December 26, 2019 13:34
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
1.เบื้องต้นเเนะนำให้ไป รพ.ตามสิทธิ แผนกอายุรกรรมครับ
ถ้าไปโรงพยาบาลตามสิทธิการรักษา สามสิบบาท ประกันสังคม ก็เบิกได้ครับ
(เช็คสิทธิที่สายด่วนสปสช.1330)หรือhttp://eservices.nhso.go.th/eServices/mobile/login.xhtmlถ้าเป็นข้าราชการก็เบิกได้ทุก โรงพยาบาลรัฐครับ
ถ้ารพ.ที่เรามีสิทธิการรักษา ไม่มีเเพทย์สาขานั้น ทางรพ.จะพิจารณาเขียนใบส่งตัวไปรพ.ใหญ่ครับ
เเต่ถ้ามีทุนทรัพย์ สะดวกจ่ายค่ารักษาเอง เเละไม่อยากเสียเวลา ก็ไป รพ.ใหญ่ที่ไม่มีสิทธิการรักษาได้เลยครับ รพ.ใหญ่ๆ เช่น ศิริราช รามา หรือถ้า ต่างจังหวัดก็ต้อง รพ.ศูนย์ครับ
เเละควรนำผลEcho ผลเลือด ผลส่องกล้อง ขอจากเเผนกเวชระเบียน รพ.เดิม ไปรพ.ถัดไปด้วยครับ
เเละห้ามซื้อยากินเอง กินยาตามที่หมอจ่ายครับ เท่าที่ดูก็ช่วยเรื่องหัวใจด้วยครับ
2.ค่าฉีดสีคร่าวๆ รพ.เอกชน ประมาณ 35,000-50,000 ครับ รพ.รัฐจะน้อยกว่าครับ
3.ไม่ทราบจริงๆครับ ว่าค่าอะไร
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
สวัสดีครับ พ่อผมเมื่อ 9 ปีก่อนเคยมีอาการน้ำท่วมปอดและหัวใจโต จนต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจนหายและมีการไปหาหมอเป็นระยะๆ ระยะหลังเริ่มซื้อยากินเองก็มีปรับเปลี่ยนยาไปเรื่อยจากร้านขายยาจนมามีอาการถ่ายเป็นสีดำเหมือนถ่าน ได้ 3 วัน เข้าคืนวันที่ 4 เริ่มมีอาการแน่นหน้าอก คล้ายเมื่อ 9 ปีก่อนจึงรีบไปหาหมอเสียก่อน หมอเฉพาะทางโรคหัวใจดูประวัติเดิมและผลเลือดโดย บอกว่าค่าปรกติไม่ควรเกิน 14 แต่นี่วัดได้ถึง 18 บวกกับอาการถ่ายดำน่าจะมีเลือด ออกในทางเดินอาหารร่วมอีก น่าจะมีภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบพร้อมกันนี่ก็ได้ทำ Echoด้วยจึงแนะนำให้ย้ายไปโรงพยาบาลที่มีสิทธิ์รักษา เพราะมี หมอหัวใจ 24 ชั่วโมง ซึ่งท่านก็ไม่ได้ระบุว่าควรจะต้องรักษาอาการโรคหัวใจนี่ต่อไปอย่างไร ย้ายโรงพยาบาลมา หมอก็ทำการรักษาเรื่องทางเดินอาหารก่อนด้วยการส่องกล้องพบแผลนิดหน่อยซึ่งน่าจะมาจากการกินยาแอสไพรินโดยหมอไม่ได้ควบคุมจึงได้ทำการจ่ายยารักษาให้ และถือว่าเสร็จสิ้นในเรื่องทางเดินอาหาร ส่วนเรื่องหัวใจนั้นหมอว่าต้องฉีดสีซึ่งคิวยังไม่รู้ว่ายาวขนาดไหน แต่นานแน่ๆ จึงอนุญาติให้กลับบ้านได้และปรับเปลี่ยนยาให้ไปทาน แค่ 15 วัน โดยแจ้งว่าหากจะ ไปทำการรักษาที่อื่นก็แค่เอารายการยาให้หมอที่โรงพยาบาลใหม่ดู หรือ หากยังไม่สะดวกก็ให้มาที่โรงพยาบาลเดิมเพื่อขอรับยาไปทานต่อก็ได้ รายการยาดังนี้ ENALAPRIL MALEATE 5 MG TAB (ED) 15 เม็ด รับประทานครั้งละ 1 เม็ด วันละะครั้ง หลังอาหารเช้า CARVEDILOL 12.5 MG TAB.(ED) 15 เม็ด รับประทานครั้งละ ครึ่ง เม็ด วันละ2ครั้ง หลังอาหารเช้า,เย็น SIMVASTATIN 20 MG TAB (ED) 7 เม็ด รับประทานครั้งละ ครึ่ง เม็ด วันละ 1คร้้ง ก่อนนอน 25 MG-SPIRONOLACTONE TAB (HYLES.25.)(ED)7เม็ด รับประทานครั้งละ ครึ่ง เม็ด วันละ 1คร้้ง หลังอาหารเช้า เรียนถามดังนี้ครับ 1.หากเลือกรักษาเองที่โรงพยาบาลอื่น เราควรเริ่มการรักษาใหม่เลย หรือควรเข้าไปแจ้งเลยว่าจะทำการฉีดสีเชคหลอดเลือดหัวใจ ช่วยแนะนำด้วยครับ 2.การทำบอลลูนหัวใจ ในโรงพยาบาล รัฐบาล กับ เอกชน มีค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไรครับแล้วถ้ามากกว่า 1 เส้นเขาคิดเงินเพิ่มแบบไหน 3.ผลเลือดที่หมอบอกว่าไม่ควรเกิน 14 นี่เป็นค่าของอะไรเหรอครับ แล้วมันบ่งบอกได้เลยใช่ไหมครับว่ามีภาวะหลอดเลือดตีบ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)