February 01, 2017 11:33
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
-หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ หากมีอาการคันพยายามไม่ขยี้ตา ให้ใช้ยาหยอดตา และหากตาแห้งก็ควรใช้น้ำตาเทียมหยอด วันละ 3-4 ครั้ง
-ใช้น้ำมันละหุ่ง น้ำมันอัลมอนด์ น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันงา น้ำมันอโวคาโด น้ำมันจากแคปซูลวิตามินอี น้ำมันจากแคปซูลวิตามินเค น้ำผึ้ง หรือกลีเซอรีน นำมานวดรอบ ๆ ดวงตาทิ้งไว้ข้ามคืน
-ใช้เจลเย็นเย็นแล้วนำมาปิดรอบดวงตาเว้นตรงบริเวณดวงตาเอาไว้ ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที สูตรนี้จะช่วยคลายเครียดกล้ามเนื้อดวงตา ถนอมดวงตาและถนอมหลอดเลือดรอบตา
-ดูแลตัวเอง โดยเริ่มจากการลดบริโภคอาหารไม่มีประโยชน์ แล้วหันมารับประทานอาหารที่มีประโยชน์แทน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ดื่มน้ำมะเขือเทศที่ผสมกับน้ำมะนาวและเกลือ เน้นเพิ่มอาหารที่มีวิตามินซีในทุกมื้ออาหาร ,ดื่มน้ำให้มาก ๆ ในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตให้ดีขึ้น,หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ, เลิกสูบบุหรี่, หลีกเลี่ยงแสงแดด ,กำจัดความเครียดพร้อมทั้งนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ,หนุนหมอนในขนาดพอเหมาะที่สามารถยกให้ศีรษะสูงขึ้นเหนือระดับของหัวใจเล็กน้อย และให้นอนในท่าหงาย เพื่อช่วยป้องกันของเหลวที่ไหลมารวมกันอยู่บริเวณศีรษะ
-ใช้ครีม/คอลซีลเลอร์ปกปิดรอยดำคล้ำ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
ใต้ตาคล้ำจากภูมิแพ้เรียกว่า Allergic shiners ค่ะ คนไข้มักเข้าใจว่าต้องทาครีม ทำทรีทเม้นต์ ทำเลเซอร์ถึงจะหายใต้ตาคล้ำได้ จริงๆควรรักษาที่ต้นเหตุที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ค่ะ
อยากแรกเลยต้องหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ที่ทำให้เราแพ้ เช่น ตัวไรฝุ่น, แมลงสาบ, เชื้อรา, รังแคของสัตว์เลี้ยง, ละอองเกสร เป็นต้น
ส่วนการรักษาโรคภูมิแพ้มีดังนี้ค่ะ
1. ยากลุ่ม Antihistamine and Decongestants
* Decongestants คือยาที่ช่วยลดอาการบวมของเยื่อบุโพรงจมูก เช่น Pseudoephridine
* Antihistamine คือยาที่ช่วยลดอาการแพ้ หรือมีน้ำมูก หรือคันตามเยื่อบุต่างๆ เช่น Chlorpheniramine, Brompheniramine, Loratadine, Fexofenadrine เป็นต้น
2. ยาพ่นจมูก (Nasal Spray)
เช่น Steroid Spray ซึ่งมักจะได้ผลดี จนในที่สุดเราจะสามารถหยุดยากินในกลุ่ม Antihistamine and Decongestants ได้ แต่ยากลุ่มนี้มักจะไม่เห็นผลทันทีที่ใช้ อาจจะจำเป็นต้องรอดูผล 1-2 สัปดาห์หลังจากเริ่มใช้ ถ้าคนไข้มีอาการบวมที่โพรงจมูก หรือมีอาการทางจมูกค่อนข้างมาก อาจจะจำเป็นต้องใช้ยากลุ่ม Corticosteroids ชนิดกินในระยะสั้นๆ นำไปก่อน ก็ได้ผลดียิ่งขึ้น
3. การรักษาด้วยวิธีทางอิมมูน (Immunotherapy หรือ Allergic Shot)
วิธีการนี้คือการฉีดสารที่ผู้ป่วยแพ้ ในปริมาณน้อยๆแล้วเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ เข้าสู่ร่างกายผู้ป่วย ส่งผลให้ ร่างกายของผู้ป่วยมีความไวต่อสารแพ้นั้นๆ น้อยลง และช่วยเพิ่มปริมาณของ Antibody (ที่ไม่ใช่ตัวที่ก่อขบวนการของภูมิแพ้) ที่จะไปแก่งแย่งจับกับสารแพ้ เมื่อสารแพ้เข้าสู่ร่างกายทำให้เกิดปฏิกิริยาการแพ้น้อยลง ในอนาคต ก่อนเริ่มการรักษาวิธีนี้ แพทย์จะทำการตรวจทั้ง Skin Test และการตรวจเลือดเพื่อหาสิ่งที่ผู้ป่วยแพ้ หรือตัวกระตุ้นโรคภูมิแพ้ของผู้ ป่วย ที่จำเพาะเจาะจงก่อน
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ใต้ตาคล้ำจากภูมิแพ้รักษาอย่างไรคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)