ดิฉันอายุ24ปีค่ะ มีเพศสัมพันธ์แบบป้องกันและไม่ได้ป้องกันนานๆจะเจอกับแฟนทีค่ะ เริ่มมีอาการตกขาวสีเหลืองและคันทุกครัิงหลังจากมีเพศสัมพันธ์ซื้อยามารักษาตัวเอง หายบ้างแล้วกลับมาเป็นใหม่ มีปัญหาช่องคลอดไม่กระชับพอมีอะไรกับแฟนแล้วจะมีเสียงผายลมในช่องคลอดค่ะ จึงเริ่มซื้อเซรั่มผ่านทางอินเทอร์เน็ตมาใช้ ตกขาวจากสีเหลืองเปลี่ยนเป็นสีเขียวค่ะ จึงหยุดใช้ แล้วไปซื้อยาจากร้านขายยามารักษาตัวเองอีก ซื้อ metronidazole มากินได้ไม่กี่วันก็กินต่อไม่ไหวอยากจะอ้วก จึง กินๆขาดๆ หลังจากนั้น ตกขาวก็เป็นสีเขียวอยู่ เริ่มมาอาการปวดก้นด้านซ้ายและขวาสลับกันและปวดหลังช่วงล่างค่ะ จึงตัดสินใจไปพบหมอนรีเวช เล่าอาการให้หมอฟังว่า มี SI แบบนี้ แล้วเวลามีประจำเดือนจะปวดปีกมดลูกข้างซ้ายข้างเดียวตลอด มีตกขาวสรเขียว คัน ปัสสาวะแสบขัด หมอจึงตรวยภายในและ pap smae พร้อมกับเอาตกขาวออกมาให้เราดูว่าเป็นแบบนี้ใช่มั้ย หมอบอก มีมดลูกอักเสบด้วยนิดหน่อยแล้วก็สั่งยาเป็นแคปซูล 4 แคปให้กินก่อนนอนครั้งเดียว แล้วหมอก็อัลตราซาวด์ให้พบว่ามีผังผืดที่ปีกมดลูกข้างซ้ายขนาดเท่าลูกปิงปอง หมอบอกต้องรักษาด้วยยาคุม ตอนนี้ฉีดยาคุมชนิด 3เดือนไปแล้ว 1เข็มค่ะ หลังจากกินยาแล้วเหมือนจะหายแต่ก็กลับมามีตกขาวสีเขียวอีก ด้วยความที่กังวลผล pap smea 1สัปดาห์ต่อมาจึงไปหาหมออีก หมอบอกผล pap smea ปกติ อาการตกขาวสีเขียวหมอจึงจ่ายเป็น metronidazole ให้กิน 3 เวลา 7วันค่ะ กินได้ 2-3วันก็กินต่อไม่ไหว แล้วรุ้สึกว่าอาการไม่ดีขึ้นค่ะ เหมือนจะหายเอาทิชชู่เช็ดก็ยังมีสีเขียวติดมาอีก คราวนี้เริ่มมีอาการแสบช่องคลอดด้วยค่ะ สังเกตว่าปากช่องคลอดเริ่มแดง แสบ เลยหาข้อมูลในเน็ต เห็นอาการคล้ายๆหนองในจึงสั่งยาจากเพจมากินเป็น Azithromycine 1 gm หลังจากกินแล้ว รู้สึกคันอย่างเห็นได้ชัด แล้วตกขาวสีเขียวก็ออกมาอย่างชัดเจน คือหนูอยากทราบว่าหลังกินยาควรสังเกตุอาการอีกนานเท่าไหร่จึงจะเห็นผล หรือหมอคิดว่าหนูเป็นโรคอะไร ต้องปฏิบัติตัวและรักษายังไงคะ