January 28, 2019 17:49
ตอบโดย
สุพิชชา แสงทองพราว (พญ.)
อาการท้องเสียเกิดได้จากสาเหตุต่างๆ ที่พบได้บ่อย ได้แก่
- สารพิษหรือ toxin ที่เชื้อแบคทีเรียสร้างขึ้นมา ที่ปะปนอยู่ในอาหาร เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจึงทำให้เกิดอาการถ่ายเหลว เนื่องจากเป็นปฏิกิริยาของร่างกายเอง เพื่อจะกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย โดยมาก เมื่อถ่ายของเสียออกมาจนหมด อาการจะหายไป ไม่มีไข้ ลักษณะอุจจาระจะเป็นสีเหลือง หรือสีน้ำตาล สีเขียวอาจเกิดจากน้ำดีที่หลั่งออกมา แต่ยังไม่ทันได้ใช้ย่อยอาหาร ลำไส้ก็บีบตัวเร็วเพื่อขับของเสียออกไป อาจพบมีคลื่นไส้อาเจียน ท้องอืด จุกแน่นท้อง ปวดท้องบีบๆเป็นพักๆ ได้. อาการอาจเป็นได้นาน 1-3 วัน
- ติดเชื้อแบคทีเรียในลำไส้ เกิดจากเชื้อแบคทีเรียโดยตรง ติดเชื้อเข้าไปอาศัยในเยื่อบุของลำไส้ ทำให้เกิดอาการลำไส้อักเสบ อาการที่พบมักมีถ่ายเหลวมาก อ่อนเพลีย มักมีไข้ ถ่ายอุจจาระอาจมีมูกหรือปนเลือดออกมาได้ อาการปวดท้องเนื่องจากร่างกายพยายามขับไล่เชื้อและของเสียออกไป จึงทำให้ลำไส้บีบตัวแรง อุจจาระมักมีกลิ่นเหม็นมาก อาการลำไส้อักเสบ สามารถรักษาได้ด้วยยาฆ่าเชื้อ
วิธีดูแลเบื้องต้นเมื่อท้องเสีย คือการดื่มน้ำเกลือแร่ ให้เพียงพอ เพื่อชดเชย น้ำและเกลือแร่ที่สูญเสียออกไปกับอุจจาระ และทานยาตามอาการ เช่นยาแก้ปวดท้อง ลดอาการหดเกร็งลำไส้ แก้คลื่นไส้อาเจียน ยาขับลม
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
มีแก๊สในท้องมากค่ะ เรอบ่อย แล้วก็มีอาการท้องเสียค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)