การตรวจ Antistreptolysin O (ASO) โดยการเจาะเลือดไปตรวจ ทำเพื่อวินิจฉัยว่าเชื้อแบคทีเรียชนิด Group A Streptococcus เป็นสาเหตุของภาวะไตอักเสบ หรือไข้รูมาติก ที่เป็นภาวะแทรกซ้อนจากอาการเจ็บคอหรือไม่ หากแพทย์สงสัยว่าผู้ป่วยมีอาการของภาวะไข้รูมาติก อาจต้องมีการทดสอบอื่นๆ เพิ่มด้วย เช่น การตรวจ Anti-DNAse B เป็นต้น
ชื่ออื่น: ASLO
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ชื่อทางการ: Antistreptolysin O Titer
จุดประสงค์การตรวจ Antistreptolysin O (ASO)
การตรวจ Antistreptolysin O (ASO) ทำเพื่อวินิจฉัยว่าการติดเชื้อแบคทีเรียชนิด Group A Streptococcus เป็นสาเหตุของภาวะไตอักเสบ หรือภาวะไข้รูมาติกในผู้ป่วยที่มีอาการเบื้องต้นหรือไม่
แพทย์อาจพิจารณาให้ตรวจ ASO เพียงชนิดเดียว หรือทำควบคู่กับการตรวจ Anti-DNase B ซึ่งใช้ตรวจหาการติดเชื้อ Streptococcus ก็ได้ เมื่อตรวจพบว่ามีการติดเชื้อ Streptococcus และรักษาโดยใช้ยาปฏิชีวนะ ผู้ป่วยจะสามารถหายเป็นปกติได้ในเวลาไม่นาน
เมื่อไรที่ต้องตรวจ Antistreptolysin O (ASO)?
แพทย์จะตรวจ ASO ก็ต่อเมื่อผู้ป่วยมีอาการที่แพทย์สงสัยว่าเกิดจากการติดเชื้อ Streptococcus โดยเฉพาะอาการเจ็บคอ โดยการตรวจมักทำหลังจากที่ผู้ป่วยมีอาการเจ็บคอหรือติดเชื้อที่ผิวไปแล้ว 1 สัปดาห์ ซึ่งแบคทีเรียจะไม่ได้อยู่ในคอหรือผิวอีกต่อไป
นอกจากนี้ แพทย์อาจตรวจ ASO เมื่อพบอาการเบื้องต้นของไข้รูมาติก เช่น
- เป็นไข้
- ข้อบวม และรู้สึกปวดมากกว่า 1 ข้อ โดยเฉพาะในข้อเท้า หัวเข่า ข้อศอก และข้อมือ
- ข้อเคลื่อน
- มีก้อนขนาดเล็กใต้ผิวซึ่งไม่ทำให้รู้สึกเจ็บ
- เคลื่อนไหวแบบกระตุกและเร็ว
- มีผื่นที่ผิว
- หัวใจอักเสบ ซึ่งผู้ป่วยอาจมีอาการหายใจหอบ ใจสั่น หรือเจ็บหน้าอก
รวมถึงตรวจ ASO ในผู้ที่มีอาการเบื้องต้นของภาวะไตอักเสบ ดังนี้
- อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
- มีปัสสาวะน้อย และมีเลือดปนมากับปัสสาวะ
- มีผื่น
- ปวดข้อ
- บวมน้ำ
- ความดันโลหิตสูง
แพทย์อาจตรวจ ASO 2 ครั้ง โดยใช้ตัวอย่างที่เก็บห่างกันประมาณ 2 สัปดาห์ ซึ่งการตรวจนี้ช่วยให้วินิจฉัยได้ว่าระดับของแอนติบอดีเพิ่มขึ้น ลดลง หรือเท่าเดิม
วิธีเก็บตัวอย่างเลือดเพื่อตรวจ Antistreptolysin O (ASO)
แพทย์จะตรวจ ASO จากเลือดโดยการแทงเข็มเข้าไปในเส้นเลือดดำที่แขน ซึ่งผู้เข้ารับการตรวจจะต้องงดรับประทานอาหารอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนตรวจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
รายละเอียดการตรวจ Antistreptolysin O (ASO)
Antistreptolysin O (ASO) เป็นแอนติบอดีที่จะไปทำลายเอนไซม์ Streptolysin O ที่ผลิตโดยแบคทีเรียชนิด Group A Streptococcus ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่เป็นพิษต่อร่างกาย
Group A Streptococcus (Streptococcus pyogenes) เป็นแบคทีเรียที่ทำให้เกิดอาการคออักเสบ และทำให้เกิดการติดเชื้อประเภทอื่นๆ เช่น การติดเชื้อที่ผิวหนัง (Pyoderma Impetigo Cellulitis) เมื่อติดเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ แล้วผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษา หรือได้รับการรักษาที่ไม่มีประสิทธิผล อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ไข้รูมาติกหรือภาวะไตอักเสบ เป็นต้น ซึ่งทั้ง 2 ภาวะดังกล่าว อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ่อนที่ร้ายแรง เช่น
- หัวใจเสียหาย
- ไตทำงานผิดปกติแบบเฉียบพลัน
- เนื้อเยื่อบวม
- ความดันโลหิตสูง
ความหมายของผลตรวจ Antistreptolysin O (ASO)
ร่างกายจะผลิต ASO Antibodies ภายใน 1-4 สัปดาห์หลังจากที่ติดเชื้อ Streptococcus เริ่มแรก ปริมาณของ ASO antibody จะสูงที่สุดประมาณ 3-5 สัปดาห์ แม้อาการเจ็บป่วยจากการติดเชื้อจะดีขึ้นจนเกือบหายเป็นปกติแล้ว แต่ก็ยังคงตรวจพบ ASO ได้อีกหลายเดือน ผู้ป่วยมากกว่า 80% ที่เป็นโรคไข้รูมาติก และผู้ป่วย 95% ที่มีภาวะไตอักเสบเฉียบพลันที่เกิดจาก Streptococcus จะมีค่า ASO มากขึ้น
ผลตรวจ ASO ที่เป็นลบ หรือ ASO มีความเข้มข้นน้อยหมายความว่าผู้เข้ารับการตรวจมีแนวโน้มที่จะไม่ได้ติดเชื้อ Streptococcus โดยเฉพาะถ้าเก็บตัวอย่างหลังจากผลตรวจเป็นลบ 10-14 วัน และหากผลตรวจ Anti-Dnase B เป็นลบ
ส่วนการมีผลตรวจ ASO เป็นบวก หรือความเข้มข้นของ ASO เพิ่มขึ้น หมายความว่าผู้เข้ารับการตรวจมีแนวโน้มที่จะติดเชื้อ Streptococcus อย่างไรก็ตาม การตรวจ ASO ไม่ได้พยากรณ์ว่าภาวะแทรกซ้อนจะเกิดขึ้นหลังจากติดเชื้อ Streptococcus เป็นเพียงการยืนยันการวินิจฉัยว่าเกิดจากการติดเชื้อดังกล่าวจริงเท่านั้น
สิ่งที่ควรรู้เกี่่ยวกับการตรวจ Antistreptolysin O (ASO)
การใช้ยาปฏิชีวนะบางชนิด และคอร์ติโคสเตียรอยด์อาจทำให้ ASO antibody ลดลงได้
นอกจากการตรวจ ASO แล้ว หากแพทย์สงสัยว่าผู้เข้ารับการตรวจมีภาวะไข้รูมาติก อาจต้องตรวจเพิ่มเติมอื่นๆ เช่น Anti-DNAse B Anti-hyaluronidase หรือ Anti-streptozyme