August 26, 2019 14:11
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
1.ไม่จำเป็นต้องกินยาสตรีครับ ไม่ได้ช่วยอะไรครับ
2.มะเร็งปากมดลูก อายุ 17 ปียังไม่เป็นครับ
ปกติถ้าอายุน้อยความเสี่ยงต่ำมากครับ เเต่ถ้ากังวลเเนะนำปรึกษาสูตินรีเเพทย์ ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกครับ ส่วนใหญ่ตรวจปีละครั้งครับ เเละมะเร็งชนิดนี้ โตช้าครับ หมายความว่าต่อให้เป็นจริงๆใช้เวลาเป็นปีปีกว่าจะลุกลาม ถ้าตรวจทุกปีไม่ต้องกังวลครับ
กรณีที่มีเพศสัมพันธ์ตั้งเเต่อายุน้อยก็ให้พิจารณาตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก (Pap smear) ครับ
(ทำในผู้หญิงทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป หรือ 3 ปีหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ขึ้นกับว่าเวลาใดถึงก่อน ควรเริ่มทำการตรวจแปปสเมียร์ หลังจากนั้นทำการตรวจทุก 1-2 ปี)
การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกควรเริ่มเมื่ออายุ21ปี โดยแบ่งตามกลุ่มอายุ ดังนี้
อายุน้อยกว่า 21 ปี ไม่ว่าจะเริ่มมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเมื่ออายุเท่าไร หรือมีปัจจัยเสียงมาก ก็ยังไม่ควรตรวจคัดกรอง เนื่องจากเชื้อมะเร็งปากมดลูกพบได้น้อย และยังสามารถหายได้เองภายใน1-2ปี
อายุ 21-29 ปี แนะนำให้ตรวจคัดกรองโดยวิธี cytology เพียงอย่างเดียวทุก3ปี โดยไม่มีความจำเป็นต้องตรวจ HPV testing
อายุ 30-65 ปีสามารถตรวจคัดกรองได้ 2 วิธี คือ
pap smear ร่วมกับ HPV testing หรือ ตรวจร่วมกันทุก5ปี
ถ้าpap smear อย่างเดียว ทุก3ปี
อายุ 65 ปีขึ้นไป สามารถหยุดการตรวจคัดกรองได้ ในกรณีที่ ผลPap smear ปกติ 3ครั้งติดต่อกัน แต่ในกรณีที่เคยมีประวัติมีความผิดปกติจากการตรวจคัดกรองมาก่อน(CIN2,CIN3,AIS) ควรทำการตรวจคัดกรองต่ออย่างน้อย20ปีครับ
3.เรื่องเลือดออก
อาจลองสังเกตอาการก่อนได้ถ้าเลือดไหลไม่มากเเล้ว ก็อาจจะเป็นเลือดที่ค้างอยู่ในมดลูกมีเยอะ
หรืออื่นๆ
- เป็นเลือดจากเเผลในช่องคลอด ที่มีการเสียดสีขณะมีเพศสัมพันธ์
- เลือดเก่าๆในมดลูก ที่ค้างจากรอบประจำเดือน สีน่าจะคล้ำหน่อย
ยกเว้นออกมากชุ่มผ้าอนามัย4-5ผืน ปวดท้องน้อยมากๆ ควรพบสูตินรีเเพทย์โดยเร็วครับ
3.เรื่องท้อง
โดยทั่วไปก็จะถือว่าตรวจพบว่าท้องได้ เมื่อประจำเดือนขาดครับ
...........
ถ้าจำประจำเดือนแม่น รู้รอบประจำเดือนตัวเองดี ก็จะง่ายครับ
เช่นถ้าเมนส์มาวันที่ 1 กพ. ปกติมาตรง 30 วัน
ถ้า 3 มีนา เมนส์ไม่มา ก็สามารถตรวจได้ครับ
............
แต่ถ้าจำไม่ได้ว่าเดือนก่อนเมนส์มาวันไหน
แนะนำว่าให้ตรวจถ้าเมนส์ไม่มาหลังจากมีเพศสัมพันธ์ กันไปแล้ว 2 สัปดาห์
เพราะว่าถ้าจะท้องได้ ก็คือต้องไข่ตกช่วงที่มีเพศสัมพันธ์กันพอดี ถ้านอกเหนือไปจากนั้น โอกาสท้องก็น้อยครับ
...........
ถ้าตรวจแล้วผลว่าไม่ท้อง แต่ยังสงสัย แนะนำให้รอ เพราะบางครั้งค่าของฮอร์โมนอาจจะยังไม่มากพอที่จะให้ผล positive ถ้ารอแล้วเมนส์ยังไม่มา อีกซักสัปดาห์ค่อยตรวจซ้ำ ไม่ควรรีบไปกินพวกยาขับเลือด-ยาสตรี เพราะถ้าเกิดท้องขึ้นมาแล้วจริงๆ ยาพวกนี้อาจจะมีผลต่อเด็กได้ครับ
...........
