บที่หลัง สามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่บริเวณคอลงไปจนถึงก้นและขา ส่งผลมาจากหลายสาเหตุ เช่น กิจกรรมในชีวิตประจำวัน ยืน เดินหรือนั่งไม่ถูกท่า ยกของหนักเกินไป อุบัติเหตุ การกระแทก การเล่นกีฬา หรือเป็นผลมาจากโรคต่าง ๆ ปวดหลังเป็นอาการที่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ไม่ใช่แค่กับผู้สูงอายุเท่านั้นที่จะเผชิญกับอาการปวดหลัง แต่สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะคนวัยทำงาน
สาเหตุของอาการปวดหลัง
อาการปวดหลังสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น การทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน การทำท่าทางที่ไม่ถูกต้องสะสมเป็นเวลานาน การเคล็ดขัดยอก การตึง การอักเสบของกล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็นบริเวณหลัง ปัญหาของหมอนรองกระดูก ปัญหาของกระดูกสันหลังและเส้นประสาท ปัญหาจากโรค หรืออาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ซึ่งอาการปวดหลังจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของร่างกายและการดำเนินชีวิตประจำวัน
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปวดหัวปวดหลังขาอยู่บ่อยๆน่าเบื่อ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)