- ชุดตรวจมีหลากหลายครับ ในรายละเอียดอาจจะต่างกันบ้าง ให้ดูตามคำเเนะนำในกล่องน่าจะดีที่สุดแต่โดยทั้วไปก็คือให้ปัสสาวะใส่ภาชนะ จุ่มที่ทดสอบลงไประยะเวลาหนึ่ง เอาขึ้นมาตั้ง รอเวลา แล้วจึงอ่านผล
- วิธีการเก็บปัสสาวะตรวจก็มีผลต่อการแปลผลมาก
ผลจะแม่นที่สุดควรจะต้องเป็นปัสสาวะครั้งแรกตอนเช้าที่เพิ่งตื่นนอนมาเพราะจะเป็นปัสสาวะที่เข้มข้น ถ้ามี hCG อยู่ก็จะตรวจพบได้ง่ายกว่า
- ชุดตรวจส่วนใหญ่จะแสดงผลเป็นขีดๆ โดยขีดแรกเป็นเส้น control จะต้องขึ้นเสมอไม่ว่าจะท้องหรือไม่ ถ้าไม่ขึ้นแปลว่าที่ตรวจนั้นเสีย ส่วนขีดที่สองถึงจะเป็นตัวบอกว่ามี hCG อยู่
...........
ดังนั้น สองขีดคือท้อง
...........
ขีดเดียวคือไม่ท้อง ถ้าไม่มีซักขีดคือชุดตรวจเสียครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
ตกขาวปกติจะมีสีขาวใส และไม่มีกลิ่นครับ
ตกขาวที่มีสีหรือกลิ่น หรือมีเลือดปน มักเป็นตกขาวที่ผิดปกติครับ ซึ่งเกิดได้จากหลายอย่างครับ เช่น
- ตกขาวสีขาว เป็นก้อนเปียก มีกลิ่น คล้ายนมบูด และคัน อาจจะเกิดจากเชื้อราครับ
- ตกขาวสีขาวปนเทา กลิ่นคล้ายคาวปลา อาจจะเกิดจากการสวดล้างช่องคลอด ทำให้แบคทีเรียบริเวณช่องคลอดไม่สมดุลครับ
- ตกขาวสีเขียวปนเทา กลิ่นเหม็น มีฟองมาก และคัน อาจเกิดจากเชื้อปรสิต
-ตกขาวสีเหลือง/เขียว เจ็บ/คันรอบช่องคลอด หรือเจ็บขณะปัสสาวะหรือมีเพศสัมพันธ์ อาจเกิดจากเชื้อหนองในแท้หรือหนองในเทียม
-ตกขาวปนเลือด สามารถเป็นได้จากหลายสาเหตุครับ
เช่น ก่อนประจำเดือนมา อาจเป็นอาการปกติได้ เพราะมีการหลุดลอกของเยื่อยุโพรงมดลูก
, ติดเชื้อในโพรงมดลูก มดลูกอักเสบ หรือเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่
เป็นต้นครับ
เบื้องต้น งดสวดล้างช่องคลอด งดมีเพศสัมพันธ์ ดื่มน้ำมากๆ ไม่กลั้นปัสสาวะ ไม่ใส่เสื้อผ้าอับชื้น ครับ
แนะนำให้ ไปพบแพทย์หรือสูตินรีแพทย์ เพื่อตรวจร่างกาย ตรวจภายใน และอาจนำตกขาวไปตรวจเพิ่มเติมเพื่อจะได้วินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง และที่สำคัญถ้านำคู่นอนไปตรวจด้วยก็จะดีครับ เผื่อเป็นโรคที่จะต้องรักษาด้วยครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หนูเป็นประจำเดือนวันที่30 กค. หายวันที่6 สค. แล้ววันที่6-7-8-12 หนูได้มีเพศสัมพันกับแฟนหลั่นใน วันที่17 ได้มีเลือดออกจากช่องคลอดหนูสีน้ำตาล ออกมาครั้งละนิด เป็นมา5 วัน แล้วในวันที่23 มีเลือดสีแดงคล้ายประจำเดือนออกมาเป็นลิ่มๆ นิดเดียว แล้วมื้อวานได้มีตกขาวปนเลือดออกมาเป็นสีชมพู ซึ่งหนูตรวจครรภ์แล้วขึ้นขีดเดียว หนูเลยกินยาสตรีไปนิดหน่อย แล้ววันนี้ตกขาวก็เป็นเมือกใสๆปกติ สาเหตุจากอะไรคะ หนูจะท้องไหมคะ รึเป็นอย่างอื่น เคียดมากคะ 17ปี เป็นมะเร็งมดลูกได้ไหมคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)